สถานการณ์การชุมนุมที่ดูแล้วท่าทางจะยืดเยื้อไม่จบลงง่ายๆ ยังไม่มีท่าทีของการ จับเข่าคุยนั่งเจรจากัน ของทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ละฝ่ายออกมาเรียกร้องความชอบธรรม เป็นม็อบ 2 ขั้วชัดเจนเป็นงานยากของตำรวจที่ต้องติดตามไปดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดความรุนแรง

ยิ่งชุมนุมในยุคปัจจุบัน เป็นชุมนุม 4G นัดรวมตัวง่าย เคลื่อนที่เร็ว “ชุมนุมดาวกระจาย” ตำรวจตามไปดูแลทุกที่ไม่ทัน บางวันนัดรวมตัวเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ 10 กว่าจุด ยังไม่นับรวมนัดชุมนุมในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ระดมกำลังตำรวจทั้งประเทศ มาดูแลชุมนุมที่เคลื่อนย้ายจุดเร็วมาก ซึ่งตำรวจตามไม่ทันอยู่ดี กองร้อยควบคุมฝูงชนที่ดูแลชุมนุมส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด แม้จะมีการเปลี่ยนผลัดกำลัง แต่มาใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอนเป็นเดือนกว่าแล้ว และเกิดมวลชนเสื้อเหลืองอีกกลุ่มนัดชุมนุมในหลายจังหวัด

เป็นสิ่งที่ต้องเอามาคิดให้หนัก

ผู้บังคับบัญชาย่อมรู้ดีว่า ชีวิตตำรวจที่อยู่กับม็อบไม่ได้สบายกาย แต่หนักใจ กินนอนตามวัด ตามสถานที่ราชการ เบี้ยเลี้ยงที่ให้มาไม่มีทางใช้พอ สถานการณ์ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ขยับตัวออกไปซื้อของได้ไม่กี่ชิ้นหมดแล้วเบี้ยเลี้ยงที่ให้มา จะให้กินข้าวกล่องทุกวัน ตำรวจต่างจังหวัดคงไม่ไหว

กองร้อยควบคุมฝูงชนที่ถูกระดมเข้ามาเริ่มเหนื่อยล้า กำลังใจถดถอย ถ้าได้ ดู “คลิป” ของตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนต่างจังหวัดที่โทรศัพท์พูดคุยกับลูกสาว ที่บอกว่า “นายสั่งให้อยู่ต่ออีก” หลังครบกำหนดกลับแล้ว ลูกสาวถึงกับร้องไห้ ตำรวจที่คุยอยู่กับลูกยังน้ำตาไหล เป็นเรื่องจริงของชีวิตตำรวจต่างจังหวัด

...

ไม่ใช้ดราม่า ทั้งเหนื่อย ทั้งกดดัน

สถานการณ์ชุมนุมแนวโน้มยืดเยื้ออีกนาน ตำรวจทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้รุนแรง น่าจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ดูแลการชุมนุม ตำรวจต่างจังหวัดที่อยู่ห่างครอบครัว ต้องกดดันกับความกลัวที่จะตกเป็น “จำเลยสังคม” เหมือนในอดีต มาแล้วทำอะไรไม่ได้ ม็อบ 2 กลุ่มพร้อมรวมพลออกมาขัดขวางม็อบอีกกลุ่ม

ตำรวจทำได้แค่ระวังไม่ให้ “ม็อบชนม็อบ” ซึ่งไม่รู้เลยว่าจะประคองสถานการณ์นานแค่ไหน

น่าเห็นใจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่เข้ามาอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งหนักม็อบ 2 ฝ่าย ไม่รู้เมื่อไรจะชนกัน แถมยังเจอปัญหาแทรกซ้อนอีกหลายเรื่อง ผบ.ตร.ย่อมรู้ดีว่า ตำรวจคุมชุมนุมกินอยู่ลำบาก “เหนื่อยใจและกาย” กำลังพลเริ่มล้า อาหาร งบประมาณ ชุมนุมยิ่งยาวยิ่งเหนื่อย ยิ่งใช้งบประมาณอีกมาก

ถ้าจะปรับใช้ชุดสายตรวจ ชุดเคลื่อนที่เร็วแทนที่ชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนที่เป็นตำรวจมาจากต่างจังหวัดมาประคองสถานการณ์ หากชุมนุมไม่ได้ทำความเสียหายเหมือนอดีต ชุมนุมอยู่อีกนาน ไม่น่าจะเลิกง่ายๆ

สงสารตำรวจที่มาคุมชุมนุม.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th