อ้างเพื่อคุมโควิด ยันไม่ละเมิดสิทธิ

“วิษณุ” เผยสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น แย้มตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. ถึงสิ้นเดือนหากคุมอยู่ มีความเป็นไปได้ปลดล็อกโดยสิ้นเชิง ย้ำเตรียมการรับมือ 3 รูปแบบ แต่ยังกังวล 1 ก.ค. หมดอายุฉุกเฉิน ซ้ำเป็นวันเปิดเรียนและสนามบินด้วย กลาโหมแจงกรณีนักวิชาการเผยแพร่เอกสารดักสัญญาณมือถือ ปชช. ควบคุมโควิด กรมควบคุมโรคเป็นผู้ทำโปรแกรม มี กสทช.และดีอีเอสควบคุมอีกชั้น อ้างเป็นการระดมความคิดเห็นหาแนวทางป้องกันโรคหากระบาดรอบ 2 ขณะนี้ยังไม่ได้บังคับใช้เพราะเพิ่งทำเสร็จเมื่อ 15 วันที่แล้ว กรมสุขภาพจิตห่วงคนซึมเศร้าฆ่าตัวตายแนะดูแลสภาพจิตใจช่วงโควิดให้คิดบวก บิ๊กตำรวจสอบเองผู้เกี่ยวข้องไลฟ์สดหยิ่น-วอร์ พบความผิดครบองค์ประกอบตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หลังรัฐบาลประกาศผ่อนปรนกิจการกิจกรรมเฟสที่ 3 ตามมาตรการสกัดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมทั้งปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่มถึงตี 3 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. โดยมีแนวโน้มผ่อนคลายไปเรื่อยๆ ดูจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่มีการติดเชื้อในประเทศนานถึง 13 วัน แต่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยังออกเตือนเป็นระยะการ์ดอย่าตก ให้กิจกรรมแต่ละชนิดที่ได้รับการผ่อนปรนเข้มข้นเรื่องการใช้มาตรการสูงสุดในการสกัดเชื้อโรค โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์มและโหลดแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เช็กอินเช็กเอาต์ตามห้างร้านสถานที่เพื่อประโยชน์การสืบสวนติดตามโรค ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศกลับมาคึกคัก แต่ยังปรากฏภาพการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยไม่สนใจมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นที่ชายหาดบางแสน หรือการเปิดตัวศิลปินในห้างสรรพสินค้า จนนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้จัดระเบียบชายหาดและพื้นที่สาธารณะตามที่เสนอข่าวไปนั้น

...

นายกฯสั่งปรับรูปแบบแถลงข่าว

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่าขณะนี้อยู่ในช่วงผ่อนคลายระยะที่ 3 ตัวเลขต่างๆ ในประเทศดีขึ้น ประชาชนรับทราบการดูแลสุขภาพตัวเอง มีการปรับรูปแบบการแถลงข่าวของ ศบค.ให้ตนแถลงทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ที่ทำเนียบฯ ส่วนวันอังคาร และพฤหัสบดี จะให้ พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงที่กระทรวงสาธารณสุข วันเสาร์-อาทิตย์จะดูตามสถานการณ์ แต่ต้องนำเสนอผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าและ ศบค. ให้ประชาชนรับทราบข้อมูล ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานน้อยลง ตรงกันข้ามประชุมกันบ่อยขึ้นเพื่อเตรียมเข้าสู่การผ่อนคลายระยะที่ 4 เป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงว่ามีความพร้อมมากแค่ไหนให้มั่นใจว่าเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 4 ยังปลอดภัยทั้งประเทศ

จัดระเบียบชายหาดเป็นสัดส่วน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า กรณีหาดบางแสนที่มีนักท่องเที่ยวแออัด ผอ.ศบค.ได้ฉายภาพการปรับเปลี่ยนให้เป็นชีวิตวิถีใหม่ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่คนไทยจะช่วยกันดูแลชายหาดให้สวยงามเหมือนเมืองนอก แบ่งเป็น 4 ส่วนคือ 1.บริเวณชายหาดที่มีโขดหินไม่สามารถเล่นน้ำทะเล มีร้านอาหารตั้งอยู่บนนั้นจะเปิดให้บริการได้หรือไม่ 2.บริเวณชายหาดที่มีโขดหินประปราย ให้ร้านค้าแผงลอยไปเปิดตรงนั้น เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อหาสินค้าได้หรือไม่ 3.บริเวณชายหาดที่ประชาชนสามารถลงเล่นน้ำได้ จะกันพื้นที่ไม่ให้ขายสินค้า และให้ประชาชนไปปิกนิก เตรียมอาหารไปทานเอง และ 4.ชายหาดที่จะให้เล่นน้ำอย่างเดียว นายกฯบอกว่าอยากเห็นภาพนี้ ให้คนไทยได้ชื่นชมและใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นไอเดียที่น่าจะเกิดขึ้นได้ เป็นหน้าที่ ศบค.ที่ต้องจัดชุดข้อมูลผ่านกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ รวมถึงประชาชนต้องเห็นด้วย ผู้ให้บริการต้องดำเนินการตามมาตรการ และภาครัฐควบคุมกำกับดูแล

