คนแห่ลอยกระทงประจำปี 2563 อย่างคึกคักทั่วประเทศ โดยใน กทม.เปิด 8 จุด จัดงานใหญ่ รวมถึงสวนสาธารณะทั่วกรุงให้คนร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม.เดินสายเปิดงาน 2 จุดหลัก “สะพานพระราม8-คลองโอ่งอ่าง” ด้านไอคอนสยามจัดเต็มให้ดาราสาว “เบลล่า ราณี” แปลงโฉมเป็นนางนพมาศ สวมชุดไทยและเครื่องประดับทองคำสุดประณีต

เป็นประจำเมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ต.ค.ทั่วประเทศมีการจัดงานประเพณีลอยกระทง ที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างกันตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น อาทิ เพื่อสักการะและขอขมาพระแม่คงคา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำให้มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ต่างๆ ขณะที่บางแห่งก็เพื่อบูชาเทพเจ้า ส่วนบางท้องที่ ทำเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ หรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ลอยทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ

ขณะที่ในกรุงเทพมหานคร มีการจัดงานลอยกระทง ควบคู่ไปกับวันฮาโลวีน มีสถานที่จัดงานใหญ่ 8 แห่งหลัก เช่น ใต้สะพานพระราม 8 เอเชียทีค ไอคอนสยาม สวนลุมพินี วัดยานนาวา ฯลฯ รวมถึงเปิดสวนสาธารณะทั้ง 30 แห่ง เช่น สวนลุมพินี สวนจตุจักร สวนสราญรมย์ สวนนวมินทร์ภิรมย์ให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทง ตั้งแต่เช้ายันดึก

ทั้งนี้ ในเวลา 17.30 น. ที่คลองโอ่งอ่าง บริเวณสะพานหัน เขตสัมพันธวงศ์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานเปิดงานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร “ลอยกระทงวิถีใหม่ สไตล์ NEW Normal” ที่มีการประดับประดาไฟ และวาดภาพเขียนริมกำแพง เปลี่ยนถนนคลองโอ่งอ่างเป็นถนน Street Art นอกจากนี้ ยังมีการออกร้านและเปิดหมวกของนักร้องอาชีพและมือสมัครเล่น โดยมีประชาชนทยอยเข้ามาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานเทศกาลลอยกระทง บริเวณสวนสาธารณะ ใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด ซึ่งบรรยากาศก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนเช่นกัน แม้ก่อนหน้านี้ในช่วงเย็นมีฝนตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมาร่วมลอยกระทงแต่อย่างใด และส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือนำกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย เช่น ใบตอง ขนมปัง มาลอยด้วย

...

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งไฮไลต์ของค่ำคืนวันลอยกระทงใน กทม.คือที่ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับไอคอนสยาม จัดงานเทศกาลลอยกระทงยิ่งใหญ่ ประจำปี 2563 ในชื่อ “ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY” งานลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง ท่ามกลางแสงสี เสียงและทัศนียภาพบนโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทั่วทั้งงานเนืองแน่นไปด้วยประชาชนเดินทางมาร่วมสืบสานประเพณีไทยอันทรงคุณค่า และอีกจุดน่าสนใจคือนางเอกสาวซุปเปอร์สตาร์ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” แปลงโฉมเป็นนางนพมาศสุดงดงาม สวมใส่ชุด “วิลาสลักษณ์” ชุดไทยศิวาลัย ตัดเย็บจากผ้าไหมสีครีม ยกดิ้นทอง ลายพุ่มข้าวบิณฑ์

ปักคริสตัลสีทอง สีเงิน และเพชร ปักยกดอกนูนลายพุ่มข้าวบิณฑ์และเครื่องประดับทอง ที่ผสานลวดลายศิลปะสมัยสุโขทัยและความร่วมสมัย รังสรรค์ด้วยเทคนิคโบราณโดยช่างฝีมือชั้นสูง รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท นำขบวนนางนพมาศถ่ายทอดประวัติ-ศาสตร์เทศกาลลอยกระทง อันรุ่งโรจน์จากอดีตสู่อนาคต พร้อมการแสดงระบำสายน้ำเต็มรูปแบบ ทั้งแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ตลอดความยาวของน้ำพุกว่า 400 เมตร ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ นอกจากนี้ ภายใน
พื้นที่ ยังมีนิทรรศการกระทงโคมชักนานาชาติ 16 ประเทศ ศิลปกรรมการฉลุกระดาษ บนวัสดุรีไซเคิล โดยศิลปินชาวไทย บัว-วรรณประภา ตุงคะสมิต ที่เปิดให้เข้าชมถึงวันที่ 1 พ.ย.63 ณ ธารา ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยามด้วย

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า ผบ.ตร.ได้มอบ 8 นโยบาย ให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลลอยกระทงและวันฮาโลวีน คือระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกพื้นที่ในห้วงวันที่ 25-30 ต.ค. กำชับตำรวจตรวจตราพื้นที่การจัดงานอย่างเข้มงวด ควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ตั้งศูนย์อำนวยการในพื้นที่ บก. หรือ สน.ที่มีพื้นที่จัดงาน ประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจตราไม่ให้มีการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต ป้องกันการก่ออาชญากรรมจากมิจฉาชีพ ตรวจตราสถานบันเทิงไม่ให้มีเยาวชนเข้าไปเที่ยว และเข้มงวดจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่ามีประชาชนออกมาเที่ยวกันในค่ำคืนลอยกระทง ประมาณ 50,000-70,000 คน

ส่วนที่ จ.สุโขทัย ในช่วงเช้านายพิเชฐ ไทยกล้า นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี พร้อมคณะผู้บริหาร และประชาชนชาวสุโขทัย ร่วมพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทานของพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรม-วงศานุวงศ์ รวม 12 พระองค์ เพื่อลอยเป็นปฐมฤกษ์ ณ สระน้ำตระพังตาล ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ในงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ ประจำปี 2563 ในค่ำคืนเดียวกันนี้ด้วย โดยขบวนอัญเชิญพระประทีปและกระทงพระราชทาน ตกแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงามตามสีประจำพระองค์ ได้เคลื่อนขบวนออกจากหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถนนจรดวิถีถ่อง ผ่านตลาด ข้ามสะพานพระร่วง ถึงบริเวณด้านหน้าสถานีบริการน้ำมัน (เชลล์) และเข้าสู่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มารอ 2 ฝั่งของถนนจรดวิถีถ่อง เพื่อชื่นชมความสวยงามและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานไฟพระฤกษ์ และพระประทีป มาให้ชาวจังหวัดสุโขทัย

กระทั่งเวลาเย็นถึงค่ำ บรรยากาศงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย เป็นไปอย่างคึกคักมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หลั่งไหลเข้าสู่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เพื่อสัมผัสและชมบรรยากาศแบบย้อนยุคอย่างเนืองแน่น ส่วนใหญ่จะเข้าสักการะขอพรจากพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก่อนที่จะนำกระทงมาลอยในสระน้ำหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์แล้วรีบไปจับจองที่นั่งบริเวณริมสระตระพังตาล เพื่อเฝ้ารอชมการลอยพระประทีปพระราชทานในเวลา 23.30 น. นอกจากนี้ ที่บริเวณวัดมหาธาตุ มีการแสดงแสงเสียง เรื่อง “ความรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย” ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาชมล้นหลาม จนต้องเพิ่มการแสดงอีก 1 รอบ

...

เช่นเดียวกับที่ จ.เชียงใหม่ เวลา 18.30 น.ที่บริเวณลานข่วงประตูท่าแพ และบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ มีการจัดงาน “ต๋ามประทีปไหว้สา สืบศรัทธายี่เป็ง” ร่วมสืบสานประเพณียี่เป็งล้านนา มีการนำกระทงยักษ์ตกแต่งอย่างสวยงาม มาวางไว้ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์เป็นจุดใหญ่ที่จัดประเพณีทางวัฒนธรรมมีการจุดประทีปและฟ้อนเล็บและตกแต่งโคมล้านนา สำหรับรอบตัวเมืองเชียงใหม่มีการนำผางประทีป โดยนักเรียนโรงเรียนต่างๆพร้อมชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวมาร่วมกันจุดในระยะทางรอบเมือง 6 กม. และที่บริเวณแม่น้ำปิง มีผู้ไปลอยกระทงกันตามจุดต่างๆ ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้จัดทำท่าน้ำให้ลอย

ขณะที่ จ.ร้อยเอ็ด ตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นมา ที่ลานสาเกต สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และบึงพลาญชัย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด มีขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน สำหรับงานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป ครั้งที่ 22 ประจำปี 2563” โดยมี การรำวงที่ใช้คนรำถึง 5 พันคนร่วมขบวน เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้มาร่วมงานอย่างมาก

ส่วนที่วังช้างอยุธยาแลเพนียด วังช้างอยุธยา มีการจัดทำกระทงยักษ์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ประดับด้วยใบตองและผลไม้นานาชนิด ได้แก่ แตงโม สับปะรด ข้าวโพด และกล้วย วางเอาไว้หน้าทางเข้าลานแสดงช้าง เพื่อให้ประชาชนได้ถ่ายภาพกับช้างพลายศรีไอยรา และแชร์ในสื่อโซเชียล เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันลอยกระทงซึ่งมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาถ่ายภาพกันตลอดทั้งวัน จากนั้นทางวังช้างได้ให้ช้างได้ร่วมลอยกระทงด้วย ณ บริเวณบึงข้างวังช้างอยุธยา