ไร้ผลข้างเคียง วัคซีนจังหวัดเสี่ยงทยอยฉีดแล้ว

ระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “ซิโนแวค” ลอตแรก 2 แสนโดส ผ่านฉลุย ยังไม่พบ ผู้มีอาการแพ้รุนแรง ส่วนใหญ่ “ผู้ว่าฯ-หัวหน้าส่วนราชการ” อาสาปักเข็มแรกของพื้นที่ ขณะที่ “หมอ ทวีศิลป์” ย้ำแม้ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เหตุวัคซีนไม่ได้ลดการแพร่เชื้อ แต่ช่วยไม่ให้ ป่วยหนัก และไทยยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 80 คน เป็นติดเชื้อในประเทศถึง 64 คน มาจากนอกประเทศ 16 คน ขณะที่ “อนุทิน” จี้ ผวจ.ปทุมฯ จัดการพวกปกปิด ข้อมูลผู้ติดเชื้อ ทั้งบุคคลและโรงงาน ถือมีความผิด

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลอตแรกใน 13 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนแวค ลอตแรก 2 แสนโดส ที่ไทยสั่งซื้อจากประเทศจีน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบผู้มีอาการแพ้รุนแรงแม้แต่รายเดียว

“อนุทิน” รุดให้กำลังใจ ผวจ.ปทุมฯ

ผู้สื่อข่าวข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 มี.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกของ จ.ปทุมธานี ที่ห้องประชุมบงกชรัศมิ์ ชั้น 8 อาคารผู้ป่วยนอก รพ.ปทุมธานี โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.ปทุมธานี เป็นคนแรกของจังหวัดที่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยนายอนุทินกล่าวว่า ขอยืนยันว่าการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนทุกคนได้มารับการฉีดฟรี

มั่นใจจัดการผู้ปกปิดข้อมูล

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีพบโรงงานในพื้นที่ปกปิดข้อมูลคนงานติดเชื้อโควิด-19 ด้วยว่า ตนขอย้ำ อีกว่าบริษัทหรือโรงงานใดที่มีการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มแรงงาน หรือคนงาน ภายในบริษัทหรือโรงงานของท่านนั้นมีการติดเชื้อหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ไม่ยอมบอก ถือว่ามีความผิด เชื่อมั่นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และที่สำคัญ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เคยเป็นอดีตนายตำรวจ คงจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน

ระดมฉีดกลุ่มแรก 4 พันคน

ขณะที่นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.ปทุมธานี กล่าวถึงแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 4,000 คน สำหรับจังหวัดปทุมธานี โดยกำหนดฉีดวัคซีนเข็มแรกในกลุ่มเป้าหมายดังนี้ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าของ รพ.ภาครัฐ มหาวิทยาลัยและเอกชน จำนวน 1,500 คน เจ้าหน้าที่ที่สัมผัสผู้ป่วย ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งฝ่ายปกครองที่ร่วมดำเนินการในตลาดสุชาติและตลาดพรพัฒน์ จำนวน 1,000 คน กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว จำนวน 1,000 คน และประชาชนผู้ค้า ในตลาดสุชาติและพรพัฒน์ จำนวน 500 คน

สมุทรสาครระดมฉีดวัคซีน

ส่วนที่ห้องประชุมพระนรราชจำนง ชั้น 7 รพ.สมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ช่วง
เช้าวันเดียวกัน มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ บุคลากร ของโรงพยาบาลสมุทรสาครเป็นวันที่สอง โดยที่จุดนี้จะจัดฉีดทั้งสิ้น 2 พันคน ซึ่งสามารถฉีดได้วันละ 500 คน คาดว่าจะจบภายใน 4 วัน จากการสอบถามนายธีรศักดิ์ เทียนสว่าง เจ้าหน้าที่โสตทัศนูปกรณ์โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังเข้ารับการฉีดแล้วว่ารู้สึกปกติดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงอยากจะบอกกับประชาชนทั่วไปว่ามารับการฉีดวัคซีนเพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันกับตัวเอง ส่วนที่ รพ.บ้านแพ้ว มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกของอำเภอ ให้กับนายประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว เป็นคนแรก ตามด้วย พ.ต.อ.กมลาสน์ อรุณภาคมงคล ผกก.สภ.บ้านแพ้ว นายพรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.โรงพยาบาลแพ้ว และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ้านแพ้ว รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ ขณะที่บรรยากาศการเปิดตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เป็นวันแรกเมื่อเช้าวันที่ 1 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ซื้อ ผู้ขาย พ่อค้าแม่ค้าแพกุ้ง และแรงงานต่างชาติ เข้ามาค้าขายกันจำนวนมาก ภายใต้มาตรการ New Normal สร้างความดีใจให้กับผู้ค้าอย่างมากหลังปิดตลาดไปตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2563 รวมเวลา 2 เดือนเศษ

