กิจกรรมการเลี้ยงปลานวลจันทร์ในพื้นที่หนองน้ำ และกิจกรรมการเลี้ยงปลาตะเพียนในนาข้าว คือ 2 กิจกรรมหลักด้านประมง ที่ดำเนินการโดย กรมประมง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้โครงการร่วมพัฒนาพื้นที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อดำเนินงานตาม “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” บนพื้นที่ 15 ไร่ ของค่ายนเรศวร ตําบลชะอํา อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี

เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จากที่มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะเรื่องการน้อมนำแนวทางตามหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และศาสตร์พระราชามาใช้ในการปฏิบัติราชการและการดำเนินชีวิตของข้าราชการตำรวจและครอบครัว

โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานโฉนดที่ดินค่ายพระรามหก ประกอบด้วย กองกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และโฉนดที่ดินค่ายนเรศวร, กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เกิดการใช้พื้นที่โครงการฯ เพื่อเป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติงานและเพื่อประโยชน์ในทางราชโดยพัฒนาพื้นที่ในการทำการเกษตรอินทรีย์เกษตรผสมผสาน และด้านการประมง โดยกองบัญชาการตํารวจตะเวนชายแดน ได้ร่วมบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากกิจกรรมการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์บก และสัตว์น้ำ รวมถึงการแปรรูป ในโครงการฯ ยังจัดให้มีจุดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ทั้งที่มาจากโครงการฯ และจากโครงการพระราชดำริอื่นๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รวมถึงจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ทำการเกษตรอินทรีย์อีกด้วย ที่สำคัญอีกประการ คือ เป็นจุดพักผ่อนเยี่ยมชมศึกษาเรียนรู้ต่างๆ จากแปลงสาธิตการทำเกษตรอินทรีย์ จากกิจกรรมการเลี้ยงปลา พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของประชาชนที่มาเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สร้างความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน

ในการดำเนินงานนั้น กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ได้ร่วมบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกรมประมง ได้เป็นหนึ่งในหน่วยงานร่วมดำเนินการ

นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ได้กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้โครงการโครงการร่วมพัฒนาพื้นที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อดำเนินงานตาม “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”ของกรมประมง ได้มอบหมายให้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเพชรบุรี เป็นหน่วยงานสนับสนุนทั้งด้านพันธุ์ปลาประกอบด้วย ปลานวลจันทร์ทะเล จำนวน 1,000 ตัว เพื่อเลี้ยงในแหล่งน้ำ และปลาตะเพียน จำนวน 3,500 ตัว เพื่อเลี้ยงในนาข้าว รวมถึงการลงพื้นที่เพื่อดำเนินงานตรวจสอบคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยง การสนับสนุนอาหารปลา ขณะที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรี ดำเนินการร่วมด้านฝึกอบรมความรู้ด้านแปรรูปผลผลิต โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการจัดอบรมในหัวข้อ การเลี้ยงปลานวลจันทร์ทะเล และสาธิตการถอดก้างปลานวลจันทร์ทะเล แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ

พร้อมกันนี้กรมประมงยังมีแผนพัฒนาด้านตลาดเพื่อรองรับผลผลิตแปรรูปจากปลาทั้ง 2 ชนิด ด้วยการสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการฯ มีความรู้เกี่ยวกับการจำหน่ายผลผลิตผ่านทางตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการจำหน่ายในพื้นที่

“ที่สำคัญอีกประการ โครงการร่วมพัฒนาพื้นที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนฯ เป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริการส่งเสริมการเลี้ยงปลานวลจันทร์ หนึ่งสายพันธุ์ปลาเศรษฐกิจที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำริให้เลี้ยงเป็นอาชีพ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 หลังจากที่พระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการเลี้ยงปลานวลจันทร์ ณ สถานีประมงคลองวาฬ หรือปัจจุบันคือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์” อธิบดีกรมประมงกล่าว

การเลี้ยงปลานวลในพื้นที่หนองน้ำ และการเลี้ยงปลาตะเพียนในนาข้าว ที่ดำเนินการโดยกรมประมง นอกจากจะช่วยสร้างอาชีพให้แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัวแล้ว ยังพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรและประชาชนที่สนใจได้เข้ามาศึกษาดูงาน และทดลองปฏิบัติ เพื่อนำไปสร้างอาชีพและรายได้ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 10

โครงการร่วมพัฒนาพื้นที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อดำเนินงานตาม "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" คืออีกพระมหากรุณาธิคุณใต้ร่มพระบารมี ที่นำประโยชน์สุข ให้กับประชาชน ทั้งในวันนี้และในอนาคตอย่างยั่งยืน...