“ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก”...การทำเกษตรยังกลายเป็นหัวใจหลัก ของคนไทย ในยามบ้านเมืองต้องเจอกับวิกฤติการระบาดไวรัสโควิด-19 ผู้คน ต้องอยู่กับบ้าน ตามมาตรการของรัฐบาล “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”

ทำให้หลายคนต้องหันไปจับจอบจับเสียมปลูกพืช นอกจากเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว ทุกคนในครอบครัวยังมีอาหารการกิน อย่างน้อย ก็มีกินไม่อดตาย

เมื่อวันก่อน นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผวจ.สิงห์บุรี พร้อมด้วย นางชุลีพร เตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกิจกรรม Kick off แผนปฏิบัติการ “90 วัน ปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ที่บริเวณ จวนผู้ว่าราชการ จ.สิงห์บุรี

นายชำนาญวิทย์ เผยว่า ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ และเลี้ยงสัตว์ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ในบริเวณจวนผู้ว่าฯ โดยเรียกว่า “เกษตรหลังบ้าน”

พืชผักสวนครัวที่ปลูกมีทั้งมะเขือเปราะ คะน้าเม็กซิโก กระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบเขียว ผักชีลาว ตะไคร้ กะเพรา โหระพา แคฝรั่ง อ่อมแซ่บ มัน 5 นาที ต้นกุยช่าย มะม่วง มะละกอ และอื่นๆอีกหลายชนิด รวมไปถึงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ เลี้ยงปลานิลแดง กุ้งฝอย เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุก

กิจกรรม Kick off แผนปฏิบัติการ “90 วัน ปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” เป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้แก่ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกคน โดยเน้นที่ “การจะพัฒนาใครเขา ต้องเริ่มจาก ตัวเราก่อน” โดยให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกคน ปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย 5 ชนิด ในบริเวณครัวเรือน เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน

...

พร้อมกับน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทาน แนวทางการสร้างความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนให้พึ่งตัวเองให้ได้ มาสู่การปฏิบัติในระดับครัวเรือน

โดยรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือน เพื่อสร้างความมั่นคง ทางอาหารให้ครอบครัวและชุมชน เน้นการพึ่งพาตนเอง และสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองในภาวะวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นชุมชนพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน.

สุภาวดี ภักดิ์พิบูลย์ / รายงาน