“สาธิต” ชมการฉีดวัคซีนที่ชลบุรี

ส่วนที่ รพ.ชลบุรี อ.เมืองชลบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้า นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข มาตรวจการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีนายแพทย์อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เป็นผู้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก ส่วนเข็มที่ 2 ได้แก่ นพ.ชัยยะ เอี่ยมอารีรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.ชลบุรี และหัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยา โดยมีนางจิรวรรณ อารยะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี เป็นผู้ฉีดให้ ขณะที่นายสาธิต และนายภัครธัรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี และคณะ ดูการฉีดวัคซีนและให้กำลังใจ ภายหลังจากฉีดทุกคนยืนยันไม่มีอาการผิดปกติ นายแพทย์อภิรัตกล่าวว่า ฉีดแล้วสบายดีไม่มีอะไรผิดปกติ สำหรับวัคซีนที่ฉีดเข้าไปนั้นเป็นการลดอัตราการติดเชื้อ และควบคุมความรุนแรงของโรคเท่านั้น ยังต้องระมัดระวังเหมือนเดิมคือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เช่นเดียวกับ นพ.ชัยยะ เอี่ยมอารีรัตน์ กล่าวว่า ได้รับการฉีดแล้วไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรเลยปกติสบายดี

กระจายวัคซีนไป รพ.ในพื้นที่

สำหรับ จ.ชลบุรี ได้รับวัคซีน 4,700 โดส เน้นไปที่บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงก่อน ประกอบไปด้วย รพ.ชลบุรี 1,100 โดส รพ.บางละมุง 1,100 โดส รพ.วัดญาณสังวราราม 100 โดส รพ.แหลมฉบัง 700 โดส รพ.สัตหีบ 500 โดส รพ.พนัสนิคม 250 โดส รพ.บ้านบึง 250 โดส รพ.พานทอง 200 โดส รพ.หนองใหญ่ 150 โดส รพ.บ่อทอง 150 โดส รพ.เกาะจันทร์ 100 โดส และ รพ.เกาะสีชัง 100 โดส

แจงปมระยองได้วัคซีนลอตสอง

ขณะที่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผอ.รพ.ระยอง เปิดเผยกรณี จ.ระยอง ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในลอตแรกว่า จังหวัดระยองเคยมีปัญหาเรื่องการติดโควิดเสี่ยงสูงแดงเข้ม แต่บัดนี้ได้ลดลงแล้วและไร้ผู้ติดเชื้อต่อเนื่องครบ 14 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ผู้ใหญ่จึงพิจารณาให้จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงในขณะนี้ และชายแดนและที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ ชลบุรี ตาก สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฯลฯ ได้รับวัคซีนก่อน ถ้ามีการระบาดใหญ่อีกที่จังหวัดไหนก็จะเอาโควตาของระยองไปเสริมช่วยไปก่อน ถ้าไม่มีอะไร ระยองจะได้รับวัคซีนเดือน เม.ย.นี้

ราชบุรีคาดฉีดวัคซีนได้ครบในปีนี้

ส่วนที่ รพ.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรีนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผวจ.ราชบุรี ร่วมเป็นสักขีพยานในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของซิโนแวคที่มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับ พญ.ปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ราชบุรี ตามด้วย นพ.ชวนนท์ อิ่มอาบ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ราชบุรี และแพทย์ของทางโรงพยาบาลวัดเพลง ที่เป็นด่านหน้าในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ พญ.ปาจรีย์กล่าวว่า จังหวัดราชบุรีได้รับวัคซีน 2,500 โดส สำหรับฉีดให้กลุ่มแรก 1,250 คน และคาดว่าจะได้รับการฉีดไม่น้อยกว่า 400,000 คน ภายในปีนี้

รอติดตามผลหลังฉีด 1 สัปดาห์

เช่นเดียวกับที่ จ.สมุทรปราการ เริ่มฉีดให้กลุ่มเป้าหมายแรก โดยช่วงเช้า น.ส.เรวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับนายวันชัย คงเกษตร ผวจ.สมุทรปราการ เป็นคนแรก ตามด้วย นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุข จ.สมุทรปราการ จากนั้น นพ.นนท์ จินดาเวช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า เนื่องจากปริมาณวัคซีนที่ได้มาในลอตแรกมีเพียง 6 พันโดส หมายความว่าสามารถฉีดได้ 3 พันคน ส่วนเป้าหมายอื่น เช่น อสม.ประชาชนทั่วไป จะเริ่มฉีดในเดือนเมษายน เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามหลังจากฉีดแล้ว ทางสาธารณสุขมีระบบการติดตามผลข้างเคียงก่อน 30 นาที และจะประเมินอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ และ 1 เดือนต่อไป สำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะฉีดวัคซีน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.สมุทรปราการ และโรงพยาบาลรัฐใกล้เคียง ว่าทางการจะเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อไหร่

กทม.เริ่มฉีดให้บุคลากร 3 รพ.

