• โควิดฯ ระลอก 3 ทำโรงแรมแย่หนัก 80% จ่อปิดชั่วคราว ถึงเดือน ต.ค.
  • ธุรกิจโรงแรม เจอพิษโควิดฯ รอบ 3 จ่อขาดสภาพคล่อง มีเงินจ่ายพนักงานแค่ พ.ค.นี้
  • ผู้ประกอบการโรงแรม ร้องรัฐผุดมาตรการช่วยเหลือด่วน หลังเจอพิษโควิดฯ ระลอก 3 เล่นงานอ่วม

การระบาดของโควิดฯ ระลอก 3 ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1-2 พันคนต่อวัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลทั่วทั้งประเทศ ตกอยู่ในสภาพปัญหา "เตียงเต็ม" ถึงขั้นต้องตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ติดเชื้อ โดยหลายจังหวัดต้องงัดมาตรการเข้มขึ้นมาป้องกัน เพื่อสกัดกั้นและควบคุมการแพร่ระบาด ทั้งประกาศเคอร์ฟิว กำหนดเวลาห้ามอออกจากเคหสถาน ห้ามเดินทางเข้า-ออกจังหวัด ซึ่งมาตรการเหล่านี้ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ "หยุดชะงัก" สร้างความเสียหายให้กับภาคธุรกิจต่างๆ มากมาย หลายธุรกิจเข้าขั้น "โคม่า" ไม่ต่างกับจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการบริการในธุรกิจประเภท "โรงแรม"

...

โรงแรมกว่า 80% แย่หนัก จ่อปิดกิจการชั่วคราว

โดย นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจโรงแรมภายในประเทศว่า จากการสอบถามสมาชิกอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับการระบาดของโควิดฯ ระลอกเดือน เม.ย.64 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงจากเดือน มี.ค.เหลือเพียง 5% และโรงแรมกว่า 80% ของสมาชิกสมาคมอาจงดให้บริการชั่วคราวไปจนถึงเดือน ต.ค.จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง หรือจนกว่ารัฐบาลมีการกระจายวัคซีนฉีดให้คนไทยได้จำนวนมากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้

ทั้งนี้สมาคมร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน มี.ค.64 ก่อนการระบาดระลอก 3 จากการสำรวจโรงแรม 128 แห่ง พบว่ามีการเปิดกิจการเพียง 48% และเปิดให้บริการบางส่วน 41% ขณะที่ 11% ปิดกิจการ โดยโรงแรมขนาดใหญ่สายป่านยาวเท่านั้น ที่ยังเปิดกิจการ ส่วนโรงแรมที่ปกติรับเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนี้ปิดกิจการแล้วทั้งหมด

ขาดสภาพคล่องหนัก มีเงินจ่าย พนง.แค่ พ.ค.นี้

เมื่อสำรวจสภาพคล่องของโรงแรมในเดือน มี.ค.โรงแรมส่วนใหญ่ระบุว่า มีสภาพคล่องดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน หรือหากเปิดดำเนินการจะมีเงินจ่ายพนักงานแค่ถึงเดือน พ.ค.นี้ ส่วนการจ้างงาน ขณะนี้มีการจ้างงานเพียง 55% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยโรงแรมในภาคใต้กลับมาสร้างงานน้อยสุดประมาณ 40% ของอัตราจ้างงานช่วงก่อนการระบาด โดยนโยบายการจ้างงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นการให้ลางานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without pay) ใช้วันลาประจำปี รวมถึงสลับกันมาทำงาน

"การระบาดระลอก 3 กระทบโรงแรมอย่างหนัก ซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว สมาคมเตรียมสำรวจลมหายใจของโรงแรมอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรมเริ่มเห็นสัญญาณการท่องเที่ยวที่จะกลับมา และคาดกันว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะกลับมาชัดเจน และเข้าสู่ภาวะปกติประมาณปี 66 โดยกลุ่มโรงแรมหรู กลุ่มลักชัวรีจะกลับมาเร็วกว่าอุตสาหกรรมคือปี 65 แต่หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมการระบาดของระลอก 3 ได้ โอกาสที่โรงแรมจะฟื้นคืนชีพได้คงยาก และต้องยืดเวลาออกไป"

...

ร้องรัฐผุด 3 มาตรการช่วยเหลือด่วน ความหวังคือ "วัคซีน"

นางมาริสา กล่าวว่า สมาคมต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1. สนับสนุนค่าจ้างพนักงาน เพื่อไม่ให้มีการลดพนักงาน หรือเลิกจ้าง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจ 2. การพักชำระหนี้เงินต้นหรือดอกเบี้ย 3. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งนี้ กลุ่มที่พึ่งพาเงินกู้ยืมต้องการให้ภาครัฐพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยมากสุด และกลุ่มที่มีเงินทุนหนา มีบริษัทแม่คอยดูแลเรื่องสภาพคล่อง ต้องการให้ช่วยในเรื่องการจ้างงาน และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คือรัฐบาลควรเร่งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทยให้เร็วที่สุด เพราะวัคซีนคือความหวังเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย และเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้ เพื่อให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังมีลมหายใจ และไม่เกิดการเลิกจ้างงานกันอีกระลอกใหญ่เหมือนที่ผ่านมา

เรียบเรียงโดย : หงเหมิน
กราฟิก : sriwon singha