นายกฯมั่นใจฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็ม 2 เรียบร้อยไร้อาการไม่พึงประสงค์ พร้อมโชว์วัคซีนพาสปอร์ต เดินหน้าปูพรมฉีดวัคซีน 7 มิ.ย. แม้ยังเกิดข้อกังขาวัคซีนมีพอหรือไม่ หลัง รพ.บางแห่งแจ้งผู้จองคิวเลื่อนฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็ม 2 ด้าน “อนุทิน” ยันบริษัทแอสตราฯ ส่งวัคซีนได้ตามกำหนด พูดเป็นนัยหากที่ผลิตในไทยมาไม่ทัน ต้องหาจากแหล่งอื่นมาให้ ขณะที่ ศบค.กุมขมับ ยอดติดเชื้อใหม่พุ่งพรวดกว่า 2.7 พันคน ตายเพิ่ม 30 ศพ พบคนลอบเข้าไทยไม่หยุด ส่วนคลัสเตอร์เก่า กทม.ยังไม่เคลียร์ เจอใหม่อีก 2 ในเขต “ทุ่งครุ-บางแค” ส่วนที่นนทบุรี มาพรวด คนงานก่อสร้างซิโน-ไทย ติดเชื้อโควิดกว่า 500 คน ขณะที่ อ.ตากใบ เจออีก 8 คน ติดเชื้อแอฟริกาใต้ แต่หมอมั่นใจยังคุมได้ ไม่แพร่ออกนอกพื้นที่ในขณะที่คนไทยต่างใจจดใจจ่อกับการฉีด วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่รัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และจะเริ่มฉีดแบบปูพรมในวันที่ 7 มิ.ย. ขณะเดียวกันยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่าสองพันคนต่อวันต่อเนื่อง
นายกฯฉีดแอสตราเซเนกาเข็ม 2
ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร เวลา 08.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 2 หลังฉีดเข็มแรกไปเมื่อวันที่ 16 มี.ค. มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมฉีดเข็ม 2 ด้วย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข คอยต้อนรับ ทั้งนี้ ก่อนฉีดนายกฯตรวจวัดความดันอยู่ที่ 166 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ฉีดให้นายกฯ จากนั้นนายกฯกล่าวว่าขอให้เชื่อมั่นประสิทธิภาพวัคซีนที่เรามีอยู่ทั้ง 2 ยี่ห้อ หรือแม้กระทั่งยี่ห้ออื่นที่เราจะจัดหาเพิ่มเติม มีการตรวจสอบรัดกุมรอบคอบ มีประสิทธิภาพปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุข มาฉีดเพราะไว้ใจการตรวจสอบ อาจมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ถ้ามีอาการมีแพทย์ดูแล ทุกคนต้องฟังคำเตือนของหมอ และยืนยันจะจัดหาเพิ่มเติมให้เท่าที่ทำได้ เรา จำเป็นต้องปรับเรื่องวัคซีนนิดนึง แต่ยืนยันทุกคนได้ฉีดแน่ๆ พื้นที่ใดยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือได้รับฉีดวัคซีนน้อย ขอให้เข้มงวดกับตัวเอง ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ไม่ไปพื้นที่เสี่ยง
...
ยันสายพันธุ์ใหม่ยังรักษาได้
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย และแอฟริกาใต้ ที่ระบาดในไทยขณะนี้ว่า ได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าวัคซีนที่มีอยู่ดูแลได้ แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมคนด้วย ถ้าไปอยู่ในพื้นที่แพร่ระบาด ปล่อยตัวเองจนอาการรุนแรงขึ้น มาหาหมอก็ไม่ทันแล้ว วัคซีนอะไรก็ใช้ไม่ได้ วันนี้เรามีทั้งยารักษา ยาฉีด ยากิน ยาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอ ใช้ตามลำดับความรุนแรง แต่ไม่ อยากให้ทุกคนประมาท หรือตื่นตระหนก ขอให้ฟังแพทย์ ต้องคำนึงถึงตัวเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ตนมองเป้าหมายของคนทั้งประเทศเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องดูแล
โชว์ได้รับวัคซีนพาสปอร์ต
จากนั้นอธิบดีกรมควบคุมโรคได้มอบวัคซีนพาสปอร์ตให้กับนายกฯ ใช้คู่กับหนังสือเดินทางไปต่างประเทศเพื่อยืนยันฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 โดส โดยนายกฯได้โชว์วัคซีนพาสปอร์ตพร้อมย้ำว่า แต่ยังต้องมีการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการสาธารณสุข และหน้ากากอนามัยผ้าที่มีข้อความว่า “# l got my shot (DDC)#ฉีดช่วยชาติ” โดยนายกฯได้โชว์วัคซีนพาสปอร์ต รวมทั้งหน้ากาก พร้อมกล่าวว่า “รับการฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับวัคซีนพาสปอร์ตและหน้ากากเป็นสัญลักษณ์ว่าฉีดครบแล้ว มาช่วยกันฉีดช่วยชาติ ช่วยกันทำเพื่อชาติ เพื่อประชาชนของเราทุกคน รักกันมากๆ สามัคคีกันมากๆ ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ เราจะต้องชนะไปด้วยกัน ขอบคุณมาก” พร้อมกับชู 2 นิ้วสัญลักษณ์สู้ๆ จากนั้นเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้นายกฯ ลดกระจกลงมาชู 2 นิ้วให้สื่อมวลชนด้วย
นายกฯถกแผน 7 มิ.ย.ปูพรมฉีด
ต่อมา นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าในที่ประชุมทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้หารือมาตรการเยียวยาประชาชนและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ในระยะต่อไป รวมถึงการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ที่จะเริ่มฉีดปูพรมในวันที่ 7 มิ.ย. ว่าจะมีการจัดกลุ่มคนทำงานภาคบริการ ร้านอาหาร โรงแรม ให้ฉีดควบคู่ไปกับกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง
ยอดป่วย 2,713 ดับ 30 ศพ
ส่วนสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย ประจำวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงเมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,713 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,458 คน ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 206 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 132,213 คน หายป่วยสะสม 86,100 คน อยู่ระหว่างรักษา 45,307 คน อาการหนัก 1,169 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 406 คน ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 30 คน เป็นชาย 20 คน หญิง 10 คน อายุน้อยสุด 28 ปี อายุมากสุด 105 ปี อยู่ใน กทม. 11 ราย นครราชสีมา ราชบุรี จังหวัดละ 3 คน สมุทรสาคร สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 คน ปทุมธานี สกลนคร ตาก พระนครศรีอยุธยา เชียงราย สุรินทร์ ชัยภูมิ นนทบุรี ชัยนาท จังหวัดละ 1 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 806 คน โดยประเทศไทย อันดับผู้ติดเชื้อสะสมขยับขึ้นไปอยู่ที่ 87 ของโลก ขณะที่สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยได้ให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยวิกฤติหากมีประวัติสูบบุหรี่จะทำให้เกิดอาการปอดแฟบเสี่ยงต่อการเสียชีวิต จึงอยากเชิญชวนใครอยากเลิกบุหรี่สามารถปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง
...
ยังลอบเข้าไทยอีก 105 คน
พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 49 คน จากกัมพูชา 41 คน ในจำนวนนี้มี 2 คนที่ลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นแอดมินพนันออนไลน์ ที่เหลือเป็นคนไทยมาจากประเทศอินเดีย 6 คน มาจากเอธิโอเปีย 1 คน เป็นนักฟุตบอลชาวไอวอรีโคสต์ และจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 คน เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี และในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการลักลอบเข้ามาถึง 105 คน จากลาว 5 คน กัมพูชา 8 คน เมียนมา 57 คน ต้องขอความร่วมมือฝ่ายปกครองและจังหวัดติดตามการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน ต้องติดตามตั้งต้นทางยันปลายทาง หากพบว่าโรงงานใด บริษัท จัดหางานใดหรือใครที่ให้ความช่วยเหลือในการลักลอบเข้าเมืองถือเป็นความผิด จะลงโทษให้เหมาะสม สำหรับ 5 จังหวัดที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด วันที่ 24 พ.ค. ได้แก่ กทม. 951 คน เพชรบุรี 669 คน สมุทรปราการ 180 คน ชลบุรี 106 คน นนทบุรี 92 คน โดย จ.เพชรบุรี มียอดผู้ติดเชื้อสะสมในระลอกนี้แล้ว 2,996 คน ขณะที่ จ.สมุทรปราการ เป็นการติดเชื้อของผู้พักในคอนโดฯเดียวกัน ที่มีรายงานถึง 81 คน ขณะที่มี 27 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ และมี 28 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน 10 คน สรุปมีถึง 55 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน 10 คน
...
