“ประเทศไทย” มีสถาบันอุดมศึกษาทั้งของ “รัฐ” และ “เอกชน” กว่า 100 แห่ง...มีนิสิต นักศึกษารวมกันกว่า 1 ล้านคน มีคณาจารย์นักวิชาการหลายแสนคน เป็นขุมกำลังทางปัญญาที่ใหญ่ที่สุด ทำอย่างไร...ขุมกำลัง 100 มหาวิทยาลัย จะเป็น “พลังทางปัญญา” พาชาติออกจากวิกฤติ

นี่คือประเด็นเร่งด่วนที่ อาจารย์หมอประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ย้ำเสมอเหมือนว่า “ผู้ใหญ่” ต้องตีโจทย์ให้แตกและลงมือปฏิบัติโดยเร็วพลัน

ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจปีล่าสุด “ประเทศไทย” มีประชากร 66.5 ล้านคนเป็นกลุ่มคนเจเนอเรชันซี 13 ล้านคน โดยมี “เจนซี” ที่อยู่ในภาคใต้มากถึงเกือบ 2.13 ล้านคน หรือร้อยละ 16.41 ของเจนซีทั้งประเทศ แสดงให้เห็นถึงโอกาส...ศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในภาคใต้ที่สามารถเติบโต พัฒนาก้าวขึ้นมาได้ในอนาคต

เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เหลียวไปมองตัวเลขการ “ส่งออก” ของไทยโตขึ้นถึง 43.82% เป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 11 ปี และตัวเลขการส่งออกครึ่งแรกของปี 2564 ขยายตัวถึง 15.53% โดยปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวมากขึ้น มาจากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังได้รับวัคซีน

...

ยิ่งไปกว่านั้นคือมาจากการดำเนินการตามแผนการส่งเสริมการส่งออก “กระทรวงพาณิชย์” ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้เตรียม “แผนกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2564” ด้วยการหนุนสินค้าอาหารและเกษตรส่งออก พร้อมเร่งสร้างทัพผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ...น้องๆ “Gen Z” ที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตอันใกล้นี้

โครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ “From Gen Z to be CEO” จึงเป็นอีกจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆที่สำคัญ ตามนโยบาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มุ่งหมายยกระดับความพร้อม พัฒนาศักยภาพ องค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับผู้ประกอบการ

...ที่จะช่วยขับเคลื่อนการส่งออกของไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ (NEA) กระทรวงพาณิชย์

ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบันมีผู้สมัครฝึกอบรมแล้วกว่า 16,500 ราย อบรมผ่านไปแล้วกว่า 7,000 ราย และจะมีผู้ประกอบการ “Gen Z” จากภาคใต้ผ่านการอบรมเป็น CEO ยุคใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 5,000 ราย...สำหรับน้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีจุดเริ่มโครงการถือเป็นโอกาสทอง

หลักสูตรนี้จะช่วยพัฒนาตนเองให้ทันโลกยุคใหม่ ลองจินตนาการถึงอนาคตอันใกล้ แค่ 5-10 ปี ข้างหน้า น้องๆทุกท่านในวันนี้จะเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย...ทุกคน ในที่นี้มีความสำคัญต่อประเทศชาติมากขนาดไหน

“ประเทศเราพัฒนามาเรื่อยๆเราจะทำเฉพาะการส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจการเมืองประชาธิปไตย เข้าใจบริบทของสังคม ไม่พอ แต่...ต้องมีความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการค้า และการค้ายุคนี้เปลี่ยนรูปแบบไปโดยสิ้นเชิงจากระบบการค้าแบบออฟไลน์เป็นการค้ายุคนิวนอร์มอล”

ที่ต้องเน้นการค้าออนไลน์มากขึ้น...กลยุทธ์เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นระบบดิจิทัล

...

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวย้ำในการประชุมออนไลน์กันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีปลัดกระทรวง พาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้บริหารภาคเอกชน รวมทั้ง “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่” จาก “ภาคใต้”

อัณศยา สมประสงค์ หรือ “น้องเดล” คณะวิทยาการจัดการ สาขานิเทศศาสตร์เอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี บอกว่า โครงการนี้ได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจในยุคสมัยนี้ได้ดีมากคำว่าธุรกิจอาจจะดูไกลตัวเราไปหน่อย แต่พอได้มาเข้าอบรมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก

“เราเองก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้ โครงการก็ให้ความรู้เราได้อย่างตรงจุด ทั้งเทคนิคการทำธุรกิจบิสซิเนสอิงลิช แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ต่างๆและได้ความรู้เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าด้วยค่ะ พูดเลยว่าคุ้มค่ามากๆ อยากให้มีโครงการดีๆแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ มีครั้งหน้าอีกก็อยากเข้ามาร่วมโครงการอีก”

...