สำหรับใน กทม.มีการประเดิมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ลอตแรก ที่ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นวันแรกประกอบด้วย นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม.นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผอ.สำนักการแพทย์ นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ นายศุภรัช สุวัฒนพิมพ์ ผอ.รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน ทั้งนี้ รัฐบาลจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ กทม. เบื้องต้น เป็นวัคซีนซิโนแวค 66,000 โดส โดยวันที่ 1 มี.ค.เป็นวันแรกของโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ที่จัดฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นลำดับแรก ได้แก่ รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ และ รพ.ราชพิพัฒน์ เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากมีอาการที่ไม่พึงประสงค์จะสามารถให้การดูแลได้อย่างทันท่วงที ซึ่งมีบุคลากรทางการการแพทย์สมัครใจฉีด 6 คน และจะมีบุคลากรทาง แพทย์ทยอยฉีดวัคซีน 30 คน ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ มีบุคลากรสมัครใจฉีด 50 คน และ รพ.ราชพิพัฒน์ 50 คน จากนั้นจะให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มเสี่ยงตามลำดับในสัปดาห์ที่สอง เริ่มที่อาสาสมัครคนไข้ประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ด่านหน้าควบคุมโรค 3,700 คน สัปดาห์ที่สาม อาชีพกลุ่มเสี่ยง เช่น อาสาสมัครชุมชน ตำรวจ ทหาร สัปดาห์ที่สี่เป็นผู้สูงอายุ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง สัปดาห์ที่ห้าประชาชนในพื้นที่เสี่ยงตามแนวรอยต่อ จ.สมุทรสาคร ตามความสมัครใจ โดยจะให้บริการวันละไม่เกิน 30 คน สำหรับผู้ว่าฯ กทม.ไม่สามารถฉีดวัคซีนซิโนแวคได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องอายุ ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่ กทม.ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลแล้ว ต้องรอผลการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่า กทม.จะได้รับวัคซีนมาอีก 33,000 โดส

ไทยติดเชื้อรายใหม่ 80 คน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย ประจำวันที่ 1 มี.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 80 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 64 คน จำแนกมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 28 คน มาจากการค้นหาเชิงรุก 36 คน นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 คน มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 26,031 คน หายป่วยสะสม 25,324 คน อยู่ระหว่างการรักษา 624 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 83 คน ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 114,678,427 ราย เสียชีวิตสะสม 2,543,044 ราย

ฉีดวันแรก 319 คนยังสบายดี

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 28 ก.พ.เป็นไปด้วยดี ฉีดไปแล้ว 4 จังหวัดคือ นครปฐม นนทบุรี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ รวม 319 ราย ในจำนวนนี้มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และตนรวมอยู่ด้วย ยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง สำหรับแผนกระจายวัคซีนลอตแรกระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ. ได้กระจายไปใน 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ 3,520 โดส ตาก 5,000 โดส นครปฐม 3,560 โดส ราชบุรี 2,520 โดส สมุทรสงคราม 2,000 โดส ปทุมธานี 8,000 โดส สมุทรปราการ 6,000 โดส กทม. 33,600 โดส สมุทรสาคร 15,040 โดส ขณะที่ภูเก็ต นนทบุรี ชลบุรี และ อ.เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ได้รับวัคซีนในวันที่ 1 มี.ค.

