ไทยเริ่มเห็นแสงสว่างผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดต่ำร้อย เจอ 82 คน เป็นในประเทศ 71 คน ส่วนใหญ่ยังมาจากสมุทรสาครกลับจากนอก 11 คน ขณะเดียวกันยังพบผู้ติดเชื้อโยงคลัสเตอร์ตลาดพรพัฒน์ ปทุมธานี เรื่อยๆ หมอวอนคนไป 2 ตลาด 1 ชุมชน ช่วยกักตัวอยู่บ้าน 14 วันก่อน ลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ ส่วนการจัดหาวัคซีน ผอ.สถาบันวัคซีนฯยันมีคุณภาพทั้งแอสตราฯ-ซิโนแวค และไม่ปิดโอกาสประเทศยังเจรจาหาวัคซีนผ่าน COVAX Facility ด้าน ศบค.เล็งต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีกหลังครบกำหนดสิ้น ก.พ.นี้ “วิษณุ” ระบุเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการฉีดวัคซีน
ผ่านสัปดาห์ที่ 7 ของปี 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทย ระลอกใหม่ เริ่มดีขึ้นชัดเจน เมื่อยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงไม่เกินหลักร้อยคนเป็นครั้งที่สองของเดือน ก.พ.
ติดเชื้อใหม่ต่ำร้อยคน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ก.พ. ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ของ ศบค. สรุปสถานการณ์โควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 82 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 71 คน จำแนกเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 27 คน (พบที่ กทม. 2 คน ปทุมธานี 2 คน นครปฐม 2 คน อ่างทอง 1 คน สมุทรสาคร 19 คน และสมุทรปราการ 1 คน) และจากการค้นหา ผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 44 คน (พบที่ กทม. 4 คน ปทุมธานี 23 คน สมุทรสาคร 16 คน และอ่างทอง 1 คน) เป็นผู้ป่วยเดินทางมาจากต่างประเทศ 11 คน คือสหรัฐอเมริกา 2 คน รัสเซีย 2 คน เยอรมนี อินเดีย ไนจีเรีย ฝรั่งเศส เคนยา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน ประเทศละ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 25,323 คน หายป่วยแล้ว 24,129 คน ยังรักษาตัวอยู่ 1,111 คน อยู่ในโรงพยาบาลสนาม 219 คน อยู่ในโรงพยาบาล 892 คน มียอดผู้เสียชีวิตคงที่อยู่ที่ 83 คน หากแยกสถิติเป็นรายจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศ 71 คน พบที่สมุทรสาคร 35 คน กทม. 6 คน ปทุมธานี 25 คน สมุทรปราการ 1 คน อ่างทอง 2 คน และนครปฐม 2 คน ทั้งนี้ จากสถิติพบว่าจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ คงอยู่ที่ 14 จังหวัด และมีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 จังหวัด รวมเป็น 38 จังหวัด
...
อาการหนัก 7 คนใน 5 จว.
ต่อมาช่วงบ่าย ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในไทยว่า ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 82 คน เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 71 คน เป็นการค้นหาเชิงรุก 44 คน และมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 27 คน จะเห็นว่าผู้ป่วยในระบบบริการเริ่มลดลง แต่ ยังวางใจไม่ได้ ทุกคนต้องป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม และยังพบผู้ป่วยอาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 7 คน อยู่ที่ จ.นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สรุปสถานการณ์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ที่ 7 ของปีนี้ พบว่ายอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 918 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่พบใน 19 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มี ผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 7 วันขึ้นไป และจังหวัดที่ไม่เคยมีผู้ติดเชื้อรวม 58 จังหวัด
โยงตลาดพรพัฒน์อีก
