สธ. เผยความคืบหน้า "วัคซีนบูสเตอร์โดส" เตรียมประชุมฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ช่วงแรกคาดเป็นแอสตราเซเนกา
วันที่ 11 ก.ค. 64 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "วัคซีนบูสเตอร์โดส" ว่า การได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 เข็มเพียงพอหรือไม่ ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการวิชาการภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ทางอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกัน ไวรัสวิทยาและโรคติดเชื้อมีความเห็นพ้องต้องกันว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีข้อมูลสนับสนุนว่า ภูมิคุ้มกันจะลดลงเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง จึงเห็นว่าควรมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นการฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนที่แตกต่างจากชนิดแรก เช่น แอสตราเซเนกา หรือชนิด mRNA เช่น ไฟเซอร์ ที่จะได้รับการบริจาคเข้ามา
โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.64) ส่วนรายละเอียดจะเป็นไปตามคณะกรรมการวิชาการที่ได้เสนอแนะไว้
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ในรอบการระบาดตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. - ก.ค. 64 มีรานงานผู้ติดเชื้อในกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ 880 ราย พบว่ามีส่วนหนึ่ง 20% ไม่มีประวัติฉีดวัคซีน เบื้องต้นเสียชีวิต 7 ราย มีมากถึง 5 รายที่ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 โดยมี 2 รายได้รับวัคซีน แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีน 1 เข็ม จำนวน 1 ราย และมี 1 รายได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม
...
จากการพิจารณาข้อมูลดังกล่าวพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วมีโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มตั้งเดือน มี.ค. 64 มีส่วนน้อยที่ได้รับหลังจากนั้น เมื่อมีการระบาดตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. 64 บุคลากรทางการแพทย์จึงอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา ส่วนใหญ่ได้รับ 1 เข็ม พบว่ามีอาการป่วยน้อย 43 ราย มีอาการป่วยปานกลาง 1 ราย และมีอาการรุนแรง 2 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในกลุ่มนี้
ขอยืนยันว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสป่วยรุนแรงน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสตั้งแต่เดือน มิ.ย. 64 มาถึง ก.ค. 64 จากเดิมเป็นสายพันธุ์อัลฟา ช่วงหลังเป็นเดลตา ทำให้การป้องกันซิโนแวคอาจไม่ได้ผลดีเท่าเชื้อเดิม
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า คณะกรรมวิชาการมีความเห็นว่าควรได้รับวัคซีนกระตุ้นอีก 1 เข็ม ซึ่งตอนนี้ได้เตรียมวัคซีนแอสตราเซเนกาเพื่อกระตุ้นเป็นเข็ม 3 ซึ่งจะได้ดำเนินการในสัปดาห์หน้า ส่วนไฟเซอร์จะต้องรออีกระยะหนึ่ง
สำหรับการดำเนินการวัคซีนเข็มที่ 3 ต้องมีการเตรียมการ เช่น จัดสรรเพิ่มเติมไปตาม หน่วยงาน รพ.ต่างๆ ซึ่งระหว่างนี้ภูมิคุ้มกันจากวัคซีน 2 เข็ม ส่วนหนึ่งยังป้องกันโรคได้ แต่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจึงมีการฉีดเข็ม 3 หากการประชุมในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีมติเห็นชอบก็จะดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้เลย ซึ่งจะมีการสำรวจ โดยเริ่มจากบุคลากรด่านหน้า เมื่อทราบว่ามีจำนวนเท่าไรก็จะส่งวัคซีนไปให้ ส่วนกลุ่มอื่นๆ ขอให้ติดตามข่าวต่อไป.