ภูวนาถ สุริยัน หรือ “น้องบี้” คณะวิทยาการจัดการ สาขานิเทศศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เสริมว่า รู้สึกยินดีมากครับที่ได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ช่วง 3 วันที่ผ่านมาทำให้มีความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้หรือสร้างประโยชน์ในอนาคตได้ ที่สำคัญ...ได้เรียนรู้วิธีคิด จาก Gen Z to CEO

“ผู้ที่มาให้ความรู้มีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น... เจาะลึกแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ หรือ...รู้ทันระบบขนส่งสินค้าออนไลน์ ด้วยโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ทั้งหมดที่ได้เข้าร่วม เรียนรู้สามารถนำไปพัฒนาได้จริง...สามารถนำไปสู่คำว่า From Gen Z to be CEO ได้ครับ”

ย้ำว่า “อาวุธ” ที่จะใส่เข้าไปให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ จะมี 7 หลักสูตรด้วยกันครอบคลุมทุกด้าน เช่น...การเจาะลึกมุมมองการค้ารูปแบบดิจิทัลระหว่างประเทศ สร้างแรงบันดาลใจมุ่งสู่ตลาดโลก ดำเนินการอบรมโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ที่เป็นแบบอย่างในการประสบความสำเร็จทางด้านการค้าระหว่างประเทศ

เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ “Gen Z” ผู้สนใจการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และสิทธิพิเศษถ้าติดท็อป 500 คน จะมีโอกาสเข้าไปเรียนเพิ่มทักษะต่างๆกับเครือข่ายพันธมิตรของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

...

ในส่วนผลสอบติดท็อป 100 คนแรก...จะมีโอกาสไปฝึกงานในบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น บริษัทหัวเว่ย...รวมทั้งระบบการทำธุรกิจ “บิทคอยน์” ซึ่งเป็นการบริหารจัดการการเงินยุคใหม่

“ซีอีโอ (Gen Z)” ตัวจริงยุคใหม่เหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ระดับสากลในอนาคต แน่นอนว่ากว่าจะถึงวันนั้นแต่ละคนต้องผ่านร้อนผ่านหนาวกันพอสมควร

จุรินทร์ บอกอีกว่า ในภาวะที่เราประสบกับปัญหาโควิด “การค้า” และ “การส่งออก” กลายเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ...เป็นกุญแจดอกสำคัญทั้งในวันนี้และในวันข้างหน้า มั่นใจว่าทุกคนมีศักยภาพเป็นแม่ทัพบุกตลาดโลกนำรายได้เข้าประเทศต่อไป ซึ่งเป็นประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ

“รายได้” ที่นำเข้ามาทั้งหมดจะแปลงเป็น “ภาษี”...เป็นรายได้

ส่วนหนึ่งนำไปพัฒนาชนบท จังหวัดต่างๆ ทั้งไฟฟ้า ประปา อุดหนุนระบบการศึกษา นับรวมไปถึง...ประกันรายได้เกษตรกร “เงิน” เหล่านี้ก็จะมาจากแม่ทัพอย่างพวกเราในอนาคตที่จะไปบุกตลาดโลกนำรายได้เข้าประเทศ

เมื่อประกอบธุรกิจก็จะทำให้มีคนมีงานทำในภาคแรงงานต่อไป

ภายใต้นโยบาย “กระทรวงพาณิชย์ ผลิต Gen Z เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” มุ่งมั่นที่จะเปิดโอกาส สร้างคนยุคใหม่ เจเนอเรชันใหม่ ให้กลายเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่อายุยังน้อย

เพราะเราเชื่อมั่นในศักยภาพของน้องๆทุกคน และ...เชื่อว่าการได้รับการส่งเสริมสนับสนุนที่ถูกต้อง การได้รับข้อมูลที่เหมาะสม ทันสมัย เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอด ปรับใหม่ ไอเดียใหม่ ให้กลายเป็นธุรกิจยุคใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับน้องๆ ครอบครัว และประเทศชาติได้อย่างแน่นอน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่” คือหนึ่งในก้าวสำคัญที่จุดประกายความหวัง เพื่อให้น้องๆ “Gen Z” ก้าวไปสู่ “CEO”...กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจชาติต่อไป.