เชียงรายพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 เป็นกลุ่มเดียวกับหญิงเชียงใหม่ ด้านกรมควบคุมโรค ยันยังไม่ใช่ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ แต่ขอให้เจ้าของที่พักทุกรูปแบบตรวจสอบย้อนหลัง 1 เดือน หากเคยรับคนแปลกหน้า ต่างด้าวลอบเข้าเมือง ให้รีบแจ้งสาธารณสุขในพื้นที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังตามล่าจับได้อีกก๊วน หญิง 3 สาวประเภทสองอีก 1 ลอบข้ามแม่น้ำเมยจากเมียนมาเข้าไทยทาง อ.แม่สอด เที่ยวแหลกก่อนตีตั๋วเข้า กทม.ส่งกักตัว รอผลตรวจเชื้อ แฉจ่ายคนละ 5,500 ให้คนพาข้ามแดน ด้าน ผวจ.ตาก สั่ง 5 อำเภอติดพรมแดนเมียนมา สกัดเข้ม ขนอุปกรณ์สารพัดเฝ้าระวัง ส่วนแม่ทัพภาค 3 วอนคนไทยที่ไปทำงานฝั่งเพื่อนบ้านกลับมาทางด่าน ปลอดภัยกับทุกฝ่าย

ไทยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มเป็นตัวเลขสองหลักต่อเนื่องอีกวัน แต่ยังเป็นการพบในผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาอย่างถูกต้อง และลักลอบข้ามแดนจากฝั่งเมียนมา กลับเข้าประเทศโดยไม่ผ่านด่านและไม่กักตัว

พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21 คน

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 21 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักตัวของรัฐ 19 คน มาจากอินเดีย อิตาลี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก โอมาน เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 คน เยอรมนี รัสเซีย ประเทศละ 2 คน สวิตเซอร์แลนด์ 3 คน ญี่ปุ่น 4 คนและไม่เข้าสถานที่กักกัน 2 คน เป็นหญิงไทยที่ จ.เชียงราย มาจากประเทศเมียนมา ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,998 คน เสียชีวิตคงเดิม 60 คน

...

เชียงรายติดเชื้อ 2 คน

จากนั้น ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข่าวกรณีพบ 2 หญิงไทยรายล่าสุด ติดโควิด-19 อายุ 26 ปี และอายุ 23 ปี ที่ จ.เชียงราย โดย นพ.โสภณกล่าวว่า กรณีหญิงไทย อายุ 26 ปี จ.เชียงราย ทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ ไอ ในวันที่ 25 พ.ย.และทราบข่าวเพื่อนร่วมงานตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงเดินทางกลับประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในวันที่ 27 พ.ย.พร้อมเพื่อนชาวไทย 1 คน ถึง อ.แม่สาย เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง 1 คืน โดยแยกพักกับเพื่อน และสวมหน้ากากตลอดเวลา จากนั้นวันที่ 28 พ.ย. เดินทางต่อเข้า อ.เมือง และเข้าตรวจเชื้อที่ รพ.เอกชน ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 29 พ.ย. ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ถือว่าเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากต่างประเทศแต่ตรวจพบในประเทศไทย จากการสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสทั้งหมด 27 คน แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 23 คน โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ได้แก่ หญิงไทยอายุ 23 ปีที่เดินทางมาด้วยกัน ซึ่งต่อมาตรวจพบเชื้อโควิด-19 พนักงานโรงแรมที่ขี่จักรยานยนต์พาผู้ป่วยไปร้านสะดวกซื้อ อยู่ในระหว่างการรอผลตรวจ จักรยานยนต์รับจ้าง 2 คน รอตรวจ 1 คนและตรวจไม่พบเชื้อ 1 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 23 คน แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 20 คน แม่ค้าร้านอาหารที่แวะระหว่างทาง พนักงานร้านสะดวกซื้อ และพนักงานโรงแรม รวม 3 คน

ยังไม่ใช่ “ซุปเปอร์สเปรดเดอร์”

“จากการประเมินอาการของหญิงอายุ 26 ปี และอายุ 23 ปี ใน จ.เชียงราย เข้าถึงไทยวันที่ 27 พ.ย. มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 คน โดยทั้ง 2 คนเข้าพักในโรงแรม ไม่ได้ออกไปที่ไหนมากนัก โดยหญิงอายุ 26 ปี เข้ารับการรักษาตัวใน รพ. ในวันที่ 28 พ.ย. ขณะที่หญิงอายุ 23 ปี อยู่ในโรงแรม มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งรถมารับตัว ทำให้โอกาสในการแพร่เชื้อค่อนข้างต่ำ แต่เพื่อความไม่ประมาทผู้สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งหมดต้องเข้ารับการกักตัว และยังไม่เข้าข่ายการเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์” นพ.โสภณกล่าว