กทม.เจออีก 2 คลัสเตอร์ใหม่
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับพื้นที่ กทม.ขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวัง 35 คลัสเตอร์ มีใหม่ 2 คลัสเตอร์ คือโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า เขตทุ่งครุ มียอดผู้ติดเชื้อ 29 คน และสถานดูแลผู้สูงอายุเอกชน 3 แห่งในเขตบางแค มีผู้ติดเชื้อแล้ว 23 คน ซึ่งติดเชื้อจากผู้ดูแล 3 คน โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กเน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการให้กำหนดมาตรการองค์กรให้เข้มข้นขึ้น และรีบทบทวนมาตรการอย่างเร่งด่วน
ให้เขตสั่งปิดแคมป์ที่หละหลวม
พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก สำนักงานโยธาธิการของ กทม.รายงานว่าได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทก่อสร้างที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานโยธา รวม 134 ราย เพื่อเชิญประชุมหารือร่วมกัน รวมถึงขอเน้นย้ำเรื่องการตรวจตราว่าหากเข้าไปตรวจแล้วพบพฤติกรรม พฤติการณ์ ที่แคมป์คนงานไหนของบริษัทใด ที่ยังไม่สามารถจัดการมาตรการได้อย่างถูกต้อง สำนักงานเขตจะมีอำนาจในการสั่งปิด
บริษัทฯต้องจัดอาหารให้คนงาน
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า กรณีประชาชนรายงานมายัง ศบค.ว่า แคมป์คนงานบางแห่งที่มีการระบาดยังมีคนงานเดินออกมานอกแคมป์ เพื่อซื้อหาอาหารหรือเครื่องใช้ สำนักงานเขตจึงเน้นย้ำไปที่บริษัทว่าจำเป็นจะต้องจัดอาหารหรือเครื่อง อุปโภคบริโภคให้คนงานอยู่ให้ได้ รวมไปถึงการจัดการสถานที่ ดูแลความสะอาด ต้องช่วยกันมีมาตรการเฝ้าระวัง และการที่พบแคมป์คนงาน หรือไซต์ก่อสร้างขนาดใหญ่มีการติดเชื้อเป็นเปอร์เซ็นต์สูงๆ บางครั้งการคัดแยกผู้ป่วยตามระดับความรุนแรงแล้วส่งไปให้รับการรักษาในโรงพยาบาลสนามต่างๆ อาจเกิดความไม่สะดวก ดังนั้น จะเป็นการดีกว่าหากบริษัทมีความพร้อม เพื่อจะได้จัดการให้อยู่ในความดูแลในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างหรือแคมป์คนงานนั้นเอง เรื่องนี้กรมการแพทย์ สำนักอนามัย กรมควบคุมโรค กำลังหารือกันที่จะต้องกำหนดเป็นมาตรฐานเพื่อให้มั่นใจได้ว่าประชาชนเหล่านั้นจะได้รับการดูแลรักษา มีความปลอดภัย และต้องไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดที่ควบคุมไม่ได้
...
รอ WHO ออกใบรับรองซิโนแวค
ส่วนกรณีองค์การอนามัยโลกยังไม่รับรองวัคซีนซิโนแวคนั้น พญ.อภิสมัยกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขติดตามเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เบื้องต้นองค์การอนามัยโลกให้การรับรองวัคซีนซิโนฟาร์ม และลำดับถัดไปคือซิโนแวค ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังติดตามการยืนยันที่เป็นเอกสาร เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลักฐานเพื่อสนับสนุนการออกใบรับรอง ถ้าได้ข้อสรุปอย่างไรศบค.จะมารายงานให้ประชาชนทราบโดยเร็ว
4 ค่ายมือถือร่วมลงทะเบียนฉีดวัคซีน
อีกด้านหนึ่ง ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวง สธ.นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วยผู้บริหารคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตัวแทนบริษัทเอไอเอส บริษัททรูมูฟ บริษัทดีแทค และบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือการให้บริการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ โดยนายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ 4 แห่ง จะช่วยในการรับนัดหมายและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดภาระและความแออัดในการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยจะให้บริการภายหลังจากที่กระทรวงคมนาคมให้บริการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรในสังกัดแล้ว
ใช้แค่คิวอาร์โค้ดเริ่ม 7 มิ.ย.นี้
ขณะที่ นพ.สมศักดิ์กล่าวเสริมว่าเครือข่ายโทรศัพท์ 4 แห่ง ได้จัดสรรโควตาให้กับลูกค้าเครือข่ายเครือข่ายละ 1 พันกว่าคน รวมวันละ 5,000 คน โดยประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีนสามารถติดต่อเครือข่ายตนเองได้ 4 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน คอลเซ็นเตอร์ และช็อปของเครือข่าย เพื่อให้เครือข่ายนัดหมายวันเวลาฉีด จะได้รับคิวอาร์โค้ดในโทรศัพท์มือถือตนเอง และให้นำคิวอาร์โค้ดนั้นมาแสดงตนที่สถานีกลางบางซื่อ เริ่มให้บริการวันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป
มิ.ย.มีวัคซีนแอสตราฯ พร้อมฉีด
ภายหลังการแถลงข่าว นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อกังวลว่าไทยจะได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาตามกำหนดในเดือน มิ.ย. หรือไม่ว่า บริษัทแอสตราเซเนกา จะเริ่มจัดส่งให้ภายในเดือน มิ.ย. แต่ไม่ได้บอกว่าวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขประชุมกับบริษัทมาโดยตลอดและกำลังจัดแผนการส่งให้ประเทศไทยอยู่ ทั้งนี้บริษัททราบดีว่ารัฐบาลไทยจะฉีดปูพรมให้กับคนไทย มั่นใจว่าบริษัทแอสตราเซเนกา จะส่งวัคซีนได้ตามกำหนด อีกทั้งมีระบุไว้ในสัญญาว่าถ้าวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยไม่ทัน ต้องไปจัดหาวัคซีนของแอสตราเซเนกาจากแหล่งผลิตอื่น มาส่งให้เรา ดังนั้นจะมีวัคซีนฉีดให้ประชาชนตามกำหนดแน่นอน และส่วนเรื่องการดึงวัคซีน 12 เข็มต่อขวดนั้น ไม่อยากให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกังวล เพราะไม่ใช่นโยบาย สิ่งสำคัญคือต้องดึงให้ได้ในแต่ละเข็มตามมาตรฐานคือ 0.5 ซีซีต่อคน
เขยิบเวลาฉีดแอสตราฯเข็ม 2 ได้
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีโรงพยาบาลเลื่อนนัดการรับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเข็มที่ 2 ออกไป จนเกิดคำถามว่ามีการนำวัคซีนไปให้ใครฉีดก่อนหรือไม่ว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีการปรับแผนกระจายวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้ฉีดแก่ประชาชนมากขึ้นและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งขณะนี้มีข้อมูลวิชาการยืนยันว่าผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 มีภูมิขึ้นดี สามารถขยายระยะเวลาการรับเข็มที่ 2 ได้จากเดิม 10 สัปดาห์ เป็น 16 สัปดาห์ โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 เดือน มิ.ย. จะได้รับเข็มที่ 2 ในเดือน ต.ค. ส่วนที่เกรงว่าการเลื่อนระยะเวลาฉีดเข็มที่ 2 เป็นเดือน ต.ค. เพราะรัฐบาลอาจไม่พร้อมเรื่องวัคซีนที่จะเข้ามานั้น ขอยืนยันว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา ยังจัดส่งตามแผนคือเดือน มิ.ย. ทางบริษัทแอสตราฯ รับทราบถึงแผนการฉีดและกระจายวัคซีนของไทย
ตากใบพบเชื้อแอฟริกาใต้อีก 8
ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงการตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสว่า การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ทราบเพียงว่าติดเชื้อ แต่ระบุสายพันธุ์ไม่ได้ ซึ่งการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัส ทำได้เฉพาะแล็บขนาดใหญ่และใช้เวลาหลายวัน และหลังจากที่แล็บของ รพ.รามาธิบดี ตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์ในผู้ป่วยโควิด-19 อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3 คน ทางกรมได้ขอให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา เก็บตัวอย่างจากพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อตรวจเพิ่มเติม ซึ่งได้จัดส่งมา 18 ตัวอย่าง ตรวจได้ 15 ตัวอย่างอีก 3 ตัวอย่างไม่มีคุณภาพ พบว่าตัวอย่างจาก อ.ตากใบ เป็นสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 8 ตัวอย่าง ส่วนอีก 3 ตัวอย่างมาจาก จ.ปัตตานี เป็นสายพันธุ์อังกฤษ ดังนั้นขณะนี้เชื้อแอฟริกาใต้ยังอยู่ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ยังไม่ข้ามจังหวัด แต่เราไม่นิ่งนอนใจ จะตรวจรายละเอียด และไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่พบใหม่ 8 คน เพื่อดูว่ามีความเชื่อมโยงกับ 3 คนก่อนหน้านี้หรือไม่ รวมทั้งขอให้ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพในพื้นที่ เก็บเชื้อตัวอย่างจากจังหวัดรอบๆ เช่น ปัตตานี มาจนถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งมาให้กรมตรวจเพิ่มเติมเช่นกัน เพื่อดูการกระจายของเชื้อ
เชื้ออินเดียพบเฉพาะแคมป์หลักสี่