ไม่พบเชื้อ 14 วันติดแต่เบาใจไม่ได้

เมื่อถามว่าการไม่พบการติดเชื้อในประเทศ 14 วันติด เท่ากับเราปลอดภัยและใช้ชีวิตแบบเดิม ได้แล้วหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดีใจ แต่อีกด้านยังเบาใจไม่ได้ เพราะเคยมีกรณีที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการนานกว่า 14 วัน ดังนั้นการ์ดต้องไม่ตก เบาใจได้หน่อยแต่อย่าวางใจ จนกว่าจะยาวนานกว่านี้ เราต้องดูแลประชาชนในประเทศให้ดี ไม่นำเชื้อจากภายนอกเข้ามา ทุกอย่างยังอยู่ในการเฝ้าระวัง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความภูมิใจของคนไทย หลายสื่อให้เครดิตประเทศไทยในการควบคุมโรค ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลต่อเพื่อผ่านไปสู่การผ่อนคลายระยะที่ 4 และระยะที่ 5 ซึ่งมีหรือไม่ ยังไม่รู้ ต้องเป็นศูนย์อย่างนี้ไปเรื่อยๆ

“วิษณุ” เผยเตรียมการไว้ 3 รูปแบบ

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาผ่อนคลายกิจการหรือกิจกรรมเพิ่มเติมว่า คณะทำงานกลั่นกรองจะใช้เวลาช่วง 2 สัปดาห์ของเดือน มิ.ย. ประเมินว่าจะใช้มาตรการอย่างไรต่อไป ส่วนตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.จนถึงสิ้นเดือน จะเฝ้าติดตามสถานการณ์ หากสามารถควบคุมสถานการณ์อยู่หรือดีขึ้น อัตราการติดเชื้อคงที่ หรือหากมีการติดเชื้อเป็นกรณีที่ติดจากเมืองนอก ถ้าในประเทศมีตัวเลขเป็นศูนย์ และนิ่งติดต่อกันได้หลายวันอย่างที่ผ่านมา การจะนำไปสู่การปลดล็อกทั้งหลายโดยสิ้นเชิงก็เป็นไปได้ ขณะนี้เตรียมการไว้ทุกรูปแบบ คือกรณีแรก เตรียมการที่จะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกรณีที่สอง เตรียมการที่จะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกรณีที่สาม เตรียมการที่จะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่งดใช้มาตรการต่างๆ เช่น สามารถชุมนุมได้ เลิกเคอร์ฟิว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ดี

...

ห่วง 1 ก.ค. เปิดเทอมเปิดสนามบิน

เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ดีเช่นนี้ การผ่อน คลายมาตรการระยะที่ 4 คงไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มองจากวันนี้ก็ใช่ แต่หากเราลองปล่อยแล้วเกิดความประมาทชะล่าใจ ตรงนี้ก็น่ากลัว ที่เป็นห่วงคือวันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไปจะเป็นวันหมดอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังเป็นดีเดย์การเปิดภาคเรียนและสนามบินด้วย ถ้าทุกอย่างคุมกันได้เองเช่นนี้ ก็วางใจได้ หากวันที่ 15-31 มิ.ย. ปลอดภัย เราก็เชื่อว่าวันที่ 1 ก.ค. น่าจะปลอดภัย

ไร้ ก.ม.พิเศษบูรณาการงานยาก

เมื่อถามว่า มีแนวโน้มจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มีทุกทางอย่างที่บอก พอไปดู พ.ร.บ.โรคติดต่อแล้ว หลายเรื่องไม่สามารถจะบริหารจัดการเหมือนการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ รมว.สาธารณสุขตั้งขึ้นมา ไม่สามารถบูรณาการทหารพลเรือนเข้ามาได้ แค่การนำคนลงจากเครื่องเข้ามา แล้วนำไปในสถานกักกันของรัฐ สมมติเป็นพื้นที่ค่ายทหาร หากภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถรับช่วงต่อบูรณาการทำงานกันได้ แต่ยังนึกไม่ออกว่าภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อจะทำอย่างไร ตามกฎหมายนี้เป็นอำนาจของ ผวจ. สมมติว่าไปสัตหีบ ต้องเริ่มต้นที่ผู้ว่าฯ กทม. ผวจ.สมุทรปราการ ผวจ.ชลบุรี ต้องออกคำสั่งเป็นทอดๆไปถึงสัตหีบค่าใช้จ่ายใครจะเป็นคนดูแล ทุกวันนี้คือรัฐ หรือกรณีที่ผู้โดยสารนั่งเครื่องบินมาแล้วเกิดการติดเชื้อกันมาก สุวรรณภูมิที่อยู่ใน จ.สมุทรปราการ ผู้ว่าฯกล้าปิดสุวรรณภูมิหรือไม่ ไม่ให้สายการบินทั้งหมดลง แต่ทุกวันนี้ที่สั่งได้เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ปิดสนามบินได้เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อถามว่า กรณีจะเปิดให้คนต่างชาติเข้ามาแบบประเทศต่อประเทศ จะพิจารณาเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงปิดสนามบิน ถ้าเราไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วไปปิดสนามบิน จะอธิบายกับสายการบินไม่ได้ วันนี้ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากเหตุโควิด-19 และบางอย่างแม้ไม่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถดำเนินตามมาตรการได้ เช่น การสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างบุคคล

...

กห.แจงดักสัญญาณมือถือคุมโควิด

ด้าน พล.อ.รักศักดิ์ โรจน์พิมพ์พันธุ์ ผอ.สำนักนโยบายและแผน (สนผ.) กระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ เผยแพร่เอกสารของสำนักนโยบายและแผนกลาโหม โดยมีเนื้อหาระบุถึงการขอข้อมูลโทรศัพท์ เคลื่อนที่ในการสนับสนุนการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารฉบับจริง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนโรค เนื่องจากกรณีสนามมวยที่มีคนเข้าร่วมชมมวย 2,800 คน แต่ติดตามมาได้เพียง 800 คน ที่เหลือไม่ยอมมาตรวจและติดตามตัวไม่ได้ หากรู้สัญญาณโทรศัพท์ทั้ง 2,800 คน จะสามารถส่งข้อความไปแจ้งเตือนได้ทันที

โยน สธ.คนทำโปรแกรมร่วม กสทช.

โปรแกรมดังกล่าวกรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการ มีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ในส่วนของกระทรวงกลาโหมถือเป็นความหวังดีที่บูรณาการจัดการประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงความเป็นไปได้จนได้ข้อสรุปว่าสามารถทำได้จึงทำหนังสือแจ้งไป

...

อ้างเตรียมพร้อมรับมือระบาดรอบ 2

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน พล.อ.รักศักดิ์กล่าวว่า กลาโหมไม่ได้นำข้อมูลของประชาชนไปทำอะไร เป็นเพียงการระดมความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางการป้องกันการระบาดของโรค ที่สำคัญโปรแกรมดังกล่าวยังไม่ได้บังคับใช้เพราะเพิ่งทำเสร็จเมื่อ 15 วันที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบของรายแรกอยู่เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีการระบาดของโรคในรอบ 2 เมื่อถามว่าต้องขอข้อมูลสัญญาณโทรศัพท์คนทั้งประเทศใช่หรือไม่เพราะทุกคนมีความเสี่ยงทั้งหมด พล.อ.รักศักดิ์ ตอบว่า สมมติมีผู้ติดเชื้อเดินทางโดยมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปขึ้นรถสองแถว โดยบุคคลเหล่านั้นไม่รู้จักผู้ติดเชื้อ โปรแกรมดังกล่าวจะส่งข้อความไปบอกว่า บุคคลเหล่านั้นอยู่ในข่ายติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวัง

“คงชีพ” ยืนกราน กห.ไม่ใช่ต้นเรื่อง

ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กรณีการกล่าวหากระทรวงกลาโหมทำเรื่องขอตำแหน่งมือถือของประชาชน โดยอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯนั้นไม่เป็นความจริง กลาโหมไม่เคยร้องขอและไม่เคยได้รับข้อมูลจาก กสทช. หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงการแจ้งผลการประชุมเพื่อร่วมกันศึกษาแนวทางการควบคุมโรค เดิมกระทรวงกลาโหมทำหน้าที่สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ค่ายมือถือเสนอว่า เห็นควรให้นำการติดตามโทรศัพท์มาใช้สอบสวนโรค มติในที่ประชุมก็เห็นด้วยจึงทำหนังสือไปยัง กสทช.ขอใช้ข้อมูล ยืนยันว่าเป็นไปตามหลักการควบคุมโรค และเก็บข้อมูลไว้ใช้เพื่อการสอบสวนโรคเท่านั้น ย้ำว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่กระทรวงกลาโหมไปร้องขอข้อมูลกับ กสทช.แต่อย่างใด

กรมสุขภาพจิตทำกราฟวัดผล

อีกด้านหนึ่ง ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้จัดทำกราฟที่บอกถึงผลกระทบระยะยาวจากโรคโควิด-19 โดยคลื่นลูกที่ 1 ช่วงที่มีการระบาดและมีผู้ป่วยผู้เสียชีวิตสูงสุด ช่วงนี้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น แม้แต่ รพ.จิตเวช ก็มีการกันหอผู้ป่วยเพื่อรองรับกรณีหากมีผู้ป่วยโควิดล้นจาก รพ.อื่นๆ ทำให้ต้องจำหน่ายผู้ป่วยจิตเวชที่อาการดีขึ้นออกจาก รพ.พอคลื่นลูกที่ 1 ลดลง สิ่งที่ ตามมาคือคลื่นลูกที่ 2 คือผู้ป่วยที่ถูกเลื่อนการรักษาก่อนหน้านี้ เช่นผ่าตัด และกลับเข้าสู่กระบวนการรักษาอีกครั้งและมากขึ้น

ห่วงคนซึมเศร้าอยากฆ่าตัวตาย

ส่วนคลื่นลูกที่ 3 คือผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่แพทย์อาจจะให้ยากลับไปรับประทานนานขึ้น อาทิ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ป่วยจิตเวชด้วย และคลื่นลูกที่ 4 เป็นที่กังวลมากคือผลกระทบทางจิตเวชจากภาวะเศรษฐกิจจากโควิด ประชาชนบางส่วนอาจจะมีความเครียด ซึมเศร้า บางคนมีความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย และบุคลากรทางการแพทย์ที่อาจจะมีภาวะหมดไฟ ขณะนี้ไทยอยู่คลื่นที่ 3 และ 4 หากไม่มีการระบาดรอบใหม่ จะมีผู้ป่วยจิตเวชมากขึ้น

คาดป่วยเครียดมารักษามากขึ้น

นพ.จุมภฎกล่าวต่อว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย. เกิดการระบาดคลื่นลูกที่ 1 ทำให้ รพ.จิตเวชเลื่อนนัดผู้ป่วยออกไป ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยลดลง 30% ผู้ป่วยในลดลง 47.65% อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไปคาดว่าจะมีคนมารับการรักษามากขึ้น จากภาวะความเครียดมากขึ้น จากอาการกำเริบรวมถึงกลุ่มที่ครบกำหนดตรวจ และจะมีผู้ป่วยที่ต้องนอน รพ.มากขึ้นด้วย ดังนั้นเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นจึงมีการปรับเปลี่ยนการให้บริการ จิตเวชแบบนิวนอร์มอล ให้ปลอดภัยทั้งคนให้และรับบริการต่อไป

เข้มระบบบริการสุขภาพจิต

ด้าน นพ.บุรินทร์ สุรอรุณสัมฤทธิ์ ผอ.กองบริหารระบบบริการสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้ พัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ อาทิ การจัดระบบจองคิว/นัดหมายออนไลน์ โดยเหลื่อมเวลา คลินิกสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจ การรับบริการส่งยาทางไปรษณีย์หรือร้านขายยา รวมไปถึงการรับยาผ่านระบบ Drive thru เพื่อรักษาระยะห่างอีกด้วย จะพัฒนาใช้มากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังจัดทำระบบนัดติดตามโดยตรงทางโทรศัพท์/วิดีโอคอล ระบบการรายงานตัวเอง ผ่านแอปพลิเคชันและวิดีโอคอล และออกเยี่ยมบ้านในรายที่มีความซับซ้อน ประสานการติดตามกับสถานพยาบาลใกล้บ้าน หากเกินขีดความสามารถก็ให้ส่งต่อ รพ.จิตเวชต่อไป

แนะดูแลจิตใจช่วงโควิดให้คิดบวก

นพ.บุรินทร์กล่าวต่อว่า การบำบัดจิตแบบกลุ่มอาจจะต้องลดลง เน้นการบำบัดรายบุคคลมากขึ้น หากจำเป็นต้องบำบัดรายกลุ่ม จะต้องเว้นระยะห่าง ด้วย การทำหัตถการบางอย่างอาจจะจำเป็นต้องสวมชุดป้องกัน เช่น การบำบัดด้วยไฟฟ้า ลดการมา รพ.ให้สั้นที่สุด ขอย้ำว่าสุขภาพกายคือชีวิต สุขภาพจิตคือชีวา ประเทศไทยจะไปต่อได้หากคนไทยใจไม่ป่วย สำหรับการดูแลสภาพจิตใจตัวเองในระยะผ่อนปรนเหล่านี้ ขอให้มองมุมดีๆ มองบวกว่าวันนี้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะวันนี้ผ่อนปรนไปมากแล้ว หากวันนี้เรายังช่วยกันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อนาคตจะได้รับการผ่อนคลายมากขึ้น การจะผ่อนคลายไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลแต่อยู่ที่ประชาชน

