ประธานศาลฎีกาหวั่นคู่ความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักขณะนี้ สั่งปิดการให้บริการศาลแพ่งทั่วประเทศ ให้ไปใช้ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 และประกาศสำนักงานศาลยุติธรรม เปลี่ยนไปใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ติดต่อสื่อสารหรือส่งข้อมูลระหว่างคู่ความและศาล ทั้งการยื่นคำฟ้อง การพิจารณา การอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ปิดศาลแพ่งทุกแห่งทั่วประเทศไม่มีกำหนด เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานศาลยุติธรรม เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 25 ก.ค. นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรมเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขอนามัยเป็นอย่างมาก เฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยที่ต้องป้องกันความเสี่ยงการรับเชื้อ นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา ตระหนักถึงความไม่สะดวกของคู่ความและความปลอดภัย จึงออกประกาศระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการดำเนินคดีแพ่ง ระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564
สาระสำคัญของระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการดำเนินคดีแพ่งฯ กำหนดให้ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักในการยื่นคำฟ้อง การนั่งพิจารณา การอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งให้คู่ความฟัง การดำเนินการนั้นให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 และประกาศสำนักงานศาลยุติธรรมที่เกี่ยวข้องเท่าที่พอจะใช้บังคับได้ สำหรับวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการยื่นคำฟ้องนั้น เช่น บริการฟ้องออนไลน์ผ่านระบบ e-Filing การติดตามผลคดี การขอคัดคำสั่ง คำพิพากษา ผ่านระบบ CIOS โดยการส่งหมายสามารถส่งผ่านไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้
...
ส่วนการนั่งพิจารณา การอ่านคำพิพากษา หรือคำสั่งให้คู่ความฟัง สามารถใช้การประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) ผ่านโปรแกรมบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เช่น Google meet โปรแกรม Zoom Cisco WebEx Microsoft team หรือผ่านแอปพลิเคชันอื่น เมื่อศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใดๆในคดีแล้ว ให้เจ้าหน้าที่นำเข้าข้อมูลคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นลงในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของศาลให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันด้วย เพื่อให้คู่ความตรวจดู ขอคัดสำเนาคำพิพากษา หรือคำสั่งในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ขณะที่เพื่อให้การปฏิบัติตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการดำเนินคดีแพ่งฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ละศาลอาจกำหนดแนวทางปฏิบัติของแต่ละศาลเองได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ทั้งนี้ให้นำวิธีการดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป