ศิลปินภาพวาด “สิตางศุ์ บัวทอง” บนฝาผนังโบสถ์วัดหนองเต่า จ.อุทัยธานี เปิดใจหวังบันทึกความโด่งดังเจ้าของตำนาน ส้มหยุด หยุดโดยไม่มีอะไรกั้น ยันเจตนาดี ไม่ได้มีการลบหลู่ บิดเบือนพุทธประวัติ
กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจ Artytus By jarunnapat ที่ได้วาดภาพของเน็ตไอดอลชื่อดังแห่งยุคอย่าง “สิตางศุ์ บัวทอง” เจ้าของวลี “สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ” และตำนานส้มหยุด ไว้ในผนังโบสถ์ พร้อมระบุว่า "ตำนานส้มหยุด หยุดโดยไม่มีอะไรกั้น ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ทุกคนต้องจดจำ แม่สิตางศุ์ บัวทอง อีก 30-50 ปี ข้างหน้ากลับมาย้อนดู ทุกคนจะได้รู้ว่านี่คือยุคที่แม่สิตางศุ์ ปังมากกก #ตำนานส้มหยุด 2563 วัดหนองเต่า ต.หนองฉาง จ.อุทัยธานี"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดหนองเต่า หมู่ที่ 7 บ้านหนองเต่า ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เพื่อเข้าชมภาพวาดในผนังโบสถ์ ซึ่งได้พบกับคุณจรัณภัตษญ์ แก้วอ่ำ อายุ 30 ปี ศิลปินซึ่งเป็นผู้วาดภาพกลุ่มเพศที่ 3 หรือกลุ่ม LGBT กำลังวาดภาพดังกล่าวที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพิ่มเติม พร้อมเปิดเผยว่า ภาพวาดภาพกลุ่มคนที่มารอรับเสด็จพระพุทธเจ้าตามพุทธประวัติ และในภาพได้แอบซ่อนภาพของสิตางศุ์ บัวทอง และมีผลส้ม ตามตำนานส้มหยุดไว้ได้อย่างแนบเนียน และได้เปิดใจถึงที่มาของภาพดังกล่าวว่า ภาพรวมในอุโบสถทั้งหมดเป็นภาพวาดเกี่ยวกับพุทธประวัติ เกี่ยวกับชาดกแต่ละชาติที่พระพุทธเจ้าเกิดมาบนโลก รวมทั้งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ส่วนภาพที่มีคุณสิตางศุ์ ซึ่งมีเนื้อหาประมาณว่า พระพุทธองค์ลงมาโปรดทั้งสามโลก คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรกภูมิ
ซึ่งการวาดภาพของแม่สิตางศุ์ เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ซ่อนเอาไว้เท่านั้น เพื่อที่จะเป็นการบ่งบอกช่วงยุคสมัยของศิลปินที่เป็นผู้วาดภาพว่าเป็นการวาดภาพอยู่ในยุคสมัยไหน หวังว่าอีก 30-50 ปีข้างหน้า คนที่ย้อนกับมาดูก็จะสามารถรับรู้ได้ว่าภาพนี้เคยเขียนในยุคที่แม่สิตางศุ์ กำลังฮอต และโด่งดังในเรื่องของตำนานส้มหยุด เขาก็จะเทียบเคียงเรื่องเวลาได้ว่าอยู่ในช่วงยุคประมาณไหน โดยการวาดภาพดังกล่าวไม่ได้มีการลบหลู่ หรือบิดเบือนพุทธประวัติแต่อย่างใด ส่วนตัวมีเจตนาดี ไม่มีนัยอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด
...
นายสังวาล พงษ์จำปา อายุ 56 ปี กรรมการวัด กล่าวว่า อุโบสถนี้เป็นอุโบสถเก่าแก่ อายุเกือบร้อยปี ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ด้วยการบอกบุญจากพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และเลื่อมใสศรัทธา จนแล้วเสร็จ และได้มีการจ้างช่างศิลปินมาวาดภาพพุทธประวัติทั้ง 13 กัณฑ์ โดยทุกภาพจะมีเจ้าภาพในการบริจาคเป็นเงินค่าจ้างวาดภาพ แต่ละภาพราคาจะไม่เท่ากัน ถ้าเป็นภาพขนาดเล็กค่าจ้างวาดภาพ ราคา 4,500 บาท และภาพขนาดใหญ่ ราคาภาพละ 10,000 บาท
ส่วนภาพรายละเอียดต่างๆ ภายในภาพวาด ศิลปินผู้วาดจะเป็นผู้ลงรายละเอียดว่าจะสอดแทรกอะไรเพิ่มเติมลงไป และภาพที่เป็นข่าวตนก็ไม่รู้จัก ไม่ได้เล่นสื่อโซเชียล เพิ่งมารู้ตอนที่เป็นข่าวดังแล้ว และเท่าทีดูจากภาพก็ไม่ได้เสียหายอะไร เป็นเพียงภาพประกอบเล็กๆ ซึ่งถ้าไม่สังเกต หรือว่าไม่ได้เป็นข่าวก็จะเห็นว่าเป็นเพียงภาพที่มีพุทธศาสนิกชนมาเฝ้ารอรับเสด็จองค์พระพุทธเจ้าเท่านั้น
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น กรรมการวัด หรือประชาชน ก็ไม่รู้มาก่อนเช่นกัน เพิ่งรู้ตอนเป็นข่าวพร้อมๆ กับเจ้าอาวาส และมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับเจ้าอาวาส ว่าไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย แถมจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอีกด้วย