บิ๊กตู่ให้ใช้โมเดลบีซีจีช่วยคนตกงาน

วันเดียวกัน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยภายหลังนำผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมทั้งผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรม เอกชน นักวิชาการ หน่วยงานของรัฐ และภาคสังคม เข้าพบนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯได้สั่งให้ผลักดันแนวทางการใช้โมเดลบีซีจี หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ให้เป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สิ้นสุดลง เพื่อช่วยให้คนมีงานทำ และยังตอบโจทย์ความยั่งยืนทุกด้านให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยเฉพาะทางด้านอาหาร สุขภาพและการแพทย์ที่ไทยติดระดับโลก

สั่งปรับปรุง ก.ม.–ร่วมมือภาคเอกชน

นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนโมเดลดังกล่าว ได้เสนอนายกฯว่า สิ่งสำคัญจากนี้จำเป็นต้องปลดล็อกข้อจำกัดด้านต่างๆเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะทางด้านกฎหมายและกฎระเบียบ นายกฯได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปพิจารณาแนวทางการปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัยมารองรับ อีกส่วนคือการร่วมมือกับภาคเอกชนโดยให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหลัก เช่น โครงสร้างพื้นฐานทางด้านเกษตร ด้านสาธารณสุข หากทำทั้ง 2 เรื่องนี้สำเร็จ จะช่วยการผลักดันโมเดลบีซีจีประสบความสำเร็จได้โดยเร็ว

เผย 7 กลุ่มเอกชนโมเดลบีซีจี

นอกจากนี้ได้มีการแบ่งกลุ่ม 7 กลุ่ม ที่เอกชนจะเข้ามาร่วมมือกับรัฐ ประกอบด้วย 1.กลุ่มเกษตร โดยมีนายยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็นประธาน 2.กลุ่มอาหาร มีนายธีรพงศ์ จันศิริ เป็นประธาน 3.กลุ่มยาและวัคซีน โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน 4.กลุ่มเครื่องมือแพทย์ โดยมีนายไพรัช ธัชยพงษ์ เป็นประธาน 5.กลุ่มพลังงานวัสดุและเคมีชีวภาพ มีนายเทวินทร์ วงศ์วานิช เป็นประธาน 6.กลุ่มท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีนายกลินท์ สารสิน เป็นประธาน และ 7.กลุ่มเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมีนายวิจารย์ สิมาฉายา เป็นประธาน

ธ.ก.ส.อัด 3 สินเชื่อฟื้นฟูหลังโควิด

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินงบประมาณรวม 170,000 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย สินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ รายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก สินเชื่อ New Gen Hug (ฮัก) บ้านเกิด กรณีค่าใช้จ่าย หมุนเวียน ดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก กรณีค่าลงทุน ปีที่ 1-3 ร้อยละ 4 ต่อปี และสินเชื่อระยะสั้นฤดูการผลิตใหม่ รายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ยปีแรก 4% ต่อปี เริ่มตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 มิ.ย. 2564 และเมื่อรวมกับสินเชื่อฉุกเฉินก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส. อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อเข้าไปสนับสนุนภาคเกษตรรวม 190,000 ล้านบาท

ผู้เกี่ยวข้องไลฟ์สดหยิ่น–วอร์ พบ ตร.

อีกด้านหนึ่ง ที่ สน.ปทุมวัน เมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน ตัวแทนศูนย์การค้าสยามพารากอน, บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน), ผู้จัดกิจกรรม เดินทางมาให้ปากคำ พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน กรณีการจัดไลฟ์สดเปิดตัว “หยิ่น-วอร์” 2 นักแสดงวัยรุ่น นายอานันท์ หว่อง หรือหยิ่น อายุ 22 ปี นายวนรัตน์ รัศมีรัตน์ หรือวอร์ อายุ 26 ปี ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อค่ำวันที่ 5 มิ.ย. มีแฟนคลับมารอกันจำนวนมาก และผู้จัดไม่ได้กำหนดระยะห่างตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ก่อนห้างฯจะสั่งปิดโซนโรงภาพยนตร์ ระหว่างวันที่ 7-9 มิ.ย. โดยมี พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ร่วมสอบปากคำด้วย

พบความผิดครบองค์ประกอบ

หลังสอบปากคำ 3 ชั่วโมง พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ตัวแทนของศูนย์การค้าสยามพารากอนกับตัวแทนบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ได้นำเอกสาร ภาพนิ่งและวิดีโอ เกี่ยวกับงานทั้งหมดมาเป็นหลักฐาน จากการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวพบว่ามีความผิดครบองค์ประกอบโดย เฉพาะผู้จัดนั้น ได้โพสต์เชิญชวนแฟนคลับผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ต้องทราบอยู่แล้วว่า การเชิญดารามาออกงานจะต้องมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก จะต้องประเมิน ว่าพื้นที่มีกี่ตารางเมตรสามารถรองรับได้กี่คน

ผู้จัดไม่แจ้งเจ้าของพื้นที่และ จนท.รัฐ

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำทางศูนย์การค้าสยามพารากอนปฏิเสธว่าไม่ทราบว่ามีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ในส่วนของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้จัดกิจกรรมนั้น ไม่ได้แจ้งศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่, สำนักงานเขตปทุมวัน, สน.ปทุมวัน และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค.ให้ทราบว่าจะมีการจัดกิจกรรมขึ้นด้วย

โทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บ.

