ใครเคยไปสวนสัตว์ คงได้ยลโฉม นกตัวสูง หัวฟู แก้มแดง หน้าตาแปลก แต่ไม่เคยพบเห็นในธรรมชาติของบ้านเรา เพราะมาจากพื้นที่ชุ่มน้ำในทวีปแอฟริกา อาศัยตามทุ่งหญ้าในป่าสะวันนา นั่นคือ...นกกระเรียนหงอนพู่เทา
เป็นนกที่สวนสัตว์ต่างๆ ในประเทศไทย นำมาเลี้ยงพร้อมจัดแสดงนักท่องเที่ยวมานานนับ 10 ปีแล้ว แถมเพาะพันธุ์ได้ในกรงเลี้ยงอีกด้วย
ความโดดเด่น อยู่ตรงที่บนหัวมีหงอนพู่เป็นเส้นตรงสีขาวเหลืองนวล โคนหงอนอยู่ตรงท้ายทอยเป็นกระจุก ปลายบานออกเป็นทรงกลม หน้าผากถึงโคนจมูกมีขนละเอียดสีดำสนิทเป็นก้อนเหมือนกำมะหยี่ แก้มทั้งสองข้างเป็นหนังสีขาวแต้มแดงอยู่ตอนบน
น.สพ.เกษตร สุเตชะ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า นกชนิดนี้ จัดเป็นหนึ่งในนกหายากใกล้สูญพันธุ์ของโลก เพราะประเทศต้นกำเนิดของนกพันธุ์นี้ มีการทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อทำการเกษตร การแย่งชิงแหล่งน้ำเพื่อการเลี้ยงปศุสัตว์ และจับมาขายเป็นสัตว์เลี้ยงให้สวนสัตว์ทั่วโลก
อีกทั้งนกกระเรียนหงอนพู่มีอัตราการแพร่พันธุ์อย่างเชื่องช้า กว่าจะผสมพันธุ์ และวางไข่เพียงครั้งละ 1-2 ฟอง โดยลูกนกมักรอดชีวิตเพียงตัวเดียว
และเมื่อฟักออกเป็นตัวแล้ว แม่นกจะต้องเลี้ยงลูกไปอีก 4 เดือนข้างหน้า ลูกนกจึงโผบินได้ ซึ่งใช้เวลานานมาก ทำให้ลูกนกบางตัวมีชีวิตรอดไปไม่ถึงวันบินได้ครั้งแรก เพราะกลายเป็นอาหารของสัตว์นักล่าในป่าทุ่งหญ้าสะวันนา แห่งทวีปแอฟริกา
ส่งผลให้ประชากรนกกระเรียนหงอนพู่เทาที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ ไม่เพิ่มจำนวนขึ้นเลยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา.