“กระบะพลิก 3 ตลบ คนขับรอดปาฏิหาริย์ ชาวบ้านแห่ดู เชื่อบารมีหลวงปู่ทวด” ข่าวนี้เกิดขึ้นที่ถนนตรัง-สิเกา ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ช่วงปลายปี 2559

ศรัทธาความเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์นี้ คนขับ คล้อง พระหลวงปู่ทวด จากวัดทรายขาว จ.สงขลา ถึงขั้นที่ว่ามีบางคนจะเอาเลขทะเบียนรถไปลุ้นหวยอีกด้วย

กระนั้นแล้ว คนขับก็ยังมีสติคิดวิเคราะห์แยกแยะกล่าวทิ้งท้ายว่า “...ต่อให้มีพระดีขนาดไหน คนขับขี่รถเองก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความ ไม่ประมาทและมีสติ อย่างอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนเองปลอดภัยเพราะคาดเข็มขัดนิรภัย จึงขอบอกทุกคนว่า อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

...เราไม่ไปชนเขา เขาก็มาชนเรา เหมือนที่ตนขับรถมาจากจังหวัดระนอง อีกไม่กี่กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านที่อยู่ในตัวเมืองตรังแล้ว แต่ก็ยังมาเกิดอุบัติเหตุจนได้ ส่วนพระที่ห้อยคอนั้น ถือเป็นแค่สิ่งที่ทำให้ตนเองยึดเหนี่ยวจิตใจมากกว่า”

“หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ตามบันทึกประวัติมีอยู่หลายตำนานด้วยกัน เอกสารการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บันทึกว่า “วัดพะโคะ” เป็นวัดจำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด อันเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทางภาคใต้

...

ประวัติเล่าสืบต่อๆกันมามีอยู่ว่าวันหนึ่ง มีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะ หรือหลวงปู่ทวด เดินอยู่ มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลาย จึงใคร่จะลองดี

โจรสลัดจอดเรือแล้วจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่ เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุด “น้ำจืด” หมดลง โจรสลัดเดือดร้อน

สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ ลงไปในน้ำทะเล เกิดเป็นประกายโชติ ช่วงน้ำทะเลกลายเป็น “น้ำจืด” อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง

ด้วยเหตุนี้เอง โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธา กราบไหว้ขอขมา แล้วนำหลวงปู่ทวดขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก

อีกตำนานก็ว่า...หลวงพ่อทวดได้ขออาศัยเรือสำเภาของพ่อค้า ที่ทำการค้ากับกรุงศรีอยุธยา เพื่อจะไปศึกษาเล่าเรียนที่กรุงศรีอยุธยา ในระหว่างทางได้เกิดพายุต้องเข้าอาศัยบนเกาะแห่งหนึ่งหลายวันจน “น้ำจืด” ที่เตรียมไว้บนเรือเกิดหมด ลูกเรือได้รับความเดือดร้อนมาก

เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่กลับมาเกิดขึ้นในครั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะการรับพระสงฆ์รูปนี้มาก็ได้ จึงวางแผนที่จะปล่อยตัว หลวงพ่อทวดไว้บนเกาะแห่งนั้น

หลวงพ่อทวดจึงได้แสดงอภินิหาร ...โดยเอาเท้าซ้ายจุ่มลงในน้ำทะเล ซึ่งมีรสเค็มจัดพร้อมกับบอกให้คนเรือตักขึ้นมาชิมดู ปรากฏว่า “น้ำทะเลจืดสนิท” เจ้าของเรือสำเภาเห็นเป็นปาฏิหาริย์

แสดงว่า...หลวงพ่อทวดต้องเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน จึงรับตัวท่านขึ้นเรือสำเภา กราบขอขมาท่าน แล้วเดินทางต่อไปยังกรุงศรีอยุธยา เมื่อคลื่นลมสงบลงแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้

...

วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้คลื่นกระแสศรัทธายังไม่จางหาย อย่าง “หลวงปู่ทวด” ที่วัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ก็มีผู้คนเดินทางไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก

ต่างมุ่งหน้าไปที่วิหารสมเด็จหลวงพ่อทวด เพื่อสักการะรูปเหมือนของหลวงปู่ทวดขนาดเท่าองค์จริง...ไหว้พระ...ปิดทอง...สวดมนต์ “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อะติภะคะวา” 3 จบ แล้วบางคนก็ถือโอกาสจุดประทัดถวายหลวงปู่ทวดอีกด้วย ที่ไม่ลืมก็คือจะดู “เลขเด็ด” จากประทัดเพื่อไปเสี่ยงโชค

“วัดพระยาสุเรนทร์” เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นบนพื้นที่ของพันตรีพระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงหเสนี) แห่งปี 2341 ซึ่งจับจองตามศักดินา 48 ไร่...เพื่อสืบพุทธศาสน์

ล่วงถึง...25 เมษายน 2425 เหล่าทายาทตระกูล “สิงหเสนี” จึงได้สืบทอดเจตนารมณ์ ปักหมุดตอกเสาเข็มวางศิลาฤกษ์เริ่มสร้างวัดขึ้น กระทั่งแล้วเสร็จเรียบร้อย มีสถานที่ประกอบศาสนกิจครบใช้เวลาราว 5 ปี จึงได้ทูลถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว... ด้วยความจงรักภักดี

...

ถึง...วันพุธ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด พ.ศ.2431 พระพุทธเจ้าหลวงจึงพระราชทานวิสุงคามสีมานาม...วัดพระยาสุเรนทร์

“หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่” วัดพระยาสุเรนทร์ ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เป็นอีกศูนย์รวมศรัทธาที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการะกราบไหว้ขอพร ไม่ขาดสาย

เรียกได้ว่า...มาขอกันทุกๆเรื่องก็ว่าได้

ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัว วรรณภา กลัดแพ ต้นตำรับความอร่อย ร้าน “กุ้ยช่าย บ้านวรรณ” ที่อยู่ตรงหัวโค้งประตูทางเข้าวัด ทุกเช้าหลังจากเอารถขับไปจอดในบริเวณวัดแล้วก็จะตั้งจิตอธิษฐาน สวดมนต์...ขอให้ทำมาค้าขายราบรื่นอยู่ทุกวัน

“ไหว้แล้วก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ถามว่าเชื่อไหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์...ก็ไม่ได้ลบหลู่ แต่ก็ไม่ขอหรือคาดหวังให้หลวงปู่ช่วยให้ค้าขายดีขึ้นแบบทันตาเห็นแต่อย่างใด ก็คือไม่ได้รบกวนขออะไรท่านเลย เราตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินกันต่อไปด้วยความมุมานะพยายามเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา”

...

ความสำเร็จที่เห็นในวันนี้...จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับว่า เราคิดดี ทำดี พูดดี...แล้วสิ่งดีๆก็กลับมาหาตัวเรา ครอบครัวเราเอง

กระนั้นแล้ว...เรื่องบางเรื่อง ปัญหาบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ใครบางคนก็อาจจะถูกปัดเป่า ผ่านพ้นรอดอุปสรรค ผ่อนหนักให้เป็นเบา คลี่คลายลงไปได้ด้วย...อะไรบางอย่าง ที่หาเหตุผลไม่ได้อีกเช่นกัน

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก–ยม