กวางตุ้งดอกหรือผักกระจ้อน นิยมปลูกและบริโภคในทุกพื้นที่ของบ้านเรา และเกษตรกรให้ความนิยมปลูกกวางตุ้งดอก โดยใช้สายพันธุ์พื้นเมือง หรือ OP...แม้จะราคาถูก แทบไม่มีค่าใช้จ่ายเลย แถมเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกต่อในครอปต่อไปได้ โดยไม่ต้องซื้อหาเมล็ดพันธุ์กันบ่อยๆ
แต่ต้องแลกกับปัญหาผลิตผลต่อไร่ค่อนข้างต่ำ ไร่ละ 1-1.5 ตัน เท่านั้น อีกทั้งยังต้องผจญกับขนาดต้นไม่ค่อยสม่ำเสมอกัน การออกดอกและการเจริญเติบโตไม่พร้อมกัน
ทำให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวหลายครั้ง รวมไปถึงต้องใช้เมล็ดพันธุ์ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ในการพัฒนาสายพันธุ์กลุ่มผักใบลูกผสม (F1 Hybrid) วันนี้ เจียไต๋ จึงได้พัฒนาพันธุ์ผักใบลูกผสม...ผักกาดกวางตุ้งดอกลูกผสมต้นขาว ขาวนวล และ ผักกาดกวางตุ้งดอกลูกผสมต้นเขียว ปิ่นมรกต
ถือเป็นกวางตุ้งดอกลูกผสมสองสายพันธุ์แรกของไทย โดยใช้เวลาพัฒนาสายพันธุ์ 5-6 ปี ณ สถานีวิจัยเฉพาะทางอยู่ที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ทั้งสองชนิดมีอายุเก็บเกี่ยวแค่ 30-35 วัน หลังหว่านเมล็ด
ผักกาดกวางตุ้งลูกผสม กวางตุ้งดอกต้นขาว ขาวนวล...ต้นสีเขียวอ่อน ช่อดอกสวย ลำต้นอวบใหญ่ เจริญเติบโตดีสม่ำเสมอ น้ำหนักต่อต้น 90-100 กรัม ต่างจากพันธุ์พื้นเมืองที่มีน้ำหนักต่อต้นเพียง 35-40 กรัม ให้ผลิตผลต่อไร่สูง ไร่ละ 2.5-3.5 ตัน สูงกว่าพันธุ์พื้นเมืองถึงเท่าตัว เหมาะกับปลูกในภาคเหนือและอีสาน ที่นิยมเอามาทำแกงอ่อม จิ้มน้ำพริก หรือผักกาดจอ
ผักกาดกวางตุ้งลูกผสม กวางตุ้งดอกต้นเขียว ปิ่นมรกต...ต้นสีเขียวเข้ม ช่อดอกและลำต้นอวบใหญ่ น้ำหนักต่อต้น 90-100 กรัม ผลิตผลต่อไร่สูง โดยเฉลี่ย 2.5-3.5 ตันต่อไร่ ไม่ต่างจากสายพันธุ์แรก พัฒนาพันธุ์มาเพื่อตอบโจทย์ในทุกเมนูอาหาร โดยเฉพาะอาหารสไตล์ฮ่องกง อย่างการนำไปผัดกับซอสหอยนางรม หรือทำเมนูอาหารแบบไทย เช่น การนำไปลวก หรือทำเป็นแกงต่างๆ.
...
สะ–เล–เต