นพ.จักรรัฐกล่าวอีกว่า ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ที่มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 27 คน จำแนกเป็น กทม.2 คน คนแรก เป็นชาย อายุ 24 ปี เป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง อีกรายเป็นหญิง อายุ 38 ปี อาชีพค้าขาย ปทุมธานี พบ 2 คน เป็นชายอายุ 2 เดือน และ 48 ปี เกี่ยวข้องกับตลาดพรพัฒน์, อ่างทอง 1 คน เป็นหญิง อายุ 52 ปี อาชีพค้าขาย เกี่ยวข้องกับตลาดพรพัฒน์ เช่นกัน นครปฐม พบ 2 คน เป็นชาย อายุ 76 ปี และหญิง อายุ 63 ปี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโรงงาน ที่มีการระบาดอยู่ก่อนหน้านี้ สมุทรสาคร พบ 19 คน เป็นชาย 8 คน อายุ 12-71 ปี และหญิง 11 คน อายุ 11-49 ปี ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 12 คน เมียนมา 6 คน และกัมพูชา 1 คน สมุทรปราการ พบ 1 คน เป็นหญิง อายุ 50 ปี อาชีพค้าขาย มีความเชื่อมโยง กับตลาดพรพัฒน์ ส่วนผู้ป่วยที่มาจากการค้นหาเชิงรุก 44 คน พบใน กทม.4 คน ปทุมธานี 23 คน มีความเชื่อมโยงกับตลาดพรพัฒน์ สมุทรสาคร 16 คน และอ่างทอง 1 คน เชื่อมโยงกับตลาดพรพัฒน์ เช่นกัน สำหรับสถานการณ์ใน จ.สมุทรสาคร เริ่มมี ตัวเลขผู้ป่วยลดลง ในช่วงสัปดาห์นี้จำนวนผู้ป่วยแต่ละวันไม่เกินวันละ 100 คน แสดงว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้ดีพอสมควร
วอนไป 2 ตลาดดังให้กักตัวก่อน
“ส่วนสถานการณ์ใน จ.ปทุมธานี ยังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องจากการค้นหาเชิงรุก สัปดาห์นี้มีรายงานผู้ติดเชื้อค่อนข้างมาก เชื่อมโยงกับตลาดพรพัฒน์ ตลาดสุชาติ และชุมชนรอบตลาดพรพัฒน์ ผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับตลาดพรพัฒน์ ในจังหวัดอื่นๆก็ยังพบอยู่ อยากให้ประชาชนที่เคยเดินทางไปซื้อของที่ตลาดพรพัฒน์ แล้วนำของไปขายต่อหรือเดินทางกลับบ้าน ขอให้ทุกคนเฝ้าระวังตนเอง สวมหน้ากากตลอดเวลาและขอให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน อย่าเพิ่งพบคนจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อให้คนอื่นต่อ” นพ.จักรรัฐกล่าว
ยันไทยเลือกวัคซีนมีคุณภาพ
ส่วน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ไทยจัดหาในระยะแรก 2 ชนิด ทั้งจากแอสตราเซเนกาและซิโนแวคว่า มีผลการศึกษาในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยผ่านเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ล่าสุดวัคซีนจากแอสตราเซเนกา ได้รับการรับรองให้ใช้กรณีฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลกแล้วเช่นเดียวกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และมีการใช้กรณีฉุกเฉินใน 43 ประเทศทั่วโลก ยังไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกออกคำแนะนำการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา ไม่ได้ห้ามใช้วัคซีนในผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และพบการใช้วัคซีนมีประสิทธิผลในการลดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ โดยแนะนำให้มีระยะห่างของการฉีดที่ 8-12 สัปดาห์ จะได้ประสิทธิภาพของวัคซีนดีที่สุด ส่วนวัคซีนซิโนแวคได้รับการอนุมัติทะเบียนจากประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในอาเซอร์ไบจาน บราซิล ชิลี โคลอมเบีย อินโดนีเซีย ลาว เม็กซิโก ตุรกี และอุรุกวัย ผลการทดสอบช่วยลดอาการป่วยที่รุนแรง ยังไม่พบรายงานอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงเช่นกัน พร้อมกันนี้ไทยยังคงเจรจากับ COVAX Facility เป็นระยะ หากบรรลุเงื่อนไข ข้อเสนอที่ประเทศจะได้ประโยชน์ ก็อาจทำข้อตกลงการจัดหาวัคซีนผ่าน COVAX Facility ได้
...
เล็งขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 ก.พ. จะพิจารณาการขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด เนื่องจากเกิดเหตุแพร่ระบาดใน 2 ตลาด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ศบค.ชุดเล็กเสนอตั้งเรื่องเข้ามาเพื่อให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการได้ การประกาศขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้จะสอดคล้องกับแผนการฉีดวัคซีนที่จะมาในสัปดาห์หน้านี้ ต้องมีมาตรการ ไม่เช่นนั้นหากโรคกลับมาระบาดลุกลาม จะกลายเป็นว่าวัคซีนไม่ศักดิ์สิทธิ์ หลัง ศบค.พิจารณาจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในวันที่ 23 ก.พ. และ ศบค.เตรียมพิจารณามาตรการผ่อนผันด้วย ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายประเด็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้เงินทวีคูณนั้น ในกฎหมายเขียนไว้จริง เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีโอกาสได้รับเงินทวีคูณ ต้องเป็นมติ ครม. แต่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้ไม่มีมติ ครม.