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า พิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 5) ข้อ 2 วรรค 2 ห้ามผู้ใดจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุม ประชุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้การสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จอาจจะมีผู้กระทำผิดมากกว่า 1 คน

เรียกสอบ“หยิ่น–วอร์” ถ้าพบเกี่ยวด้วย

พล.ต.ท.ปิยะกล่าวอีกว่า ในส่วนของศิลปิน จะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากเกี่ยวข้องจะต้องเชิญมาสอบปากคำเช่นกัน นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงมาตรการตรวจคัดกรองเข้มงวด ทั้งการวัดอุณหภูมิร่างกาย และการกำหนด จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันที่จัดกิจกรรมด้วย ยืนยันตำรวจไม่กังวลในเรื่องการดำเนินคดี แต่อยากฝากไปยังศูนย์การค้าและสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆว่า ขอให้คำนึงถึงข้อห้ามตามกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อด้วย

ย้ำโรงหนังต้องจำกัดคนไม่เกิน 200

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวหลังเยี่ยมชมกิจการที่ได้รับการผ่อนคลายประเภทโรงภาพยนตร์ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ว่า โรงภาพยนตร์เป็นกิจการหนึ่งที่ได้รับการผ่อนคลายระยะที่ 3 โดยจำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 200 คน เนื่องจากเป็นอาคารปิดที่มีระบบปรับอากาศ มีผู้รับชมจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ เจ้าของสถานประกอบกิจการต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อาทิ กำหนดจุดคัดกรองพนักงานและผู้ใช้บริการ บันทึกรายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ วันที่และเวลา หรือลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ให้ติดตามตัวได้กรณีต้องมีการสอบสวนโรค พนักงานและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด งดกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยงต่อการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล และลดระยะเวลาในการเข้าใช้บริการ จัดระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจัดที่นั่งชมภาพยนตร์ให้เว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งทุก 2 ที่นั่ง และระยะห่างระหว่างแถวอย่างน้อย 1 แถว และทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส อุปกรณ์ เครื่องใช้ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดและอาจฆ่าเชื้อ เน้นจุดสัมผัสร่วม เช่น เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร ตู้จำหน่ายบัตร จุดนั่งพักรอ ที่นั่งชมภาพยนตร์ ด้ามจับประตู ราวบันได รวมถึงห้องส้วม

รฟท.เปิดขบวนรถเพิ่มทั่วประเทศ

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกาศผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด และให้ยานพาหนะ ผู้โดยสาร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้าระหว่างจังหวัดที่เริ่มออกเดินทางจากจังหวัดต้นทาง ก่อนเวลา 23.00 น. และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานได้ จึงประกาศเปิดเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่น (เพิ่มเติม) 108 ขบวน อาทิ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ รวมทั้งสายตะวันออกเฉียงเหนือ สายใต้ และอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง ระยะที่ 3 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางกับขบวนรถโดยสารทางไกล สามารถจองล่วงหน้าได้ 30 วันก่อนเดินทาง เริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่างๆได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลข 1690 ตลอด 24 ชม.หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

ยะลาปลดล็อกรถตู้–บขส.วันแรก

ส่วนบรรยากาศในภูมิภาคต่างๆของประเทศหลังคลายล็อกเฟส 3 ที่สถานีขนส่งเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา เป็นวันแรกที่เปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะ หลังจากหยุดเดินรถมากว่า 3 เดือนจากสถานการณ์โควิด-19 มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการค่อนข้างน้อย นายพงศ์ธร จันทราธิบดี ขนส่งจังหวัดยะลาเผยว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการถึงมาตรการต่างๆที่กำหนด ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด คนขับรถต้องดูผู้โดยสารว่าสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ รวมทั้งตรวจวัดอุณหภูมิ และเว้นระยะห่าง หากไม่ปฏิบัติตามจะห้ามขึ้นรถเด็ดขาด ส่วนบรรยากาศที่บริษัท สหยะลาขนส่ง จำกัด อ.เมืองยะลา เปิดบริการรถมินิบัสและรถตู้โดยสารวันแรกตามมาตรการปลดล็อกของจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อครบ 28 วัน มีการคัดกรองเข้มงวด แต่ไม่มีการปรับเพิ่มราคาตั๋วโดยสารแต่อย่างใด

