โควิด-19 ทำเอาโลกทั้งโลกต้องแก้สองปัญหาเดียวกัน ด้านหนึ่ง ทำอย่างไรจะไม่ให้คนไม่มีอาชีพ “อด”...อีกด้าน ทำอย่างไรจะไม่ให้คน “ตาย” ซึ่งก็เพิ่มจำนวนอยู่ทุกวัน เรากำลังจับตาดูว่า บ้านเมืองใดทำ “ดุล” หรือความพอดี ของสองปัญหานี้ให้ลงตัว

แต่หากเปลี่ยนปัญหา “อด” กับ “ตาย” ไว้เป็นเรื่องเดียวกัน คือ “อดตาย” กาญจนาคพันธุ์ เขียนไว้ในหนังสือคอคิดขอเขียน อธิบายจุดก่อเกิดของอย่างน้อยศาสนาใหญ่ ว่ามาจากเรื่องคนอดข้าว

ก่อนสมัยพระพุทธเจ้ากว่า 2,500 ปีที่แล้ว ชาวอินเดียมีความเชื่อว่าโลกหน้านั้นมี คนต้องเวียนว่ายตายเกิด แล้วเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด เมื่อไม่อยากทุกข์ ก็ต้องหาทางไม่ให้เกิด คือตายแล้วก็สูญไปเสียเลย

การไม่มีข้าวกินเป็นทุกข์อย่างยิ่ง จะถูกกดขี่บีบคั้นเหยียบหยามอย่างไร ถ้าพอมีข้าวกินอิ่มท้องก็ไม่ทุกข์ หนทางหนีทุกข์โดยทำให้ตัวตายไปจากโลกนี้ ไม่มีวิธีใดจะเหมาะเท่าการอดข้าว

ถัดจากทุกข์อดข้าว ก็มาถึงทุกข์เรื่องไม่มีผ้านุ่ง ไม่อยากทุกข์ก็ไม่ต้องนุ่งผ้าเสียก็ได้ ทุกข์ข้อถัดไปอีก คือเรื่องที่อยู่ เมื่อที่อยู่หายากนัก ก็ไปอยู่เสียตามโคนต้นไม้ การอยู่โคนต้นไม้ก็เป็นเช่นเดียวกับการอดข้าวให้ตาย จึงต้องพยายามบังคับใจตอนหิวให้สงบ ถ้าทำใจให้สงบอยู่ได้ ก็เท่ากับสำเร็จ

วิธีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของนักบวชอินเดียยุคนั้นมีหลายอย่าง เช่น นั่งอยู่ที่เดียวจนเล็บงอกยาวทะลุหลังมือ หรือชูแขนไม่เอาลงเลย

หลายพวกที่ไม่สนใจผ้านุ่งห่ม หรืออาหารการกิน เช่น พวกภูต หรือภูติก เอาขี้เถ้าทาตัว พวกปากาลิก เอากระดูกคนมาทำพวงมาลัยคล้องคอ หรือสวมหัว พวกชุฏิก หรือมโฆริ กินคูก กินของเน่า และกินศพมนุษย์

...

“กาญจนาคพันธุ์” เคยอ่านข่าวชายอินเดียสมัยใหม่กินซากศพหญิงที่ริมแม่น้ำคงคา ตำรวจจับฟ้องศาล เขาให้การว่าเขาถือลัทธิกินศพเน่า ศาลเห็นว่าก่อความหวาดเสียวให้สาธารณชน ตัดสินปรับ 15 รูปี

ด้วยเหตุปัจจัยประดามีเหล่านี้ จวนสมัยพระพุทธเจ้า จึงเกิดศาสนาอดข้าวขึ้น คือศาสนาเชน
ต้นศาสดา เรียกกันว่า “มหาวีระ” ชื่อทางการ “ชินวรรธมาน” เกิดในสกุลใหญ่มั่งคั่งดั่งพวกลิจฉวีเมืองไพศาลี

บิดามารดาเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด บำเพ็ญทุกรกิริยาอดข้าวจนตาย ตอนตายลูกชายอายุได้ 31 ปี สืบทอดวิถี สละทรัพย์สมบัติ ไม่เอากระทั่งเสื้อผ้า ออกเดินแก้ผ้าโทงๆ ท่องเที่ยวแบบฤาษีชีไพร ไปทางแคว้นองคราษฎร์ แสวงหาทางตายแล้วให้สูญ

13 ปีต่อมา มีคนนับถือมากขึ้น จนเป็นต้นศาสนาใหม่ คำสอนสำคัญคืออหิงสา ไม่เบียดเบียนใครให้เดือดร้อน (ในพระบาลี ชาวพุทธเรียกพระมหาวีระว่า นาฏบุตร เรียกสาวกผู้ถือศาสนาว่านิครนถ์) ที่แคว้นมหิษาสูร (ไมโชร์ ปัจจุบัน) สาวกเชนไปชุมนุมบำเพ็ญตบะอดข้าวให้ตาย หลายพันคนตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ถึงวันนี้

ศิษย์คนสำคัญที่ว่ากันว่านับถือศาสนาเชน คือ มหาตมคานธี รับหลักอหิงสา และวิธีอดข้าวมาใช้ทางการเมือง มีผ้าขาวนุ่งผืนเดียวติดตัว ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติของศาสนาเชน นิกายเศวตัมพร นิกายนี้ แตกหน่อมาจากนิกายทิฆัมพร (แก้ผ้า) ของต้นศาสดา

ข้อปฏิบัติหลายๆประการระหว่างพระสิทธัตถะกุมารทิ้งราชสมบัติและลูกเมียจากกบิลพัสดุ์ มาทำบำเพ็ญที่เรียกทุกรกิริยา ถึง 6 ปี จนพบทางสายกลาง ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ก็เอามาจากนักบวชนิกายเชนนี่เอง

ในทัศนะของ “กาญจนาคพันธุ์” ท่านว่า ที่มาของพุทธศาสนา ที่ให้พระภิกษุฉันข้าววันละมื้อ ก็มาจากการแก้ปัญหาเรื่อง “อดข้าว” เหมือนกัน.

กิเลน ประลองเชิง