ตลาดสดมหาชัยยังเหงา
...
ส่วนที่ตลาดสดถนนสุขาภิบาล ตลาดสดมหาชัย และตลาดรถไฟ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ที่กลับมาเปิดแล้ว แต่บรรยากาศยังคงเงียบเหงา แม้ว่าทางตลาดจะมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้น ขณะที่วัดมหาชัยคล้ายนิมิต หลังตลาดสดในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร รถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 2 คัน เข้ามาตรวจเชิงรุกหาเชื้อโควิดให้กับประชาชนชุมชนท้ายตลาด เป้าหมาย 700 คน ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานเมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 19 ก.พ. มีผู้ป่วยรายใหม่ 35 คน จำแนกเป็นจากการค้นหาเชิงรุก 16 คน จำนวนนี้เป็นคนไทย 5 คน แรงงานต่างด้าว 11 คน ที่เหลือเป็นผู้ป่วยจากการตรวจในโรงพยาบาล 19 คน จำนวนนี้เป็นคนไทย 12 คน แรงงานต่างด้าว 7 คน สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมดมีจำนวน 16,020 คน
นายกฯมอบเงินทายาทหมอปัญญา
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี นายมงคลชัย สมอุดร เป็นตัวแทนของปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำเงินช่วยเหลือมอบให้กับครอบครัวนายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ อดีตแพทย์โรงพยาบาลมหาสารคาม ที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จนตัวเองติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิต โดยมีนายปานปราชญ์ หาญพาณิชย์พันธุ์ บุตรชายนายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ รับมอบและกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เป็นห่วงครอบครัว และให้กำลังใจมายังครอบครัว ขณะนี้ตนและครอบครัวทุกคนมีความเข้มแข็ง มีกำลังใจที่ดี พร้อมจะเดินหน้าต่อตามแบบ อย่างความดีที่คุณพ่อเคยทำมา ด้านคลินิกยังคงจะ เปิดต่อเพื่อสานต่องานของพ่อต่อไป
ขอนแก่นพบเด็ก 10 ขวบติดเชื้อ
ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ก.พ. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ. ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น และนายพันธ์เทพ เสาโกศล ปลัดจังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวพบผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 13 ของจังหวัด เป็นเด็กชายอายุ 10 ขวบ เรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น มีประวัติเพิ่งกลับมาจากไปร่วมงานตรุษจีน กับครอบครัวที่ จ.ปทุมธานี มาถึงขอนแก่นเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ชุมแพ จากการ สอบสวนโรคพบว่าก่อนหน้านี้บิดา อา และย่าของ ผู้ป่วยตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ จ.ปทุมธานี โดยบิดาผู้ป่วยมีกลุ่มเสี่ยงที่ทำงานร่วมกันที่โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.บ้านฝาง 5 คน ส่วนผู้ป่วยมีกลุ่มเสี่ยงสัมผัส เป็นนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน 310 คน
...
