ช็อกและโกรธไปตามๆกันสำหรับข่าวอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทายาทกลุ่มเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่ขับรถสปอร์ตหรูชนนายดาบตำรวจรายหนึ่งเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน และต่อมาได้หลบหนีคดีไปต่างประเทศ ที่หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

โกรธถึงขั้นระบายอารมณ์เข้าใส่รัฐบาลและขบวนการยุติธรรมจนโซเชียลร้อนฉ่าไปเลยทีเดียว

ผมเองรู้ข่าวครั้งแรกเมื่อประมาณตี 5 ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะตื่นมาเตรียมตัวหาข้อมูลสำหรับจะโทรศัพท์ไปเข้ารายการวิทยุ “สปอร์ตเรดิโอ FM.96” ในช่วง 7 โมงครึ่ง

คลิกเข้าไปดูข่าว CNN ก่อนก็ตกใจเมื่อเขาพาดหัวตัวเบ้อเริ่มสรุปได้ว่ามีการยกเลิกข้อกล่าวหาทุกข้อที่มีต่อทายาทกระทิงแดงที่หลบหนี ไปต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว

ผมอ่านข่าวไปก็นึกในใจไปว่า ปล่อยไก่แน่ๆ CNN เอ๋ย ไปเอาข่าว “เฟกนิวส์” หรือ “ข่าวปลอม” มาจากไหนละหือ...ยิ่งรายงานไว้ด้วยว่าการสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ 12 มิถุนายน หรือกว่าเดือนมาแล้ว ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า “เฟก” ร้อยเปอร์เซ็นต์

เป็นไปได้ยังไงที่การพลิกคดีที่สะเทือนความรู้สึกของสังคมไทยอย่างใหญ่หลวงคดีนี้จะไม่หลุดไปถึงผู้สื่อข่าวไทย และเก็บความลับมาได้ตั้งเดือนกว่าจนสำนักข่าวต่างประเทศนำมาปูดก่อนเช่นนี้

ที่ไหนได้กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ข่าวนี้ไม่เฟกครับ เมื่อโฆษกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาแถลงข่าวยอมรับในช่วงบ่ายๆถัดมา

เมื่อไม่ “เฟก” อัยการและตำรวจก็ “เฟะ” ซีครับ...เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างใหญ่หลวง ณ นาทีนั้น จนเป็นที่มาของการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้งจากท่านอัยการสูงสุด และท่าน ผบ.ตร.ด้วยประการฉะนี้

...

ผลจะลงเอยอย่างไร? คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป และก็อย่างที่ว่า ต่อไปนี้จะทำอะไรเงียบๆ หรืองุบงิบไม่ได้อีกแล้วนะครับ เพราะ ข่าว “ทายาทกระทิงแดง” หรือข่าว Red Bull heir เป็นข่าวใหญ่ระดับโลกที่สื่อดังทั่วโลกให้ความสนใจและรอคอยความคืบหน้ากันอยู่

วันเดียวกันนี้หลัง CNN แพร่ข่าวออกไปแล้ว ทั้ง BBC, รอยเตอร์, เดอะ การ์เดียน, นิวยอร์กไทมส์ ฯลฯ ต่างก็เผยแพร่ตามแห่ไปด้วย

เหตุที่เขาสนใจก็เพราะ Red Bull เป็นเครื่องดื่มที่มาแรงที่สุดของโลกในรอบ 20 กว่าปีมานี้ ความร่ำรวยของผู้เป็นเจ้าของธุรกิจ ได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวางทั้งในแง่บวกและลบในระดับโลก

การเป็นคนรวยในต่างประเทศจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย...ข้อดีคงไม่ต้องพูดถึง แต่ข้อเสียก็คือ จะตกเป็นเป้าสังคมในทุกเรื่อง

จะมีคนคอยจับตาดูความเคลื่อนไหว เพราะทุกๆความเคลื่อนไหวของคนรวยมักเป็นข่าว ขณะเดียวกันก็จะคอยจับผิดด้วย เพราะเขาคาดหวังว่าคนรวยจะต้องไม่เอาเปรียบสังคม และไม่ใช้ความร่ำรวย เพื่อตัวเองหรือครอบครัว

เวลาคนรวยทำอะไรผิดกฎหมายเขาจึงจับตาดูเป็นพิเศษว่าคนรวยนั้นๆเข้ามาใช้อำนาจเงินตราบิดเบือนคดีต่างๆหรือไม่? ทำให้กฎหมายบ้านเมืองเบี่ยงเบนไปหรือไม่? อย่างไร?

การที่ทายาท Red Bull กระทำผิดแล้วหลบหนีไปได้...สื่อนอกก็มองว่าคงเกิดอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่พอสมควรแล้ว

เมื่อถึงขนาดพลิกคดีไปจากเดิมจะไม่ยิ่งเคลือบแคลงใจกันมากขึ้น ไปอีกหรือครับ?

ดังนั้น การตั้งกรรมการสอบของทั้งฝ่ายอัยการและฝ่ายตำรวจจะต้องดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ อย่างละเอียดรอบคอบ และให้ได้ผลลัพธ์ชนิดที่สามารถตอบแล้วชี้แจงสื่อโลกให้เข้าใจได้อย่างถ่องแท้

ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็จะเสียหายมาถึงรัฐบาลไทย มาถึงชื่อเสียงของประเทศไทย ทำให้ถูกมองไปได้ว่าเป็นประเทศที่ขาดความชอบธรรม กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย ใครมีเงินก็ซื้อผู้รักษากฎหมายได้นั่นเอง

แล้วใครเขาจะอยากมาลงทุนในประเทศไทยของเราล่ะครับ

ขอให้สอบข้อเท็จจริงให้ดีที่สุด ถ้าถูกต้องจริง มีเหตุผลจริง ตอบชาวโลกเขาได้ก็เอาเลย ผมให้กำลังใจเต็มที่

หากตอบเขาไม่ได้ก็อย่าดันทุรังเป็นอันขาด ฝากบิ๊กตู่ไว้พิจารณาด้วยก็แล้วกัน เรื่องใหญ่นะครับ เรื่องนี้ เหมือนนํ้าผึ้งที่เทราด ลงไปทั้งไห อย่างที่ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ว่าไว้จริงๆ.

“ซูม”