สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) สำรวจผลไม้ 4 ชนิดของภาคใต้ในปีนี้ มีผลผลิตรวม 727,824 ตัน ลดลงจากปีที่แล้ว 9.18% โดยผลผลิตกระจายออกสู่ตลาดหลายรุ่น แต่มากในช่วง ก.ย.-ต.ค.

ทุเรียน...ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และทยอยออกสู่ตลาดหลายรุ่น โดยจะออกสู่ตลาดมากใน ก.ย. จากปกติจะออก ส.ค. เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน พื้นที่ปลูกบางแห่งเสียหายจากพายุ ประกอบกับเกษตรกรวางแผนตลาดนำการผลิตกันมากขึ้น เพื่อให้ผลผลิตออกในช่วงเทศกาลวันสำคัญของจีนที่มีวันหยุดยาว ช่วง ก.ย.-ต.ค. เช่น วันไหว้พระจันทร์ และวันชาติของจีน เพื่อให้ขายได้ราคาดี

มังคุด...ปริมาณน้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะร้อนแล้งทำให้ติดดอกลดลง เกษตรกรลดพื้นที่ปลูกหันมาปลูกทุเรียนเพิ่ม ออกสู่ตลาดไปแล้ว 30% ขณะนี้ผลผลิตรุ่นที่ 2 ตอนนี้กำลังออกสู่ตลาด แม้คุณภาพจะดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากผลสมบูรณ์ สะสมอาหารเต็มที่ การบำรุงรักษาดี ทำให้ผลผลิต 70% ขนาดใหญ่ ผิวสวย ส่วนผิวลาย ผลดำ

แต่ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ผ่านมา กลับมีฝนตกติดต่อกัน ทำให้มังคุดเป็นเนื้อแก้ว ยางไหล มีหนอนผีเสื้อเจาะผล ทำให้ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด มังคุดผิวมันใหญ่ (เบอร์ 1-3) ราคาส่งออก กก.ละ 80-100 บาท ส่วนมังคุดผิวลาย (ลายมังกร) กก.ละ 50-55 บาท ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี

...

เงาะโรงเรียน...ผลผลิตน้อยกว่าปีที่แล้ว จากสภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนเพิ่ม เก็บเกี่ยวไปแล้ว 60% ผลผลิตรุ่นที่ 2 ออกสู่ตลาดกลาง ส.ค. มีคุณภาพดีกว่ารุ่นแรก ผิวสวย ผลใหญ่ เจอปัญหาฝนเหมือนมังคุด ทำให้ผลร่วงจากต้น เกรดส่งออก กก.ละ 37 บาท ตลาดสำคัญคือ มาเลเซีย สิงคโปร์ จีนและฮ่องกง

ลองกอง...ขณะนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย เพราะส่วนใหญ่เกษตรกรลดพื้นที่ปลูก มาปลูกทุเรียนที่ได้ราคาดีกว่า คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากประมาณปลายเดือนกันยายน-ตุลาคม 2563.