ศบค. เผย 10 จังหวัดพบผู้ป่วยโควิดสะสมสูงสุด กทม.ครองแชมป์ เปิด 19 จุดเสี่ยงติดเชื้อ จากการวิเคราะห์ของผู้ป่วยที่พบ
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า 10 อันแรกที่มีผู้ป่วยยืนยันสูงสุด วันนี้ คือ
- กรุงเทพมหานคร 1,078 คน
- เชียงใหม่ 163 คน
- นนทบุรี 115 คน
- สมุทรปราการ 77 คน
- ชลบุรี 75 คน
- ปทุมธานี 56 คน
- นครศรีธรรมราช 55 คน
- นครราชสีมา 54 คน
- สุราษฎร์ธานี 54 คน
- สมุทรสาคร 52 คน
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ป่วยโควิดระลอกใหม่เดือนเมษายน สะสมมากที่สุด 10 อันดับคือ
1. กรุงเทพฯ มียอดผู้ป่วยสะสม 8,178 ราย
2. เชียงใหม่ มียอดผู้ป่วยสะสม 3,148 ราย
3. ชลบุรี มียอดผู้ป่วยสะสม 1,859 ราย
4. นนทบุรี มียอดผู้ป่วยสะสม 1,151 ราย
5. สมุทรปราการ มียอดผู้ป่วยสะสม 1,066 ราย
6. ประจวบฯ มียอดผู้ป่วยสะสม 984 ราย
7. สมุทรสาคร มียอดผู้ป่วยสะสม 653 ราย
8. ปทุมธานี มียอดผู้ป่วยสะสม 525 ราย
9. นราธิวาส มียอดผู้ป่วยสะสม 477 ราย
10. สงขลา มียอดผู้ป่วยสะสม 450 ราย
...
ทั้งนี้ ตัวเลขที่ ศบค. นำมาเผยแพร่ เป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับตัวเลขที่ทางจังหวัดประกาศออกมา เพื่อรอการยืนยันข้อมูล ขณะที่บางจังหวัดได้ประกาศมาตรการรายจังหวัดออกมา ตามอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าก็มีการประชุมของ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) มีการพูดคุยในหลายประเด็น และมีการวิเคราะห์การแพร่ระบาด ซึ่งหากนำผู้ติดเชื้อกว่า 5 หมื่นคนมาแยกย่อย จะพบว่าในการระบาดระลอก 2 และ การระบาดระลอกใหม่ เดือนเมษายนนี้ จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อจะใกล้กัน แต่ค่าเฉลี่ยอายุของผู้ติดเชื้อจะน้อยลง กลุ่มคนยังเป็นกลุ่มเดิม คือ 20-39 ปี
ขณะที่สถานที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 1-24 เมษายน 2564 จากตัวอย่าง 3,468 ราย ไล่ออกมาได้ 19 อันดับดังนี้
1. สถานบันเทิง 2,227 ราย
2. บ้าน (ติดจากคนในครอบครัว) 278 ราย
3. สถานที่ทำงาน บริษัท 203 ราย
4. เชื่อมโยงต่างจังหวัด 199 ราย
5. SQ/ASQ/AHQ 89 ราย
6. งานเลี้ยง สัมมนา งานบวช 78 ราย
7. สถานพยาบาล 77 ราย
8. ตลาด 74 ราย
9. ร้านอาหาร 74 ราย
10. ห้าง ร้านสะดวกซื้อ 55 ราย
11. สถานที่เล่นกีฬา ยิม 32 ราย
12. สถานีตำรวจ 22 ราย
13. สถานศึกษา 17 ราย
14. เรือนจำ 11 ราย
15. ศาสนสถาน 10 ราย
16. ติดในคอนโดฯ 9 ราย
17. ร้านเสริมสวย นวด สปา 9 ราย
18. ขนส่งสาธารณะ 6 ราย
19. อื่นๆ 8 ราย