ล่าช้า...ไม่ทันการณ์...นี่คือความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ที่สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารงานคณะสงฆ์ของมหาเถรสมาคม (มส.) โดยเฉพาะความล่าช้าในการแต่งตั้ง “เจ้าคณะภาค” จำนวน 26 ตำแหน่ง แบ่งเป็นฝ่ายธรรมยุต 8 รูป ฝ่ายมหานิกาย 18 รูป โดยปัจจุบันเจ้าคณะภาคที่ทำหน้าที่อยู่...อยู่ในฐานะ “รักษาการ” มานานนับปี
![สุญญากาศวงการสงฆ์ ยิ่งล่าช้า ยิ่งเสื่อม](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1L7Sb61Y79FnJseUC13Y8i5BrlXU4.webp)
ถามว่า ตำแหน่งเจ้าคณะภาค สำคัญอย่างไร?
คำตอบ คือ ตามข้อ 10 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ กำหนดให้เจ้าคณะภาคมีอำนาจหน้าที่การปกครองคณะสงฆ์ในเขตภาคของตน ดังนี้ 1.ดำเนินการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช 2.ควบคุมและส่งเสริมการรักษาความเรียบร้อยดีงาม การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ ให้ดำเนินไปด้วยดี 3.วินิจฉัยการลงนิคหกรรม วินิจฉัยข้ออุทธรณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยชั้นจังหวัด 4.แก้ไขข้อขัดข้องของเจ้าคณะจังหวัดให้เป็นไปโดยชอบ 5.ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าคณะและเจ้าอาวาส ตลอดถึงพระภิกษุสามเณรผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาหรืออยู่ในเขตปกครองของตน และชี้แจงแนะนำการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อยู่ในบังคับบัญชา ให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย และ 6.ตรวจการและประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองของตน
...
ความล่าช้าที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา 6+1 คือ 1.ด้านการปกครอง 2.ด้านการศาสนศึกษา 3.ด้านการเผยแผ่ 4.ด้านการสาธารณูปการ 5.ด้านการศึกษาสงเคราะห์ และ 6.ด้านการสาธารณสงเคราะห์ และอีก 1 คือ การพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก
![สุญญากาศวงการสงฆ์ ยิ่งล่าช้า ยิ่งเสื่อม](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1L7Sb61Y79FnJsfBKbADpVBAvye2c.webp)
จริงอยู่ว่า “ตำแหน่งรักษาการ” ยังสามารถทำงานได้ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ความมั่นใจ มั่นคงของตำแหน่งรักษาการลดระดับลงไป เพราะผู้รับการปฏิบัติต้องอยากรับฟังนโยบายจากเจ้าคณะภาคตัวจริงมากกว่า
ที่สำคัญเรื่องนี้ ทำให้หลายภาคส่วนมองว่า มส.ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของคณะสงฆ์ ไม่ดำเนินการตามกฎ มส. ที่ให้เจ้าคณะปกครองต้องเอื้อเฟื้อสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีมากกว่า
เพราะการปกครองคณะสงฆ์ มีการแบ่งการปกครองลดหลั่นตามลำดับตั้งแต่เจ้าใหญ่ เจ้าคณะหน ลงมาถึงเจ้าคณะภาค ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ เจ้าคณะภาคหนึ่งๆ คุม 4-5 จังหวัด ต้องสั่งการลงไปยังเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนา
![ศ.พิเศษ บรรจบ บรรณรุจิ](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUex734qG05N7WqSqvtO4dqOiBM7QL9YzdrwyryNtP69w.webp)
แต่เมื่อไม่มีการแต่งตั้งเจ้าคณะภาคตัวจริง การขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนาจะไปทางไหน?
“ขณะนี้คณะสงฆ์น่าจะอยู่ในภาวะกึ่งสุญญากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่องานคณะสงฆ์ และส่งผลลงไปในระดับเจ้าคณะปกครองรองลงไป จะแต่งตั้งก็ไม่ได้ จะตัดสินอธิกรณ์ก็ไม่ได้ เข้าใจว่าอาจจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของกฎหมายใหม่ ต้องใช้ความ รอบคอบ อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ แต่เชื่อว่าจะดีขึ้น” ศ.พิเศษ บรรจบ บรรณรุจิ ภาคีสมาชิกราชบัณฑิต สาขาศาสนา กล่าวถึงเหตุผลความล่าช้าการแต่งตั้งเจ้าคณะภาค
นอกจากคณะสงฆ์แล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) องค์กรที่ทำหน้าที่สนองงานคณะสงฆ์ ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน
เนื่องจากตำแหน่งผู้บริหารสำคัญๆ ก็ว่างลงและยังไม่มีการแต่งตั้งเป็นจำนวนมาก อาทิ รอง ผอ.พศ. 2 ตำแหน่ง ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารที่ส่วนกลางและเป็นตำแหน่งสำคัญที่ทำหน้าที่ขับ เคลื่อนงานคณะสงฆ์ทั้งเรื่องการปกครองการศึกษา และเผยแผ่ ว่างลงถึง 5 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ตำแหน่ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ก็ว่างโดยไม่มีการแต่งตั้งกว่า 10 ตำแหน่ง ที่สำคัญ มีบางตำแหน่งว่างมานานถึง 13–14 เดือน
![พระเมธีธรรมาจารย์](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUex734qG05N7WqSqvtO6FN8y1R6tbv2UCj5SIixGXPcO.webp)
...
รวมผู้บริหารระดับ 9 ว่างถึง 20 ตำแหน่ง...ทำไมถึงไม่ตั้ง ?...และปล่อยให้เกิดสภาวการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?
แน่นอน นี่คือคำถามที่รอคำตอบจากนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.พศ.อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาน) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “พศ.เกิดสุญญากาศมานาน ทำให้การขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาเป็นไปด้วยความล่าช้า ดังนั้น ผู้รับผิดคือนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.พศ. ควรเร่งรัดให้มีการแต่งตั้งผู้บริหารอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อให้การทำงานสนองงานคณะสงฆ์เป็นไปด้วยความรวดเร็ว”
“ทีมข่าวศาสนา” มองว่า ปัญหาความล่าช้าในคณะสงฆ์และองค์สนอง คือ พศ.เป็นประเด็นปัญหาที่ต้องมีการสะสางกันอย่างเร่งด่วน
เพราะในกิจการของคณะสงฆ์นั้น ย่อมไม่มีใครรู้ได้ดีเท่ากับพระสงฆ์ด้วยกันเอง...ขณะที่การขับเคลื่อนงานในหลายๆส่วนก็ต้องมีองค์กรสนอง อย่าง พศ.เป็นจักรกลสำคัญเช่นกัน
คงไม่มีพุทธศาสนิกชนคนไหนอยากเห็นความล่าช้า ที่เกิดจากการตกอยู่ในสภาวะสุญญากาศของคณะสงฆ์และองค์กรสนอง ส่งผลต่อพุทธศาสนา
วันนี้จึงมีคำถามที่ต้องการคำตอบ และการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม คือ การจัดการกับสภาวะความเสื่อมถอยที่กำลังก่อตัวขึ้นแล้วอย่างไร?.
![ณรงค์ ทรงอารมณ์](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUex734qG05N7WqSqvtPEaMrfTcGkzQmldf2AEAS2Q6ii.webp)
...
ทีมข่าวศาสนา