ให้ตรวจย้อนหลัง 1 เดือน

ด้าน นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา รุนแรงพอสมควร โดยเฉพาะท่าขี้เหล็ก ทำให้คนไทยที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าวต้องการกลับประเทศ ซึ่งขอให้กลับทางปกติและเข้ารับการกักตัว 14 วัน ห้ามลักลอบเข้าประเทศเด็ดขาด หากพบติดเชื้อเราจะดูแลรักษาให้ จะเป็นผลดีต่อตัวผู้ป่วย ครอบครัว ชุมชน และประเทศ หากลักลอบเข้าประเทศจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ดังนั้น ในส่วนของเจ้าของสถานที่ ทั้งเจ้าของบ้าน เจ้าของคอนโด โรงงาน โรงแรม สถานบันเทิง หากพบคนไทยหรือคนต่างด้าวที่มาจากพื้นที่เสี่ยง กักตัวไม่ครบ 14 วัน ภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ประชาชนทั่วไปขอให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างในชุมชน

คนเชียงใหม่ใส่หน้ากากมากขึ้น

ขณะที่ นพ.โอภาสกล่าวว่า ขอชื่นชมคนในจังหวัด เชียงใหม่ที่ไม่ตื่นตระหนก และคณะกรรมการโรค ติดต่อเชียงใหม่และเชียงราย เข้าควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งทำความเข้าใจกับประชาชน อย่างไร ก็ตาม กรณีมีข่าวโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งปิดเรียนนั้น เป็นการทำเกินจริง ซึ่งทราบว่าผู้ว่าฯเชียงใหม่ ได้เข้าไป ทำความเข้าใจแล้ว นอกจากนี้ จากการสำรวจล่าสุด พบว่าชาวเชียงใหม่มีการสวมหน้ากากอนามัยเพิ่มมากขึ้น เช่น ตลาดสดสันกำแพง ใส่หน้ากากอนามัย 95 เปอร์เซ็นต์ เซ็นทรัลแอร์พอต และบิ๊กซี ดอนจั่น ใส่ 90 เปอร์เซ็นต์ วัดสันก้างปลา อ.สันกำแพง ใส่ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่วัดพระสิงห์ สวม 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง

รวบ 2 สาวไทยอีกก๊วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่กรณีสาวเชียงใหม่-เชียงราย เพิ่งจะกระจ่าง ก็มีเหตุให้คนเชียงรายผวาซ้ำเมื่อตลอดค่ำวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา มีคนในโลกออนไลน์ชี้เบาะแสกลุ่มสาวไทยลอบข้ามแม่น้ำจากฝั่งเมียนมา เข้ามาไทย เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2563 โดยไม่ผ่านด่านและไม่มีการกักตัว 14 วัน หนำซ้ำยังออกท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ใน อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงรายและกำลังเดินทางต่อไปยัง กทม.จากนั้น พ.ต.ท.ศรุต ระยานนท์ รอง ผกก.ตม.เชียงราย พร้อม พ.ต.ท.กฤษณ์ สมณาศักดิ์ สว.ตม.เชียงราย นำกำลังประสานฝ่ายปกครองแม่สาย ด่านควบคุมโรคติดต่อด่านพรมแดนแม่สาย และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ออกติดตามหากลุ่มสาวไทยดังกล่าวจนกระทั่งพบตัว น.ส.นงนุช ศรีหาวงค์ อายุ 28 ปี และ น.ส.นิราวรรณ์ จันดาลุย อายุ 29 ปี ขณะเดินทางโดยรถทัวร์ จาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย จะไปกรุงเทพฯ และตั้งใจจะไปทำงานพัทยา

...

