กทม. ผนึกกำลังกรมควบคุมโรค และแพทย์ชนบท ระดมตรวจคัดกรองเชิงรุกหลายชุมชนใน กทม. ด้วย Rapid Antigen Test พบผู้ป่วยโควิดต่อเนื่อง
วันที่ 22 ก.ค. 64 เวลา 09.00 น. ที่วัดดิสหงษาราม (วัดมักกะสัน) ทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่จากศูนย์บริการสาธารณสุข 2 ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคติดต่อในเขตเมือง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ชุมชนหลังวัดมักกะสัน ตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว สตรีตั้งครรภ์ และเด็ก รวมทั้งผู้มีอาการป่วยต้องสงสัย ในชุมชน ด้วยชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แรพิดเทสต์ ที่ได้รับการสนับสนุนโดยไทยรัฐกรุ๊ปและพันธมิตร จำนวน 40 คน พร้อมทั้งได้มีการสาธิตวิธีการใช้ชุดตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองอย่างถูกต้อง และให้ประชาชนลองใช้ชุดตรวจด้วยตัวเองโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ในบางรายที่ไม่สะดวกตรวจเองก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจให้
จากตรวจคัดกรองพบผู้มีผลตรวจเป็นบวก 3 คน เจ้าหน้าที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคติดต่อในเขตเมือง กรมควบคุมโรค จึงได้ดำเนินการประสานกับผู้นำชุมชน และครอบครัวของผู้มีผลตรวจเป็นบวกทั้ง 3 คน ให้ทำการแยกกักตัว และให้ไปตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง ที่จุดตรวจ ณ สำนักงานเขตราชเทวี ก่อนเข้าระบบการรักษาในขั้นตอนต่อไป
...
น.ส.ปิยทิพย์ กลางสวัสดิ์ อายุ 49 ปี ประธานชุมชนหลังวัดมักกะสัน กล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้กับสมาชิกในชุมชนของเรา ที่มีอยู่เพียง 80 ครัวเรือน และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสสูง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีสมาชิกในชุมชนติดเชื้อจากภายนอก เข้ามาในชุมชนถึง 14 คน ซึ่งทั้งหมดแม้จะอยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว แต่คนที่เหลืออยู่ ก็อยู่ด้วยความหวาดกลัว สมาชิกในชุมชนส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สูงอายุ และเด็ก ไม่สามารถที่จะไปหาตรวจหาเชื้อเองได้
สำหรับสมาชิกชุมชนที่พบว่ามีผลตรวจเป็นบวกในวันนี้ ทางชุมชนพร้อมจะให้การดูแลตามมาตรการสาธารณสุขอย่างดี 100 เปอร์เซ็นต์
อีกด้านหนึ่ง เวลาเดียวกัน ที่ชุมชนสุเหร่าบ้านเกาะ เขตมีนบุรี กทม. คณะแพทย์และพยาบาล จากชมรมแพทย์ชนบท นำโดย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนสำนักงานเขตมีนบุรี และทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ด้วยชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แรพิดเทสต์ และฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาขนในชุมชนสุเหร่าบ้านเกาะ และชุมชนอับดุลรอมาน
โดยมีผู้ประสงค์เข้ารับตรวจเชื้อ 173 คน และมีกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และสตรีตั้งครรภ์ เข้ารับการฉีดวัคซีน 58 คน ภายหลังการตรวจหาเชื้อพบ ผู้มีผลการตรวจเป็นบวก 21 คน ซึ่งทีมแพทย์ชมรมแพทย์ชนบทและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 ได้นำผู้ที่มีผลการตรวจเป็นบวกทั้ง 21 คน พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัวของแต่ละรายที่มีการสัมผัสใกล้ชิด อีกจำนวน 41 คน มาตรวจหาเชื้ออย่างละเอียด ด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง ก่อนจัดให้เข้าระบบการกักตัวที่บ้าน ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน
ส่วนที่ ที่วัดเลา ซอยพระรามที่ 2 ซอย 51 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ทีมแพทย์ชนบทจาก จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งประกอบไปด้วยบุคลากร จากสำนักงานสาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราช โรงพยาบาลสิชล-ทุ่งใหญ่-พิปูน จ.นครศรีธรรมราช และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอต่างๆ รวมทั้งสิ้น 37 คน นำโดย นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล เดินทางมาเปิดจุดตรวจเชิงรุก ให้บริการกับประชาชนในชุมชนวัดเลา และละแวกใกล้เคียง จำนวน 2,000 คน
พญ.จริญญา แสงจันทร์ กุมารแพทย์จากโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทีมแพทย์ชนบทเดินทางมาตรวจเชิงรุกใน กทม. เป็นครั้งที่ 2 ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งนี้มีบุคลากรจากภาคส่วนต่างๆ เดินทางมาร่วมกันแบบฟูลทีม เป้าหมายคือการตรวจตามชุมชนต่างๆ ใน กทม. ระหว่าง 21-23 ก.ค. โดยได้รับการสนับสนุนจาก สปสช. ซึ่งจากเดิมวันนี้คาดว่าจะตรวจให้ 2,000 คน แต่น่าจะมากกว่านั้น เนื่องจากมีคนทยอยเดินทางมาตรวจเรื่อยๆ แค่ช่วงเช้า มีตรวจไปแล้วกว่า 1,000 คน
...
แพทย์ชนบท ทีม จ.นครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า จากการตรวจคัดกรอง เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา 1,700 ราย พบมีผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ถึงร้อยละ 31 ต่างจากครั้งแรกเมื่อกลางเดือน ก.ค. ที่ทีมแพทย์ชนบทขึ้นมาตรวจหาเชื้อใน กทม. ครั้งแรก พบผู้ติดเชื้อเพียง ร้อยละ 9-10 เท่านั้น จึงถือได้ว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 2-3 เท่า คาดว่าปัจจัยมาจากการสอบสวนโรค เนื่องจากใน กทม. มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
ดังนั้น จึงอยากเห็นความร่วมมือของชุมชน และหน่วยงานสาธารณสุข ระดับต่างๆ ของ กทม. จัดนักระบาดวิทยา มาสอบสวนโรคควบคุม และกำกับผู้ติดเชื้อด้วยการจัดสถานที่กักตัว ไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อ ไม่อย่างนั้น กทม. ก็เหมือนผึ้งแตกรัง ดังนั้น ถ้าควบคุมการระบาดในกรุงเทพฯ ได้ ก็เท่ากับคุมได้ทั้งประเทศ ซึ่งการตรวจเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK นั้นมีประโยชน์ ที่ทำให้เราหาผู้ติดเชื้อได้เร็วขึ้นจริง แต่จะดีกว่านั้น ถ้ามีมาตรการว่าตรวจพบแล้วจะทำอย่างไรต่อไป.
...