สถานีขนส่งสตูลกลับมาคึกคัก

เช่นเดียวกับที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.สตูล บรรยากาศที่เงียบเหงามากว่า 2 เดือนกลับมาคึกคักขึ้น เพราะได้เปิดให้รถรับส่งผู้โดยสารกลับมาวิ่งเป็นวันแรก โดยเฉพาะคิวรถตู้สตูล-หาดใหญ่ มีผู้โดยสารมาใช้บริการตั้งแต่เช้า คนขับรถต้องเช็ดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และเว้นระยะห่างผู้โดยสาร นายสุนทร มู่เก็ม นักวิชาการขนส่ง ปฏิบัติการ สำนักงานขนส่ง จ.สตูล กล่าวว่า มาตรการป้องกันโควิด-19 ผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิ และเว้นระยะห่างของเก้าอี้ผู้โดยสาร ปกติรถตู้ 1 คันรับผู้โดยสารได้ 13 คน แต่ตอนนี้รับได้แค่ 9 คน เว้นระยะห่างเบาะนั่งตรงกลาง เมื่อส่งผู้โดยสารเสร็จต้องรีบเช็ดแอลกอ– ฮอล์ทำความสะอาดทันที และรับผู้โดยสารเฉพาะต้นทางเท่านั้นไม่แวะรับระหว่างทาง ส่วนเก้าอี้นั่งรอจะเช็ดทำความสะอาดทุกชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ

ปิดจุดผ่านแดนท่าเรือตำมะลัง

ส่วนที่สตูล นายก้องสกุล จันทราช นายอำเภอเมืองสตูล กล่าวถึงการเปิดจุดผ่านแดนถาวรท่าเรือตำมะลัง ต.ตำมะลัง อ.เมืองสตูล เพื่อให้คนไทยตกค้างในประเทศมาเลเซียเดินทางกลับบ้านว่า ทาง จ.สตูลได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทยเสนอขอระงับการใช้จุดผ่านแดนท่าเรือตำมะลัง เนื่องจากมีผู้เดินทางผ่านช่องทางดังกล่าวน้อย แต่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานจำนวนมาก สำนัก– งานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้พิจารณาแล้วเห็นชอบให้ระงับใช้จุดผ่านแดนถาวรท่าเรือตำมะลัง ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.เป็นต้นไป

คุกกระบี่เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยม

นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ นพ.วิทยา วัฒนเรืองโกวิท สสจ.กระบี่ นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ที่อนุญาตให้ญาติผู้ต้องขังเข้าเยี่ยมได้วันแรก หลังจากปิดมาตั้งแต่เดือน มี.ค. ก่อนหน้านี้ทางเรือนจำได้เปิดให้ลงทะเบียนจองวันเวลาเยี่ยม มีญาติผู้ต้องขังกว่า 200 คนมารอคิวเข้าเยี่ยม โดยญาติที่ลงทะเบียนจองคิวเข้าเยี่ยมไว้ชุดแรกจะทยอยเข้าเยี่ยมได้ถึงวันที่ 10 มิ.ย. หลังจากนั้นวันที่ 11-12 มิ.ย. จะเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวเข้าเยี่ยมอีกครั้ง นายณรงค์ หนูคง ผบ.เรือนจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กำหนดให้ญาติได้เยี่ยมผู้ต้องขัง 8 คนต่อ 1 รอบ ให้เยี่ยมได้วันละ 18 รอบ รอบละประมาณ 15 นาที แต่ละวันผู้ต้องขังได้รับการเข้าเยี่ยม 144 คน เรือนจำได้นำระบบแอปลิเคชันไลน์มาใช้จองคิวเข้าเยี่ยมด้วย ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ประสานกับ สสจ.กระบี่ กำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งคัดกรองผู้เข้าเยี่ยมและสวมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆด้วย

โรงเรียนชายแดนเตรียมกัก นร.

ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 (สพป.นราธิวาส เขต 2) อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุพจน์ มณีรัตนโชติ ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 2 เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนบริเวณตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อเตรียมเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 ก.ค.ว่า มีนักเรียนไทยที่ไปอยู่กับผู้ปกครองทำงานในประเทศมาเลเซีย ต้องเดินทางไปกลับเพื่อมาเรียนหนังสือราว 150 คน ต้องกักตัวดูอาการนักเรียนกลุ่มดังกล่าวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ผู้บริหารโรงเรียนประสานผู้ปกครองให้นำเด็กกลับเข้าประเทศก่อนวันที่ 14 มิ.ย. เพื่อกักตัวในศูนย์กักกันตัวที่จะจัดขึ้นภายโรงเรียนแต่ละแห่งที่เด็กเรียนอยู่ สพป.นราธิวาส เขต 2 จะทำเรื่องถึง สพฐ. เพื่อสนับสนุนงบประมาณดำเนินการต่อไป

