สูงกว่า...กทม.-ต่างจังหวัด แม้กรุงเทพมหานครตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจะยังสูงอยู่เกาะติดไปกับตัวเลขรวมทั้งประเทศที่เป็นรายวัน คือ ทะลุหมื่นห้ามา 2-3 วันติดกัน
“จะเห็นว่าการเสียชีวิตค่อนข้างกระจายทั่วประเทศ ไม่ได้จำกัดเฉพาะ กทม. และปริมณฑล หรือเฉพาะจังหวัดที่อยู่ในกลุ่มสีแดงเข้ม”
ที่สำคัญยังคงอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ในจำนวนวันนอนเตียงที่มีอัตราการครองเตียงที่นานและมีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 5 ราย
“ถ้าเทียบกับตัวเลขของทั้งประเทศ จะเห็นว่าตอนนี้อัตราส่วนของ กทม. และปริมณฑล เป็น 41% ส่วนต่างจังหวัด 71 จังหวัด ได้แซงหน้า กทม. และปริมณฑลไปแล้วอยู่ที่ 59%”
หลังจากรัฐบาลประกาศ “ล็อกดาวน์” 2 ขยักจำนวน 1 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้คนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานก็ต้องตกงานไปทันที
นั่นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับบ้านเกิด เป็นทางเลือกสุดท้าย เพื่อให้มีชีวิตรอดเพราะยังไงเสียก็ยังมีบ้านมีข้าว มีญาติพี่น้องดูแลกันได้
นี่แหละคือเหตุที่ทำให้เกือบทุกจังหวัดเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาอีก
มีเพียงจังหวัดเดียวที่รอดคือ แม่ฮ่องสอน...
แน่นอนว่าภาครัฐแรกๆก็ไม่อยากให้มีการเดินทางก็พยายามที่จะห้าม แต่ก็ไม่มีทางบังคับได้เพราะให้พวกเขาอยู่กรุงเทพฯ ก็อยู่ไม่ได้
เสี่ยงกับการติดเชื้อ เพราะเป็นแหล่งใหญ่สุดของประเทศ
มาหลังๆนี้จึงต้องให้การสนับสนุนจัดรถรับส่ง โดยให้ทหารเข้ามาปฏิบัติการทั้งระบบ เพื่อให้ความสะดวกในการเดินทาง
ป้องกันติดเชื้ออีกด้วย
มีผู้ว่าฯบางจังหวัดต้องการจะสร้างภาพด้วยการประกาศเชิญชวนให้เดินทางกลับ ทางจังหวัดยินดีต้อนรับ
ก็เลยยิ่งทำให้เกิดการขับเคลื่อน “คน” กันขนานใหญ่
...
ประเด็นมันไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นความจำเป็น เพียงแต่รัฐบาลจะต้องดูแลจัดการให้ดีๆ ไม่ใช่ว่ากันตามมีตามเกิด
เพราะบางจังหวัดไม่ได้บริหารจัดการอะไรเลย...
ยังดีเป็นต่างจังหวัดก็เลยไม่ได้ยินเสียงด่าทอเหมือนอย่างในกรุงเทพฯ ทั้งๆที่หลายจังหวัดมีปัญหาไม่น้อย
โดยเฉพาะมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งไม่ได้มีการวางแผนเอาไว้อย่างที่ควรจะเป็น มันก็เลยแพร่กันไปต่อๆอย่างที่เห็น
ตัวเลขการแพร่ระบาดยังไม่มีแนวโน้มจะลดลงทั้งกรุงเทพฯ และต่างหวัด จึงต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มงวด
อย่าให้ต่างจังหวัดหนักไปกว่านี้
พื้นที่ต่างจังหวัดสามารถระบายคนจากกรุงเทพฯ ไปได้ โดยเฉพาะยังมี “เตียง” มีบุคลากรทางการแพทย์มากพอ
เพราะถ้าระบาดหนักไปทั้งประเทศมันคงดูไม่จืดแน่
มหาดไทยต้องตอกยํ้าผู้ว่าฯ และผู้บริหารท้องถิ่นต้องดูแลอย่างเข้มข้น
นิ่งนอนใจไม่ได้เด็ดขาด.
“สายล่อฟ้า”