นพ.ศุภกิจกล่าวด้วยว่า กรมวิทย์มีการเฝ้าระวังเข้มข้นขึ้น โดยใช้วิธีตรวจจีโนมของไวรัสทั้งตัวทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 380 ตัวอย่าง โดยนำตัวอย่างมาจากทั่วประเทศ เช่น เก็บเชื้อจากผู้ลักลอบเข้าประเทศบริเวณชายแดนต่างๆ เก็บเชื้อจากคนไข้ที่มีอาการหนักทุกราย ผู้ใส่ท่อหายใจ และผู้เสียชีวิต เพื่อดูว่าเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากที่มีการระบาดหรือไม่ หรือมีอัตราความรุนแรงของเชื้อมากน้อยเพียงใด โดยการตรวจเชื้อของผู้เสียชีวิตที่ผ่านมา ยังเป็นสายพันธุ์อังกฤษแต่ยังมีการเก็บตัวอย่างจากผู้เสียชีวิตมาตรวจหาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลยืนยันว่าสายพันธุ์ใดมีผลต่ออัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้นหรือไม่ ส่วน กทม.มีการเก็บเชื้อเพื่อเฝ้าระวังสายพันธุ์อินเดียจากแคมป์คนงานอื่นๆ ว่ากระจายไปแค่ไหน แต่ขณะนี้สายพันธุ์อินเดียยังพบเฉพาะแคมป์คนงานในเขตหลักสี่เท่านั้น และขอยืนยันการตรวจหาเชื้อสายพันธุ์อินเดียจากคนงานทั้ง 36 คน มาจากการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีสวอบ ไม่ได้ล้วงมาจากปอด แสดงว่าตรวจวิธีนี้ก็พบเชื้อได้ตามปกติไม่มีปัญหา ส่วนการตรวจเลือดนั้น เป็นการตรวจหาภูมิคุ้มกัน ไม่สามารถการตรวจหาเชื้อได้
ยื่นขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์ม
ส่วน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า บริษัท ไบโอเจเนเทค จำกัด ที่ก่อนหน้านี้เคยมายื่นขึ้นทะเบียนวัคซีน Covaxin ของบารัต ไบโอเทค ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ อย.นั้น ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทไบโอเจเนเทคฯ ได้นำเอกสารมาขอขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนฟาร์ม ของประเทศจีนอีกหนึ่งชนิด ซึ่งเป็นการยื่นเอกสารแบบรอบเดียวจบ ไม่ใช่การทยอยยื่น ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เวลาในการพิจารณา ไม่เกิน 30 วันเช่นกัน
นักโทษติดเพิ่ม 628 คน ตาย 1
ส่วนการติดเชื้อในเรือนจำ วันเดียวกัน นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษก ศบค.รท.เผยว่า จนถึง เวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 628 คน รักษาหาย 22 คน เสียชีวิต 1 คน ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 15,373 คน โดยพบการติดเชื้อเพิ่ม 1 เรือนจำ คือเรือนจำกลางขอนแก่น โดยผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้ป่วยชายอายุ 62 ปี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยอาการเหนื่อย ซึมลงและความดันต่ำ จากการเอกซเรย์พบปอดอักเสบ มีภาวะไตวายร่วมด้วย แพทย์ให้ยาและรักษาตามกระบวนการแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้นก่อนเสียชีวิตในที่สุด
แจงกินยาต้านไวรัสแล้วตาเปลี่ยนสี
ขณะที่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงการพบผู้ต้องโทษชายจำนวนมากที่รักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ พบสีของตาขาวเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงอมน้ำเงินว่า ได้ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ รพ.ศิริราชช่วยกันพิจารณายืนยันไปแล้วไม่เป็นเรื่องน่ากังวล เป็นคุณสมบัติของยาฟาวิพิราเวียร์ สันนิษฐานว่าตัวยาเองมีคุณสมบัติเรืองแสง โดยจะไปสะสมได้ที่กระจกตา เล็บ และผิวหนัง แต่ไม่ทำให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติ และหายได้เองเมื่อหยุดยาไม่มีผลข้างเคียง
เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
วันเดียวกัน ที่สถานีกลางบางซื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อซึ่งเป็นสถานที่ที่กระทรวงคมนาคมใช้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนเพื่อบริการประชาชน และบุคลากรขององค์กร หน่วยงานที่ดูแลประชาชนด้านขนส่งสาธารณะ เป็นวันแรก โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข พร้อมผู้บริหารกระทรวง สธ. รวมถึง พญ.มิ่งขวัญ วัชยดิษฐ์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง และผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ร่วมพิธีคับคั่ง และมีเจ้าหน้าที่ในระบบขนส่งสาธารณะ และหน่วยงานกระทรวงคมนาคมเข้ามารับการฉีดวัคซีนกันอย่างคึกคัก ขณะเดียวกันพบว่ามีประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้ามาขอรับการฉีดวัคซีนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้ลงทะเบียนเพื่อนัดมารับวัคซีนในวันเวลาที่กำหนด ทั้งนี้เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข จะฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้าใน กทม.และปริมณฑลก่อนกว่า 59,726 คน
ยังไม่รับคนทั่วไปวอล์กอิน