ตามจับเพื่อนได้อีก 2 คน

จากการสอบสวนเบื้องต้นหญิงสาวทั้ง 2 ให้การว่ายังมีเพื่อนพักอยู่ที่โรงแรมท็อปนอร์ท อ.แม่สาย อีก 2 คน เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปที่โรงแรมดังกล่าว พบกับ น.ส.กนกพร แสนสันเทียะ อายุ 31 ปี นายภัทรภรณ์ อายุวัฒน์ อายุ 28 ปี สาวประเภทสองอยู่ในห้องพัก จึงนำตัวไปสอบสวนโรค ผลการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของทั้งสองคนปกติ ไม่มีไข้แต่อย่างใด

จ่ายหัวละ 5,500 บาท ข้ามแดนฉลุย

จากการสอบปากคำทั้ง 4 คน ให้การว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ลักลอบเดินข้ามพรมแดน (แม่น้ำเมย) มีชายชาวเมียนมา มารับและเป็นคนนำทางไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะโป๊ะโกะ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ประกอบกับกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด-19 จึงได้ขอเลิกงาน และแอบลักลอบข้ามแม่น้ำเมย โดยได้เสียเงินค่าจ้างชาวเมียนมาให้พาข้ามแดน คนละ 5,500 บาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.63 จากนั้นได้ไปกินอาหารใน อ.แม่สอด วันที่ 25 พ.ย.ไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ไปกินอาหารร้านญี่ปุ่นที่สี่แยกโรบินสันแม่สอด ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.63 ได้เดินทางไป จ.เชียงราย เที่ยวไร่ชา สวนดอกไม้ดอยตุง และเข้าพักที่โรงแรมใน อ.แม่สาย ตั้งใจจะข้ามไปทำงานฝั่งท่าขี้เหล็ก แต่สถานบันเทิงปิดหมด ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. น.ส.นงนุช และ น.ส.นิราวรรณ์ วางแผนจะเดินทางไปหางานทำที่พัทยา โดยขึ้นรถทัวร์จากแม่สายและถูกจับที่ด่านกิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย

...

ส่งกักตัวรอผลตรวจเชื้อ

ส่วน น.ส.กนกพร และนายภัทรภรณ์ วางแผนว่าจะอยู่เที่ยวที่แม่สาย และจะเดินทางไปเที่ยวต่อที่ จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ไม่เดินทางเข้ามาตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมืองเขตท่าสถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา” (มาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ) ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพและยินยอมให้เปรียบเทียบปรับตามที่กฎหมายกำหนด จากนั้นคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายได้นำส่งตัวทั้ง 4 คน ไปกักตัวที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินการกักตัว และรอผลการตรวจเชื้อโควิด-19

ผวาโควิดหนีข้ามแดนแม่สาย

ต่อมาช่วงสายวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 สั่งการ ให้ ร.อ.พิสิฐ อภิเดช ผบ.ร้อย ม.3 ฉก.ม.3 ร่วมกับ ตม.เชียงราย ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย ออกลาดตระเวนเลียบชายแดน อ.แม่สาย ตลอดทั้งคืน และสามารถจับชายหญิงคนไทยได้รวมจำนวน 8 คน ที่บริเวณบ้านสันทราย หมู่ 9 ต.แม่สายมิตรภาพ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยทั้ง 8 คน มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอุดรธานี 2 คน จ.ขอนแก่น, ภูเก็ต, เชียงราย, นนทบุรี, กทม. และสมุทรปราการ จังหวัดละ 1 คน จากการสอบสวนทั้งหมดให้การว่า ได้ไปทำงานในบ่อนกาสิโนและสถานบันเทิงฝั่งท่าขี้เหล็ก เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้นทุกวัน เกิดความหวาดกลัว จึงลักลอบข้ามแดนกลับประเทศ โดยมีกลุ่มผู้รับจ้างช่วยเหลือการข้ามแม่น้ำสายคนละ 6,500 บาท เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับ และส่งไปตรวจคัดกรองกักตัวที่สถานกักตัวของรัฐ ใน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

โควิดระบาดหนักท่าขี้เหล็ก

ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 30 พ.ย. พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 11 คน รวมสะสม 32 คน ทำให้คนไทยที่ไปทำงานอยู่ในบ่อนและสถานบันเทิง ผวาพากันหลบหนีข้ามแดนอย่างต่อเนื่อง

...