ย้ำหน้ากากอนามัยยังจำเป็น

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า แม้จะมีการกระจายวัคซีนแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะป้องกันโรคได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น มาตรการสุขอนามัยส่วนตัวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ วันนี้แม้วัคซีนจะมาแล้ว แต่ในประเทศที่ฉีดกันแล้วยังต้องใช้หน้ากากอยู่เนื่องจากการฉีดวัคซีนจะช่วยให้เราไม่ป่วยหนัก แต่ไม่ได้ลดการแพร่เชื้อ เพราะเชื้อยังอยู่ในตัวคนนี่คือสิ่งที่ยังจำเป็นตนเองแม้จะฉีดวัคซีนมาแล้วยังต้องใส่หน้ากากอยู่ ฝากทุกคนช่วยกัน เรื่องนี้คือเรื่องสำคัญของประเทศที่เราจะผ่อนคลายไปด้วยกัน ส่วนในวันที่ 6 มี.ค.จะมีการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2564 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีการวางมาตรการป้องกันโควิด-19 ไว้อย่างรัดกุมเนื่องจากมีผู้เข้าสอบกว่า 1.3 หมื่นคน ทำให้มีการขยายพื้นที่ใช้สอบ จากเดิมใช้จำนวนอาคารเพียง 1 อาคาร ได้ปรับเพิ่มเป็น 2 อาคาร เพื่อเว้นระยะห่างเพิ่มเติมในอัตราส่วน 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน และยังลดระยะเวลาสอบรวมถึง อำนวยความสะดวกเรื่องอาหาร เพื่อลดความเสี่ยง

นายกฯย้ำพร้อมฉีดวัคซีน

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ฉีดวัคซีนไม่เห็นเป็นอะไร แข็งแรงกว่าเดิมอีก การฉีดวัคซีนดังกล่าวเป็นเรื่องของคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี ซึ่งตัวท่านเองแข็งแรงอยู่แล้ว ในส่วนของตนต้องรอ อย่างที่หมอแนะนำมา เนื่องจากมีวัคซีนอยู่หลายส่วนด้วยกันในเชิงพาณิชย์ก็มี โครงการโคแวกซ์ก็มี ต้องเคลียร์ตรงนี้ให้เรียบร้อย พร้อมย้ำ พร้อมที่จะฉีด ให้ฉีดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อะไรที่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็อย่ามาตีหรือกระพือขึ้นมาเลย ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น และส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลทำอย่างเต็มที่แล้ว ทำให้ประชาชนในขีดความสามารถที่เรามีอยู่ในวันนี้ ในทุกๆ กระทรวง ทุกงบประมาณให้ดีที่สุด ทุกอย่างค่อยๆ ปลดออกไปเรื่อยๆ อนาคตเมื่อวัคซีนสามารถแก้ปัญหาได้ก็จะยิ่งเป็นการดี

ผู้ว่าฯปูเตรียมออกจาก รพ.

ต่อมา ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยถึงอาการนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ว่าฯลุกเดินได้แล้วโดยไม่ต้องใช้วอล์กเกอร์ โดยภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้เข้ามาทำกายภาพบำบัดเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะขาที่ใช้เดินรับน้ำหนัก ทำให้เดินได้ดีต่อเนื่อง การพูดจาเป็นปกติ ทานอาหารได้ปกติ ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อยู่ระหว่างปรึกษาหารือว่าหากทางจังหวัดสมุทรสาครสามารถดูแลเรื่องการเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ และผู้ว่าฯ ประสงค์จะกลับก็สามารถกลับได้ แต่หากยังต้องการให้นักกายอุปกรณ์ศิริราชช่วยทำโปรแกรมพัฒนากล้ามเนื้อจนแข็งแรงกว่านี้อีกระยะ เพื่อให้เกิดความมั่นใจก็ทำได้เช่นกัน ส่วนจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่กว่าที่กล้ามเนื้อจะแข็งแรงเป็นปกติ ไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน ขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อและความมุ่งมั่นแต่ละคน

รอตรวจภูมิคุ้มกันโควิด

สำหรับเรื่องภูมิคุ้มกันในตัวผู้ว่าฯ กำลังให้เจาะเลือดส่งตรวจภายใน 1-2 วันนี้ โดยทฤษฎีผู้ป่วยโควิดจะมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนไข้ที่อาการหนัก มีแนวโน้มจะมีภูมิสูงกว่าคนที่อาการน้อยส่วนภูมิที่มีจะอยู่นานเท่าไหร่ ข้อมูลจากหน่วยงานในสหราชอาณาจักรที่เรียกว่า PHE ระบุว่า อยู่ได้ 7 เดือน แต่หลังจากนั้นเป็นอย่างไรยังไม่มีคำตอบ กรณีผู้ว่าฯ หากตรวจพบมีภูมิแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน ยกเว้นแจ็กพอตไม่มีภูมิ คงต้องให้ผู้ว่าฯ รับการฉีดวัคซีนให้ครบ 2 โดสที่ รพ.ก่อนกลับ อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ว่าฯมีภูมิแล้ว ยังแนะนำเมื่อกลับไป ยังต้องเป็นแบบอย่างให้ชาวสมุทรสาครในการใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ที่ต้องปฏิบัติต่อเนื่อง