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานอำนวยการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดในระบบขนส่งมวลชน กล่าวว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อได้เปิดให้บริการเป็นวันแรก โดยเปิดให้บริการเฉพาะกลุ่มองค์กรผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชน และผู้ที่ได้รับการยืนยันผ่านทางข้อความโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีประชาชนเข้ามาเพื่อลงทะเบียนฉีดวัคซีน ณ จุดบริการ หรือวอล์กอิน (Walk in) เป็นจำนวนมาก ซึ่งขอชี้แจงว่าขณะนี้ตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังไม่ได้เปิดให้ประชาชน Walk in เข้ามายังสถานีกลางบางซื่อ ขอย้ำว่าในช่วงตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.-6 มิ.ย.64 ยังเป็นองค์กรผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชน และบุคลากรของกระทรวงคมนาคม
โชว์เอาผิดผู้โพสต์เฟกนิวส์
วันเดียวกัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หัวหน้าชุดบังคับบัญชาฝ่ายประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมแถลงข่าวการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวที่ไม่เป็นความจริง บิดเบือน เพราะถือเป็นความผิดร้ายแรง สร้างความเสียหายกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว 18 ราย จำนวนนี้ดำเนินคดี 6 ราย เป็นผู้กระทำผิดในพื้นที่กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ข้อหาโพสต์ข่าวปลอม (เฟกนิวส์) อาทิ โพสต์ “พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่วัดสังฆทาน จำนวน 300 ราย” “ศบค.ประกาศเคอร์ฟิว เวลา 23.00-04.00 น. พื้นที่สีแดง 18 จังหวัด” “พบผลข้างเคียงรุนแรง เลือดออกในสมอง หลังจากฉีดวัคซีน Sinovac” ฯลฯ โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้โพสต์ข้อความทั้ง 6 รายข้างต้น ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนอีก 12 ราย อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตักเตือนและให้ลบโพสต์เสีย เนื่องจากยังไม่พบความเสียหายร้ายแรงต่อประชาชน
สลด! สาวม้งท้อง 5 เดือนดับอีกราย
สำหรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ตาก สถานการณ์กลับมารุนแรงอีกครั้ง จากการพบชายไทย อายุ 66 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง ในหมู่บ้านผาผึ้ง หมู่ที่ 6 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง แต่อาการทรุดหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมถึงมีการฌาปนกิจ ณ เมรุวัดมณีบรรพตวรวิหาร ต.หนองหลวง อ.เมือง เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ซึ่งจากการตรวจเชิงรุกชาวเขาเผ่าม้งกว่า 2,000 คน พบผู้ติดเชื้อกว่าร้อยคน ส่งไปรักษาที่ รพ.วังเจ้า 10 คน รพ.บ้านตาก 14 คน และ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน–มหาราช 14 คน ส่วนผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรืออาการเล็กน้อย ส่งเข้ารักษาที่ รพ.สนามจังหวัดตาก ภายในมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาวิทยาเขตตาก ต.ไม้งาม อ.เมือง จำนวน 82 คน แยกเป็นชาย 57 คน และหญิง 25 คน และมีการปิดพื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านผาผึ้ง ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า บนเทือกเขาถนนธงชัย จนถึงวันที่ 30 พ.ค.นี้ รวมถึงหมู่ 3 หมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ต.วาเล่ย์ เนื่องจากพบชาวม้งติดโควิด 6 คน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. มีรายงานว่า ผู้ป่วยหญิง วัย 35 ปี ตั้งครรภ์ 5 เดือน ชาวไทยชาติพันธุ์ม้ง ชาวบ้านบ้านผาผึ้ง เป็นเครือญาติกับผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ได้เสียชีวิตเป็นรายที่สอง เจ้าหน้าที่จัดการฌาปนกิจ ณ เมรุวัดมณีบรรพตวรวิหาร เรียบร้อยแล้วเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา
คนงานสร้างรัฐสภาติดเชื้อกลับชัยภูมิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มคนงานก่อสร้างใน กทม.เริ่มสร้างความปั่นป่วนให้กับ จ.ชัยภูมิ เมื่อมีรายงานวันที่ 24 พ.ค. จังหวัดพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 13 คน อยู่ใน อ.แก้งคร้อ 11 คน และ อ.คอนสวรรค์ 2 คน ทั้งหมด เป็นคนงานก่อสร้างอยู่ในแคมป์คนงานที่ตึกรัฐสภาแห่งใหม่ เขตบางชื่อ กทม. หลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก จึงเดินทางกลับบ้าน เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา และผลตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของนายสระ หอมศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านศรีสง่า ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ ที่พบผู้ติดเชื้อถึง 11 คน ระบุว่า หลังชาวบ้านรู้เรื่องก็มีท่าทีไม่พอใจที่คนงานเหล่านี้ติดโควิด-19 กลับมา หลายคนถึงกับเข้าไปด่าทอคนงานเหล่านั้น ถึงหน้าบ้าน แต่หลังจากทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านแล้ว ไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น ต่อไปอาจจะมีการคุมเข้มการเข้าออกหมู่บ้านมากกว่านี้
