เข้าสู่หน้าฝน แต่อากาศยังร้อน ประกอบกับมีฝนฟ้าคะนอง ลมพัดแรง และมีฝนตก เป็นระยะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกผักสลัด โดยเฉพาะผักที่มีใบกว้าง อย่างกรีนคอส บัตเตอร์เฮด ฯลฯ ให้เฝ้าระวังการระบาดของ โรคใบจุดตากบ
เป็นโรคสามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช อาการเริ่มแรกจะพบแผลเป็นจุดฉ่ำน้ำสีน้ำตาลอ่อนบนใบพืช และมักจะเกิดที่ใบล่างของต้นแล้วขยายลุกลามไปยังใบด้านบน ต่อมาแผลจะขยายใหญ่ขึ้น มีลักษณะกลมหรือค่อนข้างกลม เรียงซ้อนกันเป็นชั้น กลางแผลมีสีเทาหรือสีขาว และพบเส้นใยของเชื้อราเจริญขึ้นเหนือเนื้อเยื่อของพืช ขอบแผลเป็นสีน้ำตาลมีลักษณะคล้ายตากบ
แผลมีหลายขนาดตั้งแต่จุดเล็กถึงจุดใหญ่ขนาด 1-10 มิลลิเมตร และพบกระจายอยู่ทั่วใบ ถ้าอาการรุนแรง แผลจะลามขยายติดกัน ทำให้เกิดอาการใบไหม้ กรณีที่เกิดกับใบอ่อน อาจทำให้เกิดอาการใบหงิกงอได้
การปลูกผักสลัดในแปลงปลูก เกษตรกรควรจะทำแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี อากาศถ่ายเทสะดวก และ ควรเตรียมดินก่อนปลูก ด้วยการไถพรวนดินให้ลึกจากผิวดินมากกว่า 20 เซนติเมตรขึ้นไป และตากดินไว้ให้นานอย่างน้อย 30 วัน เพื่อให้เศษซากพืชและวัชพืชย่อยสลาย
อีกทั้งควรใช้เมล็ดพันธุ์ที่ปลอดโรค หรือให้ฆ่าเชื้อที่อาจติดมากับเมล็ดด้วยการแช่ในน้ำอุ่นอุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส นาน 20-25 นาที
กรณีปลูกผักสลัดในระบบไฮโดรโปนิกส์ ควรเตรียมพื้นโรงเรือนให้ดีด้วยการโรยหินกรวด เพื่อป้องกันน้ำขังและมีอากาศถ่ายเทสะดวก และหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว เกษตรกรควรทำความสะอาดโต๊ะปลูก
หากเริ่มพบโรคใบจุดตากบ ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเบโนมิล 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 12 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
...
ถ้าพบโรคระบาดรุนแรง ให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นสลับหมุนเวียนอย่างน้อย 3 ปี.
สะ-เล-เต