การส่งต่อความรู้เรื่องการรีไซเคิลมีส่วนช่วยให้เกิดการจัดการขยะแบบ Circular Economy โดยเฉพาะกล่องเครื่องดื่มที่เปลี่ยนจากทิ้งเป็นขยะ นำมาแกะ ล้าง เก็บ หรือพับก่อนทิ้ง รวบรวมเพื่อส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลกลายเป็นหลังคาแข็งแรงกันแดด ลม และฝน สร้างความอุ่นใจให้ผู้ประสบภัยทั่วประเทศไทย
นับเป็นความสำเร็จจากการดำเนิน โครงการ “หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” โครงการเก็บรวบรวมและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วเพื่อนำมาผลิตเป็นแผ่นหลังคาสำหรับการก่อสร้างและซ่อมแซมบ้านและที่พักพิงให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั่วประเทศไทย นำทัพโดยบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก ร่วมกับพันธมิตรและอาสาสมัครทั่วประเทศ
ความภาคภูมิใจในครั้งนี้ เต็ดตรา แพ้ค ได้จัดงาน “ครบรอบสิบปี หนึ่งทศวรรษหลังคาเขียว” ที่ห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า รัชดาภิเษก รวมถึงโรดโชว์ตลอดทั้งปีในห้างบิ๊กซี 10 แห่งครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อแสดงความชื่นชมอาสาหลังคาเขียวที่เข้าร่วมโครงการฯ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของโครงการฯ ผ่านนิทรรศการ เวิร์กช็อป เกมทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์แก่ผู้ร่วมงานที่มาร่วมสนุก โดยเฉพาะการเรียนรู้วิธีการพับจัดเก็บกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วอย่างถูกต้องเพื่อส่งไปรีไซเคิล
พลังความร่วมมือของพันธมิตรและอาสาสมัคร
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2553 ของการเริ่มต้นโครงการฯ เต็ดตรา แพ้ค ร่วมมือกับพันธมิตรหลัก 6 ราย โดยเต็ดตรา แพ้ค เป็นผู้ริเริ่มและดำเนินโครงการการรณรงค์ให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์โครงการในสื่อต่างๆ รวมทั้งทำกิจกรรมผ่านทางเครือข่ายชุมชนของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นผู้รับมอบแผ่นหลังคาผ่านไปให้กับผู้ประสบภัย บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รับเป็นจุดหลักในการรวบรวมกล่องเครื่องดื่มจากผู้บริโภคทั่วประเทศ และนำมาเก็บไว้ที่ศูนย์เก็บและจัดส่งสินค้าที่วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยศูนย์รีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม บริษัท ไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด เป็นผู้สนับสนุนโครงการ เข้ามาจัดเก็บและนำกล่องทั้งหมดที่รวบรวมได้ไปรีไซเคิลและผลิตเป็น “แผ่นหลังคา” ที่โรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีรายการทีวี 360 องศา ช่วยเรื่องการประชาสัมพันธ์โครงการในเครือข่ายสถานีรักษ์โลก และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ช่วยสนับสนุนด้านการรณรงค์ในหน่วยงานและเครือข่ายของกรมฯ
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนทั่วไป หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นอาสาหลังคาเขียว เพื่อช่วยจัดเก็บกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วในครัวเรือนของตนเอง ในชุมชน หรือหน่วยงานต่างๆ ซึ่งภายในงานโรดโชว์ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากอาสาหลังคาเขียว 3 ท่านมาร่วมบอกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกที่มีต่อโครงการฯ
คุณวิรุฬห์ ศรีรัตนกมล อาจารย์จากโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ กล่าวว่า
“วัตถุประสงค์ของโครงการฯ ตรงกับนโยบายของโรงเรียนที่ต้องการสร้างจิตอาสา ปลูกฝังนักเรียนให้ช่วยเหลือคนอื่น และตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ที่ผ่านมานักเรียนทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้รับความรู้เรื่องการจัดการขยะมากขึ้นจึงอยากให้หลายๆ โรงเรียนเข้าร่วม เพื่อช่วยทำให้โลกสวยไปด้วยกัน”
คุณต่อตระกูล เทศพานิช ผู้จัดการแผนกบุคคล โรงงาน DDS บริษัท เอ็นเอชเค สปริง ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เรามีพนักงานจำนวน 1,600-1,800 คน ปริมาณการทิ้งกล่องนมและกล่องน้ำผลไม้ค่อนข้างสูง เมื่อมาเจอโครงการฯ นี้จึงเกิดการคัดแยกขยะรีไซเคิลขึ้น ตัดและล้าง ทำทุกวัน โดยพนักงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อครบสองเดือนจะส่งต่อไป ก็อยากเชิญทุกท่านมาร่วมโครงการ เพียงคนละ 1 ชิ้นก็นำพาความสุขได้”
คุณกนกพร เทพยรักษ์ กล่าวว่า “ที่บ้านมีลูกและหลานที่ทานนม น้ำผลไม้ เมื่อก่อนเวลาเอาไปทิ้งก็จะแยกไว้ เพื่อง่ายต่อการเก็บของเจ้าหน้าที่ เมื่อมาเล่นเฟซบุ๊กเห็นโครงการฯ เด้งขึ้นมา เปิดโลกทัศน์ของตัวเองมากๆ คิดว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ จึงเริ่มกรีด ตาก เก็บ ใส่ถุง และนำกล่องที่รวบรวมได้ส่งไป ถือเป็นกิจกรรมในครอบครัวที่เมื่อบอกต่อคนอื่นๆ ก็จะมีคนตื่นเต้นและอยากทำด้วย”
ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนจึงทำให้วันนี้โครงการฯ ประสบความสำเร็จ มีอาสาเข้าร่วมหลายพันคน และมีตัวเลขการบริจาคกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วเพิ่มขึ้นทุกปี
หลังคา 66,700 แผ่น ส่งต่อสู่ชุมชนทั่วประเทศ
จากกล่องเครื่องดื่มที่รวมรวมมาจากห้างบิ๊กซีทั่วประเทศส่งเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นหลังคาด้วยเทคโนโลยีเครื่องอัดร้อนที่โรงงานรีไซเคิล จนถึงวันนี้สามารถจัดเก็บกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วประมาณ 254 ล้านกล่อง หรือกว่า 2,545 ตัน ซึ่งได้นำมารีไซเคิลเป็นแผ่นหลังคา ส่งมอบไปให้ชุมชนที่ประสบภัยพิบัติและขาดแคลนทั่วประเทศไปแล้วกว่า 66,700 แผ่น ในกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ เช่น พื้นที่ประสบวาตภัยที่ จังหวัดพะเยา หรือที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ปีที่ผ่านมาที่อุบลราชธานี เป็นต้น
แม้ผู้ที่ได้รับบริจาคต่างประหลาดใจว่าแผ่นหลังคาใหม่ทำมาจากกล่องเครื่องดื่ม แต่หลังคาก็มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน 10-15 ปี การรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มจึงช่วยรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม และยังสามารถนำผลิตภัณฑ์จากการรีไซเคิลไปช่วยเหลือชุมชนที่เดือดร้อนได้อย่างแท้จริง
ครบรอบทศวรรษแห่งความสำเร็จ
ปัจจุบันประเทศไทยตื่นตัวในเรื่องการบริหารจัดการขยะในประเทศมากขึ้น เพราะผลกระทบที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน สำหรับโครงการ “หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเรื่องการบริหารจัดการขยะในประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 10 ปี
คุณปฏิญญา ศิลสุภดล ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการฯ ว่า “เต็ดตรา แพ้คทำงานมากว่า 20 ปี ในการรณรงค์เรื่องการจัดเก็บ คัดแยก และรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม เพราะมองว่าในฐานะผู้ผลิต นี่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันในสังคม เราไม่ได้เพียงแค่รณรงค์เรื่องการรีไซเคิลเท่านั้น เต็ดตรา แพ้ค มองลึกลงไปถึงการออกแบบและผลิตกล่องเครื่องดื่มจากวัสดุทดแทนได้ให้มากที่สุด วัสดุหลักที่เป็นกระดาษกล่องได้จากป่าปลูกทดแทนเชิงพาณิชย์ที่จัดการอย่างรับผิดชอบ กล่องต้องสามารถรีไซเคิลได้ และลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายความยั่งยืนของเต็ดตรา แพ้ค ด้วยเช่นกัน
“ปีนี้เป็นการครบรอบ 10 ปี ของโครงการฯ เราได้จัดกิจกรรมโรดโชว์หลังคาเขียว ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้งนี้ เพื่อให้อาสาในพื้นที่ต่างๆ ได้มาเห็นหลังคาจริง มาพูดคุยซักถามกับทีมงาน แลกเปลี่ยนความรู้กันให้เกิดเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น การที่จะทำโครงการหลังคาเขียวนี้ขึ้นมาได้ เป็นความสำเร็จร่วมกันของพันธมิตรและอาสาของโครงการ ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากล่องเครื่องดื่มสามารถรีไซเคิลได้ เป้าหมายของเต็ดตรา แพ้ค ในตอนนั้นคือ ทำให้เกิดการรับรู้ และลงมือทำ ทำแค่สิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ได้ผลมากมายกับสังคมและสิ่งแวดล้อม เรียกว่า 10 ปี ของโครงการนี้เราได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด เราได้รับความร่วมมือด้วยดีจากหลายภาคส่วนทั้งจากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ และถ้าไม่มีอาสาหลังคาเขียวช่วยกันเก็บกล่อง ก็คงไม่มีแรงผลักดันให้โครงการดำเนินมาได้ถึงวันนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของเราทุกคน”
โครงการ “หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก เป็นโครงการที่จะทำให้ทุกคนตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการจัดการขยะที่หากจัดการได้อย่างเป็นระบบก็สามารถนำไปสร้างสิ่งซึ่งเป็นประโยชน์ให้สังคม และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีในระยะยาว จึงถือเป็นการวางรากฐานเรื่องการปลูกจิตสำนึกด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมให้กับทุกภาคส่วนในวงจรการผลิตตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคกล่องเครื่องดื่มใช้แล้ว สามารถนำมามอบไว้ตรงจุดรับกล่องในห้างบิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขา และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการฯ ได้ที่ www.greenroof.in.th หรือ www.facebook.com/thaigreenroof และศูนย์ข้อมูลโครงการฯ เบอร์ 02-747-8881