ตากคุมเข้ม 5 อำเภอชายแดน

ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง จากที่ตำรวจ ตม.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควบคุมตัวและสอบสวน 4 คนไทย เป็นหญิง 3 คน ชาย 1 คน ที่ลักลอบข้ามลำน้ำเมย เข้ามาฝั่งไทย โดยทั้ง 4 ระบุว่าข้ามลำน้ำเมยบริเวณบ้านวังผา ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก จุดเดียวกันกับสาวไทยวัย 17 ปี ที่ติดโควิด-19 ก่อนหน้าแอบลักลอบเข้ามา โดยทั้ง 4 คน หลังเข้าไทยมาแล้วยังไปเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าในแม่สอด แวะกินอาหาร ก่อนถูกจับกุมตัวดังกล่าว ทำให้นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สั่งการให้นายเฉลา กล่อมเกลี้ยง สาธารณสุขอำเภอแม่สอด นำเจ้าหน้าที่ไปที่จุดที่ทั้ง 4 คนไปท่องเที่ยวและรับประทานอาหาร รวมทั้งสถานที่พัก เพื่อดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขต่อไป รวมถึงสั่งการนายอำเภอตามแนวชายแดนทั้ง 5 อำเภอ คือ อุ้มผาง พบพระ แม่สอด แม่ระมาด และท่าสองยาง บูรณาการกำลังทั้งจากทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ทหารกองกำลังนเรศวร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ตำรวจ ตชด.ตำรวจภูธร สาธารณสุขทุกพื้นที่ รวมทั้ง อสม. ผู้นำชุมชน อปท.ให้เฝ้าระวังเพิ่มความถี่ในการตรวจตราพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง จัดสิ่งกีดขวาง อาทิ ลวดหนามหีบเพลง ติดไฟส่องสว่างทุกจุด ติดกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด และใช้โดรนบินเลียบแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของชาวจีน ชาวไทยที่ไปทำงานฝั่งเมียนมาและแรงงานต่างด้าวที่จ่อจะทะลักเข้ามาได้ตลอดเวลา

รร.ดังเชียงใหม่ปิดพ่นยาฆ่าเชื้อ

สำหรับที่เชียงใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อรายที่ 42 ของจังหวัด ที่ลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ผ่านการกักตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงเรียนพระหฤทัยเชียงใหม่ และโรงเรียนวชิรวิทย์เชียงใหม่ ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามห้องเรียน อุปกรณ์ต่างๆ ป้องกันการแพร่ระบาดภายในโรงเรียน และจะเปิดเรียนในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จากการเปิดเผยของนายวรทัศน์ บุญโคตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรวิทย์ฯ ว่าที่ต้องปิดเรียนเนื่องจากสาวเชียงใหม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงถึง 326 คน ไม่ทราบว่าผู้ปกครองหรือเด็กนักเรียนมีความเสี่ยงได้สัมผัสกับบุคคลเหล่านี้หรือไม่ ประกอบกับที่ตั้งโรงเรียนอยู่ใกล้เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ จึงประกาศปิดการเรียนชั่วคราว เพื่อทำความสะอาด ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางขอความร่วมมือผู้ปกครองและเด็ก ที่อาจอยู่ในสถานที่และเวลาตามไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ให้เฝ้าสังเกตอาการหรือหยุดพักอยู่บ้านตามมาตรการทางสาธารณสุข

ตั้งจุดตรวจกลุ่มเสี่ยงที่ห้างดัง

ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ ช่วงสาย รถโมบายพระราชทานตรวจหาเชื้อโควิด-19 และคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาตั้งจุดตรวจเพื่อเก็บสารคัดหลั่งพนักงานกลุ่มพนักงานเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่และพนักงานร้านค้าภายในห้าง รวมกว่า 300 คน เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกลุ่มพนักงานที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อในครั้งนี้ เป็นกลุ่มความเสี่ยงต่ำ ส่วนกลุ่มพนักงานห้างและพนักงานร้านค้าที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ผลตรวจเชื้อออกมายังไม่มีผู้ใดติดเชื้อโควิด-19 เลย ทั้งนี้ นายศิระ สันติตรานนท์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัลเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พนักงานที่ตรวจในวันนี้ส่วนหนึ่งเป็นพนักงานที่อยู่ในจุดที่ผู้ป่วยเข้าไปใช้บริการ อีกส่วนหนึ่งเป็นพนักงานทั่วไปที่มาทำงานในห้างในวันดังกล่าว ซึ่งการตรวจก็เพื่อให้ทุกคนได้มั่นใจในความปลอดภัยทั้งพนักงานและลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ โดยห้าง มีดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขอย่างเข้มข้น ทั้งการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ลงทะเบียนไทยชนะ พรมเช็ดเท้าฆ่าเชื้อ โดยกรณีที่พบผู้ป่วยหญิงรายดังกล่าว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผ่านมาตรการขั้นตอนทั้งหมดครบถ้วน รวมทั้งมีการสวมหน้ากากอนามัย ส่วนร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ ปิดบริการชั่วคราวเพื่อฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและฉายแสงยูวีด้วย

