พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จัดเปิดการอบรมและบรรยายพิเศษโครงการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานสอบสวนคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ระดับรอง ผกก. ที่รับผิดชอบงานสอบสวนทั่วประเทศ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการทำหน้าที่สอบสวน ตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลัง ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.และ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. รับผิดชอบจัดฝึกตำรวจ
รับมือคดีออนไลน์
เนื่องจากปัจจุบันคดีอาชญากรรมจำนวนมากกระทำผิดผ่านเครือข่ายทางอินเตอร์เน็ต เช่น การฉ้อโกงหลอกขายสินค้าออนไลน์ การหลอกให้ โอนเงิน Fake news Romance scams การเข้าถึงโจมตีหรือทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกค่าไถ่ การฉ้อโกงประชาชนทางสื่อออนไลน์ เป็นเรื่องที่ทำความเสียหายคนหมู่มาก
ปัจจุบันมีการทุจริตในโครงการต่างๆของรัฐบาล เช่น “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” และ “โครงการคนละครึ่ง” ที่มี พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. รับผิดชอบการสืบสวน
คดีเหล่านี้ล้วนแต่มีความซับซ้อนและมีผู้เสียหาย รวมทั้งผู้ต้องหาจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ จำเป็นต้องมีการประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหายและประชาชนให้มากที่สุด รูปแบบการสอบสวนจะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน
ทำเป็นรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ
...
การดำเนินคดี “ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน” กองบังคับการปราบปราม ได้จัดส่งประเด็นการสอบสวนเรื่องนี้ไปให้ตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
ให้สอบสวนปากคำผู้ใช้สิทธิ์ไว้เป็นพยานประกอบสำนวนคดีทุจริตโครงการใหญ่ของรัฐบาล
พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเจ้าของร้านค้าและตัวกลางผู้รวบรวมสิทธิ์ที่ร่วมกันทุจริตมาดำเนินคดีเพิ่มเติม หากผู้ต้องหาไม่เข้ามาตามหมายเรียก จะเสนอต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับกุมผู้ต้องหา
ส่วนโรงแรมอีกกว่า 400 แห่ง และร้านค้าอีกกว่า 400 ร้านค้า ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายทุจริต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเตรียมข้อมูลและเอกสารมาร้องทุกข์ดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม
กองปราบปรามได้ส่งคำร้องทุกข์ไปยังท้องที่เกิดเหตุสอบสวนดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องงานเดินได้ เพราะ ผบ.ตร.วางระบบงานสอบสวนคดี.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th