31 ปี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สู่การเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อสร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เป็น “มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ” แห่งแรกของประเทศไทย ที่มุ่งมั่นดำเนินภารกิจหลักและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาครบ 31 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนี้ มีผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินภารกิจเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยที่ได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก จากสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกที่มีชื่อเสียง อาทิ Times Higher Education (THE), U.S. News & World Report, Quacquarelli Symonds (QS), Round University Rankings (RUR), UI Green

อย่างไรก็ตาม จากกระแสการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด รวมถึงโรคอุบัติใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน มทส. ได้ปรับตัวเพื่อรองรับความท้าทาย ภายใต้แนวนโยบาย “SUT Re-profile 2020” ของ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สอดคล้องตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัย ปี 2561-2564 เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยดำเนินการตาม 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ปรับกระบวนทัศน์ทางการบริหาร มองภาพในอนาคต สร้างโอกาสและความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น พร้อมปรับตัวเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) บนฐานรากระบบนิเวศของมหาวิทยาลัยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise)

การสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ (Academic Excellence)

มทส. มุ่งผลิตนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นเลิศ สร้างบัณฑิตพึงประสงค์ ที่มีความพร้อมด้านวิชาการ วิชาชีพ มีความสามารถด้านนวัตกรรมและทักษะด้านความเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงความพร้อมที่จะเป็นพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 ด้วยการพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัย ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านหลักสูตรพันธุ์ใหม่ หลักสูตร Up-skill, Re-skill และ New-skill หลักสูตรแบบ Modular Curriculum ที่ยืดหยุ่นได้ตามความต้องการและบริบทสังคม ปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้รองรับทั้งการเรียนการสอนแบบ On-site, Online และแบบ Hybrid ที่นำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ต้องจัดการเรียนการสอนและการสอบในรูปแบบ Online เพื่อความปลอดภัยของนักศึกษาและบุคลากร

นอกจากนี้ ยังยกระดับคุณภาพการสอนของคณาจารย์ให้ได้มาตรฐานสากล ตามกรอบมาตรฐานวิชาชีพด้านการสอนของสหราชอาณาจักร (UK Professional Standard Framework: UKPSF) บูรณาการหลักสูตรด้านความเป็นผู้ประกอบการเข้ากับจุดแข็งของสหกิจศึกษา มีโครงการจัดตั้งสถานพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการสำหรับนักศึกษา (SEDA) เพื่อพัฒนาทักษะและเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้ประกอบการแก่นักศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม

มหาวิทยาลัยแห่งการวิจัย (Research University)

มทส. สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของนักวิจัยเต็มเวลาและนักวิจัยรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ยกระดับการวิจัยเฉพาะทางที่ตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ โดยการจัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (SUT-Center of Excellence: CoE) จำนวน 10 ศูนย์ ครอบคลุมการวิจัยด้านวัสดุหน้าที่พิเศษขั้นสูง ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาธุรกิจไก่โคราช ด้านฟิสิกส์พลังงานสูงและฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ด้านชีวมวล ด้านชีวกลศาสตร์ทางการแพทย์ ด้านผู้ประกอบการ ด้านเทคโนโลยีจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรมเกษตร ด้านการประยุกต์ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และด้านนวัตกรรมเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน เน้นการวิจัยแบบมุ่งเป้า ผลิตผลงานวิจัยที่มีผลกระทบสูงและสามารถสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้ การนำทรัพย์สินทางปัญญาออกสู่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนการบริหารจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแบบครบวงจร

การสร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจและสังคม ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Social & Commercial Science Technology Innovation Impact)

มทส. จัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (จังหวัดนครราชสีมา) ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเศรษฐกิจการค้า และสถาบันอุดมศึกษาในท้องถิ่นที่เข้มแข็ง เอื้อต่อการร่วมลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ผลักดันให้เกิดการพึ่งตนเองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้รับการรับรองเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งที่ 12 ของประเทศ พร้อมให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มหาวิทยาลัยยกระดับมาตรการเฝ้าระวังร่วมกับจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และยกระดับการดำเนินงานของโรงพยาบาล โดยเปิดคลินิก ARI ตรวจคัดกรองผู้มีความเสี่ยง ใช้อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์เป็นศูนย์ปฏิบัติการเพื่อรองรับการเข้ารักษาตัวของผู้ป่วย จัดสถานที่กักตัวเฝ้าระวัง (Local Quarantine) รวมถึงเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แก่ประชาชนทั่วไปด้วย

นอกจากนี้ มทส. ยังสนับสนุนให้นักวิจัยและคณาจารย์ได้คิดค้นพัฒนานวัตกรรมที่นำไปใช้ประโยชน์เชิงสังคมได้จริง เพื่อสนับสนุนภารกิจทางการแพทย์และช่วยบรรเทาสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 อาทิ เครื่องกำจัดเชื้อไวรัสและกรองอากาศด้วยระบบโคโรนาดิสชาร์จ เครื่องกำจัดและกรองอากาศด้วยระบบพลาสมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เครื่องกำเนิดโอโซนกำลังสูงเพื่ออบกำจัดเชื้อไวรัสในอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ขนาดใหญ่ ห้องความดันลบเคลื่อนที่ ห้องตรวจคัดกรองโรคความดันลบและความดันบวก แคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อความดันลบ หน้ากากป้องกันใบหน้าจาก 3D Printer ตลอดจนการผลิตเอทานอลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์เจล สำหรับใช้ภายในมหาวิทยาลัยและสนับสนุนหน่วยงานภายนอก

การสร้างความผูกพันกับวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (North-Eastern Culture Engagement)

วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ยังถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้ประโยชน์อุทยานการเรียนรู้สิรินธรเพื่อท้องถิ่น ดำเนินการศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ. คลองไผ่)

การบริหารงานที่นำสมัย เป็นธรรม และการสร้างระบบนิเวศแห่งคุณภาพ (Smart Management, Good Governance and Quality Ecosystem)

มทส. สร้างวัฒนธรรมแห่งคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมภายในองค์กร ส่งผลให้การบริหารงานมหาวิทยาลัยขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการบริหารงานที่นำสมัยด้วยดิจิทัล การบริหารการเงินที่สมดุล การบริหารทรัพยากรทุกด้านอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความเข้มแข็งในองค์กร และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในประชาคมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีอย่างเป็นเอกภาพ

ก้าวต่อไป…

บนเส้นทางแห่งการพัฒนาที่ท้าทาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารียังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นสถาบันการศึกษาที่เป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่เป็นที่พึ่งของสังคม ด้วยใจที่รวมเป็นหนึ่ง ด้วยสายตาที่มองภาพอนาคตร่วมกัน และก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ละทิ้งเป้าหมาย มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอันดับ 1 ของประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างแท้จริง