มทภ.3 วอนคนไทยกลับทางด่าน

วันเดียวกัน พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่าตอนนี้แนวชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ที่น่าเป็นห่วงคือพื้นที่ชายแดนแนวติดกับชายแดนเมียนมา เช่น จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย โดยจุดหลักๆ คือ แม่สอดและแม่สาย ที่มีคนไทยไปทำงานในเมียนมาอยู่มาก ช่วงนี้เกิดการระบาดมากขึ้นในเมียนมาคิดว่าคงเกิดความกลัวติดเชื้อจึงลักลอบเข้ามา จึงอยากฝากไว้ในฐานะที่เป็นคนไทย สามารถเดินทางกลับเข้ามาในช่องทางจุดผ่านแดนถาวรได้อย่างถูกต้อง เพียงแต่ขอให้เข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลได้จัดเตรียมไว้ในแต่ละพื้นที่ ไม่ต้องลักลอบเข้าเมืองในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง จะน่าเป็นห่วงกว่า ทำให้ไม่สามารถ ควบคุมโรคได้ หากติดเชื้อเข้ามา

เขาพนมผวาลือพม่าติดโควิด

ที่ จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ กรณีเกิดข่าวลือสะพัดทั้งวันที่ 30 พ.ย. ว่ามีชายพม่า วัย 22 ปี ในพื้นที่ ต.พรุเตียว อ.เขาพนม ตรวจจากคลินิกเอกชนพบป่วยโควิด-19 และถูกส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.เขาพนม จนเกิดความตื่นตระหนกไปทั่วว่า ผลตรวจเบื้องต้นจาก รพ.เขาพนมออกมาแล้วว่าเป็นลบ ต่างจากการตรวจครั้งแรกของคลินิกเอกชนที่ผลเป็นบวก ซึ่งอาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนของอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจ ตนไม่อยากให้ประชาชนในพื้นที่ต้องตื่นกลัว แต่ทุกคนต้องตระหนักในเรื่องการป้องกันตัวเองไว้ตลอดเวลา

นายกฯมั่นใจยังคุมโรคได้

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงกลาโหม ถึงกรณีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศทุกวัน แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก ยังสามารถควบคุมได้ แต่ที่สำคัญคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรืออยู่ใกล้กลุ่มเสี่ยงและลักลอบเข้ามาในประเทศ อยากฝากสังคมและชุมชนช่วยกันดูแล เพราะรู้อยู่แล้วว่าใครไปไหนมาไหน หากพบขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องโควิด-19 ในต่างจังหวัดลดลง เพราะต้องนำกำลังมาดูแลพื้นที่การชุมนุมใน กทม. ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานต่างจังหวัดต้องทำงานหนัก และเจ้าหน้าที่ที่มาทำงานใน กทม.ก็ต้องอดทน

สหรัฐฯ 1 เดือนติดเชื้อ 4 ล้านคน

สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศ ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเป็น 63.6 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 1.46 ล้านคน โดยที่สหรัฐอเมริกา พบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 143,333 คน ยอดติดเชื้อรวมกลายเป็น 13.7 ล้านคน ในจำนวนนี้ 4 ล้านคนติดเชื้อในเดือน พ.ย. ส่วนยอดเสียชีวิตรวมเพิ่มเป็นกว่า 273,000 คน ขณะที่นายแอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านโรคติดต่อทำเนียบขาวสหรัฐฯ ประกาศเตือนว่าสถานการณ์แพร่ระบาดที่รุนแรงอยู่แล้วในสหรัฐฯจะรุนแรงยิ่งขึ้นอีกหลังเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ที่ประชาชนจะนัดพบปะกับสมาชิกครอบครัว ด้านกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อในวันเดียว 2,684 คน ยอดติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 146,214 คน แต่ยอดผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยรุนแรงได้พุ่งสูงทำสถิติ 462 คน ส่วนเทศบาลกรุงโตเกียว ประกาศว่าจะจ่ายเงิน 400,000 เยน หรือราว 116,250 บาท ให้แก่ร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ให้ความร่วมมือกับเทศบาล ปิดให้บริการภายในเวลา 22.00 น.