แห่ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บ้าน กม.32 หมู่ 2 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา จุดท่องเที่ยวสำคัญของ อ.เบตง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมีทะเลหมอกให้เห็นตลอดทั้งปี เคยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ หลังต้องปิดมานานเกือบ 3 เดือนจากสถานการณ์โควิด-19 วันนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมแล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยสวมใส่หน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด มีเจ้าหน้าที่ อสม. ตำรวจ และอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว คอยคัดกรองอย่างเข้มงวด หากใครไม่ใส่หน้ากากอนามัยจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปเยี่ยมชม ถือเป็นกฎเหล็กที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติ อีกทั้งยังมีแอลกอฮอล์ล้างมือให้บริการด้วย

ภูเก็ตยังเงียบ-รอเปิดชายหาด

ส่วนบรรยากาศที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ ยังเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ถึงแม้รัฐบาลจะมีมาตรการคลายล็อกเฟส 3 แต่ผู้ประกอบการร้านรวงต่างๆยังคงปิดเนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเพราะสนามบินเข้าออกประเทศยังไม่เปิดให้บริการ ผู้ประกอบการขายน้ำหาดป่าตองกล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่หาดป่าตองเงียบมาก ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทั้งร้านอาหาร ร้านนวด โรงแรมต่างปิด หรือถือโอกาสปรับปรุงสถานที่ ส่วนร้านตนที่ยังขายของได้อยู่เพราะลูกค้าเป็นพวกคนงานก่อสร้างและชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากเปิดชายหาดในวันที่ 9 มิ.ย. คาดว่าบรรยากาศยังคงเงียบเหงาอยู่ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับช่วงนี้อยู่ในฤดูมรสุม ไม่ค่อยมีคนนิยมมาท่องเที่ยว

ถนนข้าวสาร 2 ทุ่มผีแทบหลอก

วันเดียวกัน นายปิยะบุตร จิวระโมไนย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวว่า แม้จะมีการผ่อนปรนระยะที่ 3 ให้หลายกิจการกลับมาเปิดบริการได้ แต่ถนนข้าวสารยังแทบไม่มีคนเดิน ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีแต่ฝรั่งตกค้างไม่กี่คน ช่วงกลางคืนหลัง 2 ทุ่มผีแทบหลอก เพราะคนรีบกลับบ้านจากเคอร์ฟิว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์ เกสต์เฮาส์ จึงยังเลือกที่จะปิดบริการเพราะขายแอลกอฮอล์ไม่ได้ ฝืนเปิดไปไม่มีลูกค้าก็ไม่คุ้ม แต่ต้องแบกรับค่าเช่าร้าน ต้องเลี้ยงดูลูกน้อง ทุกวันนี้มีแต่ค่าใช้จ่าย 3 เดือนแล้ว ถ้าไม่ทนคงตายกันหมด ยังหวังว่าถนนข้าวสารน่าจะกลับมาเปิดช่วงกลางเดือน ก.ค. และจะเห็นชัดเจนว่าจะเหลือผู้ประกอบการค้ากี่ราย ล้มหายตายจากไปกี่ราย คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้น โดยขณะนี้กรุงเทพ-มหานครได้ปรับปรุงพื้นถนนข้าวสารตลอดเส้นทาง 400 เมตรเสร็จแล้ว ใช้งบกว่า 47 ล้านบาท แต่ยังมีปัญหาเรื่องการจัดระเบียบโซนร้านค้าใหม่ และไม่ต้องการให้มีแผงลอยบังหน้าร้าน

ตำรวจช่วย 3 แม่ลูกนอนริมทาง

ขณะเดียวกันยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด ต้องตกงานกลายเป็นคนเร่ร่อนอุ้มลูกน้อยนอนข้างทาง โดยเมื่อค่ำวันที่ 7 มิ.ย. ร.ต.อ.ชิณภัทร เอื้อกิจ รอง สวป.สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งจากพลเมืองดี มีผู้หญิงพร้อมลูกเล็ก 2 คน นอนอยู่ข้างถนนเทวาภิบาล บริเวณสวนสาธารณะสตรีทอาร์ท เกรงจะได้รับ อันตราย นำกำลังสายตรวจไปตรวจสอบพบหญิงทราบชื่อนางโมนา อายุ 37 ปี พร้อมลูกชายวัย 6 ขวบ และลูกสาววัย 3 ขวบ ปูผ้าขนหนูนอนอยู่ใต้ต้นไม้ริมถนน สอบถามนางโมนาเล่าว่า ตกงานจากวิกฤติโควิด-19 พาลูกทั้ง 2 คนนั่งรถ บขส.จากต่างจังหวัดจะมาตามหาสามีที่ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด เหลือเงินติดตัว 100 บาท และไม่มีค่าโดยสารเดินทางต่อ จึงเดินจากสถานีขนส่งมาหาที่นอนริมถนน เบื้องต้นตำรวจพาสามแม่ลูกไปพักที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ซื้อข้าวกล่องให้รับประทานก่อนจะพาไปส่งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อช่วยเหลือต่อไป