"สถาบันโรคทรวงอก" แนะควรป้องกันและดูแลตนเอง สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความเสี่ยง หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้ห่างไกลจากความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส "โควิด-19"

วันที่ 2 มิ.ย. 2564 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแพร่กระจายเชื้อสามารถติดต่อได้หากมีการสัมผัสสารคัดหลั่ง จากการไอ จาม เสมหะ หรือแม้แต่การใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย สำหรับอาการของโรคโควิด-19 คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ครั่นเนื้อครั่นตัว ท้องเสีย มีผื่นขึ้นตามตัว จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเหนื่อยหอบ หรืออาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลังจากติดเชื้ออาจไม่มีอาการ หรืออาจมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรง หรืออาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนเป็นปอดอักเสบและเสียชีวิตได้

ดังนั้นเราต้องรู้จักดูแลตนเอง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยและความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ นอกจากนี้ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปีลงมา ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ โรคอ้วน ต้องดูแลและระมัดระวังป้องกันตนเอง เพราะหากติดเชื้อโควิด-19 อาจจะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป

ทางด้าน นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติม การดูแลสุขอนามัยเพื่อป้องกันและลดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 สามารถทำได้ด้วยตนเอง ดังนี้ ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น หลีกเลี่ยงสถานที่หรือพื้นที่แออัด พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ และเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร แยกของใช้ส่วนตัวไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูกโดยไม่จำเป็น

...

อีกทั้งต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และหมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หรือหลังการไอ จาม หรือหลังสัมผัสจุดเสี่ยงที่มีผู้ใช้งานร่วมกันในพื้นที่สาธารณะ เช่น กลอนประตู ราวบันได้ เป็นต้น นอกจากนี้ควรหมั่นสังเกตอาการตนเองหากพบว่า มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ครั่นเนื้อครั่นตัว ท้องเสีย มีผื่นขึ้นตามตัว จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเหนื่อยหอบ หรืออาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันที.