กองปราบฯล็อกตัวสาวแสบ “ปารมี พิทักษ์” ผู้ต้องหาเบี้ยวเงินค่าซื้อลอตเตอรี่ของ “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 11.75 ล้านบาท ตามหมายจับเก่า หลังตรวจสอบพบพฤติกรรมเป็นภัยสังคม มีหมายจับคดีเช็คและยักยอกทรัพย์ติดตัวถึง 9 หมาย หนีรอดมาได้ตลอดจนคดีหมดอายุความแล้ว 5 คดี ส่งตัวพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีตามหมายจับแรกที่เหลืออยู่ “สมรักษ์” ดีใจ รีบเดินทางมาขอบคุณตำรวจ
สาวแสบเบี้ยวเงินนักมวยดังถูกจับหมายจับเก่า เปิดเผยขึ้นที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก.2 บก.ป. จับกุมนางปารมี พิทักษ์ อายุ 65 ปี ตามหมายจับศาลแขวงดุสิตที่ จ.31/2562 ลงวันที่ 2 ก.พ.2562 ข้อหาออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชี อันจะพึงให้ใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น จับกุมผู้ต้องหาบริเวณริมถนนแฮปปี้แลนด์สาย 2 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
...
สืบเนื่องจาก น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก พร้อมกลุ่มเพื่อนคนสนิท รวมทั้งคนในวงการกีฬานำเงินไปร่วมลงทุนซื้อโควตาลอตเตอรี่กับนางปารมี ซึ่งมีอาชีพเป็นยี่ปั๊วขายสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวอ้างว่าสามารถจัดหาลอตเตอรี่ได้ในราคาต่ำกว่ายี่ปั๊วหน้าสำนักงานสลากกินแบ่ง ครั้งแรกสั่งซื้อลอตเตอรี่งวดประจำวันที่ 1 ก.พ.2564 มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อเห็นว่าส่งลอตเตอรี่ให้ครบตามจำนวน จึงเชื่อใจลงทุนสั่งเพิ่มอีก 50 ล้านบาท แต่ครั้งนี้กลับไม่ได้รับลอตเตอรี่ตามตกลง เมื่อทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่ากำลังประสานนายทุนดำเนินการคืนเงินให้ ก่อนทยอยชดใช้คืนให้จนเหลือยอดเงินค้าง 11.75 ล้านบาท ก่อนขาดการติดต่อ น.ต.สมรักษ์พร้อมพวก รวมตัวเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.กลายเป็นข่าวที่สนใจของสังคม
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่พฤติการณ์ของนางปารมีถือเป็นภัยต่อสังคม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ก่อนพบว่า เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายคดี มีผู้เสียหายหลายท้องที่ มีหมายจับคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เช็คฯ และคดียักยอกติดตัวรวม 9 หมายจับ ขาดอายุความแล้ว 5 หมายจับ คงเหลือหมายจับที่ยังต้องการตัวอีก 4 หมาย นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า ปัจจุบันหนีไปอยู่ในพื้นที่ย่านบางกะปิ นำไปสู่การจับกุมตัวดังกล่าว
สอบสวนนางปารมีให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาโกงเงินผู้เสียหาย เพียงแต่ที่ผ่านมาติดปัญหาบางอย่างไม่สามารถจัดหาโควตาลอตเตอรี่มาให้ได้ตามที่ตกลงกันไว้ พยายามหาเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายอยู่ เบื้องต้นนำตัวส่ง สน.สําราญราษฎร์ ดำเนินคดีตามหมายจับ ส่วนคดีเบี้ยวเงิน 11.75 ล้านบาท ของ น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ยังไม่ได้ออกหมายเรียกนางปารมีมาดำเนินคดีแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ น.ต.สมรักษ์ ทราบข่าวว่าตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อมาแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้สำเร็จด้วย