ปิดเกาะสะท้อนสกัดเชื้อลาม
สำหรับบรรยากาศที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ถึง 83 คน ในจำนวนนี้พบติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3 คน ต่อมานายสังคม เกิดก่อ นอภ.ตากใบ ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้ง 9 หมู่บ้านใน ต.เกาะสะท้อน ด้วยการขยายระยะเวลาการปิดตำบลเกาะสะท้อน และปิดเส้นทางเข้าออกระหว่างหมู่บ้านออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หลังพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือพฤติกรรมของประชาชนที่ยังฝ่าฝืนมาตรการควบคุมและป้องกันโรค มีการรวมตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัย และล่าสุด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เตรียมเข้าคัดกรองเชิงรุกในทุกหมู่บ้าน เพื่อหากลุ่มเสี่ยงสูงและส่งเข้าสถานกักกันให้เร็วที่สุด ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสะท้อน และภาคส่วนต่างๆ ได้นำถุงยังชีพเข้าแจกจ่ายครอบคลุมทุกครัวเรือนทั้งตำบล เป็นการบรรเทาความเดือดร้อน จึงมั่นใจว่าประชาชนในพื้นที่จะดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก พร้อมย้ำการปิดบังข้อมูล หรือฝ่าฝืนมาตรการที่กำหนด เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อำเภอตากใบจะเน้นดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยขณะนี้ดำเนินคดีกับคลัสเตอร์เกาะสะท้อน และผู้ที่ฝ่าฝืนกฎลักลอบเดินทางข้ามจังหวัดไปแล้ว
ยะลาเจออีกคลัสเตอร์ที่ธารโต
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 18 คน ในจำนวนนี้อยู่ในเขต อ.เมืองยะลา 1 คน ที่เหลือพบมากที่สุดใน อ.ธารโต ถึง 17 คน อยู่ในหมู่บ้านเจาะซีโป๊ะ หมู่ 4 ต.บ้านแหร ซึ่งเป็นอีกคลัสเตอร์ที่มีรายงานว่าเกิดจากนักศึกษาแพทย์สถาบันแห่งหนึ่งเดินทางไปฝึกงานที่ รพ.ตำรวจ กทม.แล้วเดินทางกลับไปฉลองวันฮารีรายอที่บ้านช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เชื้อแพร่ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ส่วนที่ จ.ตรัง ช่วง เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิด-19 ที่เมรุวัดกระพังสุรินทร์ (พระ-อารามหลวง) อ.เมือง เป็นชายไทย อายุ 54 ปี อาชีพเกษตรกร ภูมิลำเนา อ.วังวิเศษ เข้ารักษาตัวที่ รพ. ตรัง เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่แค่ 9 วัน ก็เสียชีวิต นับเป็นผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายแรกของจังหวัด จากประวัติพบผู้ตายเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มคลัสเตอร์ อ.วังวิเศษ หลังจากไปซื้อเนื้อโคในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยมีภรรยาและลูกติดเชื้อโควิด-19 เช่นเดียวกัน
เพชรบุรีอ่วมป่วยที่เดียวกว่า 600 คน
ส่วนความคืบหน้าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน จ.เพชรบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรายงานเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 พ.ค.พบผู้ติดเชื้ออีก 669 คน เป็นคนทั่วไป 21 คน จากโรงงาน 648 คน ขณะที่ในบริษัท แคลคอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ประเทศไทย (มหาชน) จำกัด ที่ ต.สระพัง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 678 คน รวมมีผู้ติดเชื้อสะสมคลัสเตอร์นี้ 2,789 คน และต้องขยายโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ของบริษัทแคลคอมพ์ฯ เพิ่ม จาก รพ.สนามหลังแรกที่รับได้ 2,400 เตียง โดยใช้อาคารโรง 12 ปรับเป็น รพ.สนามหลังที่สอง โดยมี นพ.อัญชนะ พานิช เป็น ผอ.รพ.สนาม
ผงะแคมป์ซิโนไทยติดเชื้อครึ่งพัน
