กรมอนามัย เน้นย้ำให้ผู้ขนส่งอาหาร ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากพบมีอาการป่วยให้หยุดงานทันที เพื่อลดการติด-แพร่เชื้อ "โควิด-19"
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างในขณะนี้ ความนิยมในธุรกิจการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่มีมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานที่ต้องอยู่กับบ้าน ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินในปี 2563 พบว่ามีบริการส่งอาหาร 66 - 68 ล้านครั้งต่อปี และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นปีละกว่าร้อยละ 70
จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงจำนวนการใช้บริการ เดลิเวอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสถานการณ์ช่วงนี้ผู้ขนส่งอาหาร (Rider) ในฐานะคนกลางสำหรับการส่งต่ออาหารจากร้านค้าไปยังผู้บริโภคต้องคุมเข้มความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 โดยขอให้ผู้ขนส่งอาหาร (Rider) ยึดมาตรการทั้ง 9 แนวทาง ดังนี้
1. คัดกรองและประเมินตนเอง ผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus และบันทึกข้อมูลของตนเอง หากมีอาการป่วยให้หยุดงานและไปพบแพทย์ทันที
2. กล่องบรรจุอาหารท้ายยานพาหนะต้องแข็งแรง ปกปิดมิดชิด และทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ทุกครั้งก่อนปฏิบัติงาน
3. สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลา
4. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
5. รอรับอาหารในจุดที่ร้านกำหนด
6. งดรวมกลุ่มพูดคุย สูบบุหรี่ และเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ณ จุดพักคอย
7. ตรวจสอบความสะอาดของกล่องบรรจุอาหารทันทีหลังได้รับจากร้านอาหาร
8. ไม่เปิดกล่องบรรจุอาหารจนกว่าจะถึงมือผู้สั่งซื้อ และก่อนเปิดกล่องทุกครั้งต้องล้างมือให้สะอาด
9. ทำความสะอาดมือและถุงมือก่อนและหลังการรับ-ส่งอาหาร โดยให้ผู้ขนส่งอาหาร (Rider) ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
...
สำหรับผู้ประกอบการที่มีระบบบริการอาหารแบบเดลิเวอรี่ในการจัดส่งให้กับผู้ซื้อ ต้องเน้นย้ำให้ผู้ขนส่งอาหาร (Rider) ควรอยู่ห่างจากลูกค้าอย่างน้อย 1 เมตร และห้ามวางอาหารบนพื้น สำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ปรุงให้สุกด้วยความร้อนไม่น้อยกว่า 70 องศาเซลเซียส นานกว่า 5 นาที
ในส่วนของผู้สั่งซื้ออาหารหรือผู้บริโภคให้จัดเตรียมภาชนะรองรับอาหาร เช่น กล่องหรือโต๊ะแบบพับได้ และให้ยืนห่างจากผู้ขนส่งอาหาร (Rider) อย่างน้อย 1 เมตร หลังจากรับอาหาร ให้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ และควรจ่ายค่าบริการโดยวิธี e-payment หรือเตรียมเงินสดให้พอดีเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินทอน ก็จะช่วยให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงโควิด–19 ได้.