ทหารบิ๊กคลีนนิ่งโรงเรียนก่อนเปิด
ส่วนที่โรงเรียนราษฎร์วิทยา อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.สุปัญญา วิไลรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 310 พร้อมทหารมณฑลทหารบกที่ 310 ทหารกองกำลังนเรศวร และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กำลังพลจิตอาสา นักศึกษาวิชาทหาร คณะครู ร่วมกัน ทำความสะอาดสถานศึกษาในเขตเทศบาลนครแม่สอด ซึ่งเป็นกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ครั้งใหญ่ในสถานศึกษา พร้อมกันกว่า 10 แห่ง ทั้งสังกัดภาครัฐและเอกชน เพื่อเตรียมพร้อมกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติอีกครั้งในวันที่ 22 ก.พ.นี้
รพ.ไชโย ปิดแผนกผู้ป่วยใน
ต่อมาเมื่อบ่ายวันที่ 20 ก.พ. โรงพยาบาลไชโย จ.อ่างทอง ได้ออกประกาศว่า เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลไชโย ที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วย มีโอกาสสัมผัสเชื้อ covid-19 จึงต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน มีจำนวนถึง 16 คน ทำให้อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการดูแลและให้บริการกับผู้ป่วย ทางโรงพยาบาล จึงมีความจำเป็นต้องปิดแผนกผู้ป่วยใน ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2564 และจะนำผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ในแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ส่งต่อไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลใกล้เคียง แต่อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลไชโย ยังเปิดให้บริการรับผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยนอก หากมีความจำเป็นต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลอ่างทองหรือโรงพยาบาลโพธิ์ทองตามความรุนแรงของโรคต่อไป สำหรับสถานการณ์โรค covid-19 ของจังหวัดอ่างทอง
ปทุมธานีเจอเพิ่มอีก 16 คน
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี แจ้ง ณ เวลา 15.00 น.วันที่ 20 ก.พ.ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่อีก 16 คน มาจากการค้นหาเชิงรุกทั้งหมด แบ่งเป็นคนไทย 12 คน ต่างด้าว 4 คน ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 442 คน อยู่ระหว่างรักษา 359 คน รักษาหาย 83 คน
กำชับ สปส.รับคนแห่ลงทะเบียน
ส่วนการเงินช่วยเหลือเยียวยากลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ได้รับสิทธิ์คนละ 4,000 บาท ที่เริ่มให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ที่เปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 21 ก.พ.นี้ เป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.ไปจนถึงวันที่ 7 มี.ค.2564 นั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะระบบการลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อให้ระบบมีความพร้อม สามารถอำนวยความสะดวกและรองรับปริมาณการลงทะเบียนของผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงจัดตั้งศูนย์ทบทวนสิทธิ์ ม33เรารักกัน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนที่ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ จะสามารถขอทบทวนสิทธิ์ผ่าน www.ม33เรารักกัน.com ได้โดยผู้มีสิทธิ์จะต้องมีคุณสมบัติ มีสัญชาติไทย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่ได้รับสิทธิ์โครงการเราชนะ ไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ 31 ธ.ค.63 ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com และตรวจสอบการได้รับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.-7 มี.ค.64 ธนาคารทำการตรวจสอบข้อมูลรวมทั้งประมวลผลคัดกรอง วันที่ 8-14 มี.ค.64 ตรวจสอบสถานะผู้ได้รับสิทธิ์ผ่านทาง www.ม33เรารักกัน.com และกดยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” วันที่ 15-21 มี.ค.64 ได้วงเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ครั้งละ 1,000 บาท รวมทั้งสิ้น 4,000 บาท ในวันที่ 22,29 มี.ค.และวันที่ 5,12 เม.ย.64 เริ่มใช้แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’จ่ายเงินสำหรับการซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าภายในโครงการเราชนะ ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-31 พ.ค.64
รัสเซียอนุมัติใช้วัคซีนตัวที่ 3
สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในต่างแดน เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ยอดติดเชื้อรวมทั่วโลกเกิน 111 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 2.46 ล้านคน ขณะที่รัฐบาลไต้หวันอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกาในกรณีฉุกเฉิน โดยคาดว่าจะเริ่มฉีด วัคซีนได้ 7 วัน หลังจากวัคซีนชุดแรกจำนวน 200,000 โดส มาถึงในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ไต้หวันซื้อวัคซีนเกือบ 20 ล้านโดส เป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา 10 ล้านโดส โมเดอร์นา 5 ล้านโดส และอีก 4.76 ล้านโดส จาก โครงการโคแวกซ์ โดยจะฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทาง การแพทย์และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่กักกันโรคก่อน และตั้งเป้าที่จะจัดหาวัคซีนให้ได้ 30 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคลุมร้อยละ 65 ของประชากรไต้หวัน ส่วนที่รัสเซียอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิแวค ที่พัฒนาโดย ศูนย์วิทยาศาสตร์สหพันธ์ชูมาคอฟในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ให้เป็นวัคซีนตัวที่ 3 สำหรับใช้ในประเทศ โดยจะเริ่ม ใช้ในเดือน มี.ค. แม้การทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่ ของวัคซีนตัวนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นก็ตาม วัคซีนโควิแวค ต้องฉีด 2 เข็ม ในระยะเวลาห่างกัน 14 วัน สามารถเก็บในตู้เย็นธรรมดาที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสได้ ก่อนหน้านี้รัสเซียได้อนุมัติวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 2 ตัว ได้แก่ สปุตนิก วี ที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยและพัฒนากามาเลยา ตามมาด้วยเอพิแวคโคโรนา ของศูนย์วิจัยไวรัสและเทคโนโลยีชีวภาพรัสเซีย