ขณะที่ จ.นนทบุรี 1 ใน 4 พื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปรากฏว่ามีรายงานผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกโควิด-19 ที่แคมป์คนงานก่อสร้างบริษัท ซิโน-ไทย จำกัด (มหาชน) ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ทั้งแรงงานคนไทย เมียนมา กัมพูชา จำนวน 959 คน ปรากฏว่าผลตรวจแรงงานคนไทย 203 คน พบติดเชื้อ 43 คน ชาวเมียนมา 407 คน พบติดเชื้อ 265 คน ชาวกัมพูชา 346 คน ติดเชื้อ 207 คน รวมติดเชื้อ 515 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อไม่แสดงอาการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนนทบุรี เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนนทบุรี ได้ตั้งกองอำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ที่หน้าประตูทางเข้าออกแคมป์คนงานก่อสร้างเพื่อไม่ให้มีการเข้าออก และใช้สถานที่เป็นที่กักตัวเฝ้าสังเกตอาการ ส่วนผู้ป่วยอาการเล็กน้อยราว 30 คน มีการนำรถพยาบาล 1 คันและรถบรรทุกหกล้อ 2 คัน เข้ามารับไปรักษาที่ รพ.สนาม ด้านนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.นนทบุรี กล่าวในเวลาต่อมาว่า เบื้องต้นจะมีคำสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ส่วนการจะปิดกี่แคมป์ยังตอบไม่ได้ แต่มีการตรวจเจออย่างน้อย 2 แคมป์ ต่อมาศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.นนทบุรี รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 72 คน อยู่ใน อ.เมือง 37 คน อ.ปากเกร็ด 19 คน อ.บางกรวย 7 คน อ.บางใหญ่ 6 คน อ.ไทรน้อย 5 คน อ.บางบัวทอง 1 คน
ในหลวง-ราชินี พระราชทานเครื่องช่วยหายใจ
วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัด นนทบุรี อ.เมืองนนทบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กลับมาแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อนำไปจัดหาเครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราไหลสูง hi flow nasal cannula (HFNC) NeoHif-i7 จำนวน 10 เครื่อง พระราชทานแก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำไปใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลต่างๆ ของจังหวัดนนทบุรี ที่มีปัญหาระบบการหายใจเพิ่มขึ้นจำนวนมากในขณะนี้ ซึ่งเครื่องช่วยหายใจที่ได้รับพระราชทานนี้ จะช่วยเสริมในการรักษาและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยมีผู้อำนวยการโรงพยาบาล คณะแพทย์ และผู้บริหาร เข้าร่วมพิธีรับพระราชทานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ยังความปลื้มปีติแก่ผู้ป่วย แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ต่างล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
สมุทรปราการผู้ป่วยตายเพิ่ม 2
ส่วน จ.สมุทรปราการ อีกหนึ่งพื้นที่สีแดงเข้ม สาธารณสุขจังหวัดรายงาน ณ เวลา 13.00 น.วันที่ 24 พ.ค.พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 180 คน เป็นคนในพื้นที่ 166 คน อยู่ใน อ.เมือง 116 คน อ.บางพลี 19 คน อ.พระประแดง 1 คน อ.บางบ่อ 1 คน อ.บางเสาธง 29 คน รับมารักษาต่อในจังหวัดสมุทรปราการ 14 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ศพ รายแรกเป็นชายไทย 40 ปี ประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน มีโรคประจำตัว ไขมันสูง ความดันโลหิตสูง อยู่ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง รายที่สอง เป็นหญิงไทย อายุ 67 ปี ประวัติเดินทางไปยังสถานที่แออัด มีโรคประจำตัว ไขมันสูง เบาหวาน อยู่ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง ขณะที่ตลาดใหม่สำโรง ซึ่งปิด 1 วัน เทศบาลตำบลสำโรงเหนือและผู้ค้าในตลาดร่วมกันทำความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อทุกซอกทุกมุมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาใช้บริการก่อนเปิดตลาดตามปกติ
โลกติดไวรัสพุ่ง 167.5 ล้านคน
ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลก เมื่อวันที่ 24 พ.ค. มีผู้ติดเชื้อสะสม 167.5 ล้านคน เสียชีวิตรวม 3.47 ล้านคน โดยที่สหรัฐอเมริกายอดติดเชื้อรวมขยับเป็น 33.9 ล้านคน เสียชีวิตรวมทะลุ 6 แสนคน ตามด้วยอินเดียที่ยอดติดเชื้อรวมกลายเป็น 26.7 ล้านคน เสียชีวิตรวมทะลุ 3 แสนคน หลังพบผู้เสียชีวิตในวันเดียว 4,454 คน ส่วนที่ญี่ปุ่น รัฐบาลเร่งแผนการฉีดวัคซีนให้ประชาชน เปิดให้บริการศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ของกองกำลังป้องกันตนเอง ในกรุงโตเกียว และนครโอซากา คาดฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้วันละ 10,000 โดส และ 5,000 โดสตามลำดับ เริ่มจากผู้สูงอายุเป็นกลุ่มแรกโดยใช้วัคซีนยี่ห้อโมเดอร์นา จะยังไม่ใช้ของแอสตรา-เซเนกา เนื่องจากความกังวลผลข้างเคียงที่เกิดอาการลิ่มเลือด