ชาวบ้านบูชาราหูเชื่อผลดีโชคลาภบรรยากาศการดู“จันทรุปราคา” ครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในห้วงอวกาศเมื่อคืนวันที่ 15 มิ.ย.ต่อเนื่องถึงวันที่ 16 มิ.ย.สุดคึกคัก ประชาชนแห่ชมเก็บภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ “จันทรุปราคา” ที่เกิดคราสเต็มดวงนานถึง 100 นาที กับการเกิด “ทางช้างเผือก” ไว้ในความทรงจำ ที่เชียงใหม่ฝนกระหน่ำตั้งแต่บ่ายหวิดชวดชม แต่พอฝนซาฟ้าก็ใสสวยงามไปยันค่ำ ส่วนที่ฉะเชิงเทราก็คึกคัก
คนไทยแห่ดูปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในห้วงอวกาศ ที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 15 มิ.ย.ต่อเนื่องถึงคืนวันที่ 16 มิ.ย.กันอย่างคึกคัก โดยเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” ในรอบ 4 ปี และจันทรุปราคาครั้งนี้จะมีความพิเศษ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดคราสเต็มดวงนานเกิน 100 นาที ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุด โดยดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสู่เงามัวของโลก ตั้งแต่เวลา 00.26 น. หรือหลังจากผ่านเที่ยงคืนของวันที่ 15 มิ.ย. และในเวลา 01.25 น. ดวงจันทร์เริ่มแหว่ง จากนั้น เวลา 02.25 น.เริ่มเกิดอุปราคาเต็มดวง และในเวลา 03.14 น.ดวงจันทร์เข้าไปอยู่กึ่งกลางเงามืดของโลก และจันทรุปราคาเต็มดวง ไปจนถึงเวลา 04.04 น. ดวงจันทร์จึงเริ่มออกจากเงามืดไปจนถึงเวลา 05.04 น. และสิ้นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเวลา 06.02 น. และที่สำคัญที่สุดคือ ปรากฏการณ์ “ทางช้างเผือก” โดยประชาชนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าค่อนข้างชัดเจน โดยมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
สำหรับบรรยากาศการดูจันทรุปราคา ซึ่ง สดร. ได้ร่วมมือกับเครือข่ายดาราศาสตร์ จัดกิจกรรมและตั้งจุดสังเกตปรากฏการณ์ ที่ 1.บริเวณดาดฟ้า ชั้น 3 สถาบัน วิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ จ.เชียงใหม่ 2.หอดูดาวบัณฑิต จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ที่หอดูดาวบัณฑิต อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 15 มิ.ย.บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชน เข้าร่วมชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ครั้งนี้จำนวนมาก โดยท้องฟ้ามีเมฆแต่ไม่มาก สามารถมองทะลุเห็นชั้นบรรยากาศ โดยนายคมสัน ธุรี เจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ กล่าวว่า ที่ จ.ฉะเชิงเทราได้มีการจัดกิจกรรมชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาหลายจุด เช่น โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และโรงเรียนชลราษฎรอำรุง อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งแต่ละจุดมีนักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมชมจุดละมากกว่า 100 คน
ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ สำนักงานใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และเป็นจุดถ่ายทอดสดและตั้งกล้องโทรทรรศน์ สังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคา ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 15 มิ.ย.มีประชาชนทยอยเดินทางมาจับจองชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคา ซึ่งสถาบันได้จัดสถานที่ดูไว้บริเวณดาดฟ้า สามารถจุคนได้มากกว่า 200 คน พร้อมติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสกว่า 800 มิลลิเมตร เพื่อสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคา และสามารถชมวัตถุท้องฟ้าต่างๆ เช่น ดาวเสาร์ ในช่วงหัวค่ำได้อีกด้วย
ในช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงฝนจึงหยุด จากนั้นปรากฏว่าท้องฟ้าใสสวยงามจนถึงช่วงเวลาค่ำ โดยนายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ในช่วงรอยต่อของคืนวันที่ 15 ต่อวันที่ 16 มิ.ย.น่าจะเห็นจันทรุปราคาได้ชัดเจน สวยงาม ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ทั้งนี้ ได้ถ่ายทอดสดภาพปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง เผยแพร่ที่ website ของสถาบัน ที่ www.narit. or.th ส่วนผู้ที่พลาดโอกาสในครั้งนี้ก็จะสามารถเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาอีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคม 2554
ที่ จ.สงขลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ซึ่งเป็นจุดที่สองที่เป็นจุดถ่ายทอดสด บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก มีนักศึกษาพากันมาจับจองเพื่อรอชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคา ซึ่งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯได้มาติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัสกว่า 800 มิลลิเมตร จำนวน 6 ตัว เพื่อให้ชมกันอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตามท้องฟ้าในช่วงค่ำค่อนข้างไม่เป็นใจ เนื่องจากมีฟ้าหลัว เมฆมาก และมีหย่อมความกดอากาศ
ในส่วนที่ประชาชนมีความเชื่อในเรื่องการไหว้พระราหู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ “จันทรุปราคา” ตามคำโบราณที่ว่า การเกิดจันทรุปราคาคือการเกิด “ราหูอมจันทร์” นั้น ที่วัดศีรษะทอง ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ตั้งแต่ช่วงเย็น มีประชาชนทยอยมาทำพิธีบูชาพระราหู จากปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่จะมีขึ้นในช่วงคืนวันที่ 15 มิ.ย. ต่อเนื่องถึงช่วงเช้ามืด ของวันที่ 16 มิ.ย.54 เนื่องจากถือว่าผู้มากราบไหว้บูชา จะประสบผลสำเร็จในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย หรือโชคลาภ ส่วนบางรายก็ว่าไม่ดี จะมีการเปลี่ยนแปลงประเทศ หรืออาจจะมีอุทกภัยร้ายแรงเกิดขึ้น ใครได้มากราบไหว้ก็จะได้พึงปรารถนา ส่วนอีกวัดหนึ่งคือวัดสว่างอารมณ์ ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี ซึ่งเป็นวัดที่กำลังโด่งดัง ก็ประกอบพิธีบูชาพระราหูเช่นกัน มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้บูชาพระราหูกันมากมาย โดยนำของดำ 8 อย่าง ที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ เช่น ไก่ดำ สุราเซี่ยงชุน ข้าวเหนียวดำ เฉาก๊วย กาแฟดำ ถั่วดำ ไข่เยี่ยวม้า ขนมเปียกปูน และมีบางรายที่นำติดไปด้วยเป็นเครื่องบูชา โดยเฉพาะวัดศีรษะทอง มีประชาชนแห่ไปบูชากันมากเป็นพิเศษ ก่อนพิธีจะเริ่มขึ้นในเวลา 19.00 น. ปรากฏว่าฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้องเลื่อนการประกอบพิธีออกไปจนกว่าฝนจะหยุด สำหรับชาวบ้านที่มาขออนุญาตใช้พื้นที่หลายวัดเพื่อตั้งแคมป์นำกล้องส่องดูดาวติดตั้งดู ปรากฏว่าต้องผิดหวังเนื่องจากฟ้าปิดฝนตก ต่างล้มเลิกแยกย้ายกันขนของกลับไป
นอกจากนี้ ที่กุฏิสมเด็จวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กทม. ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีประชาชนต่างทยอยเดินทางมาบูชาพระราหูด้วยของดำ 8 อย่าง พร้อมกับไหว้พระราหูเต็มองค์ทรงครุฑ และพระแสงจันทร์ทันใจ หรือพระกริ่งทุ่งบางเขน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณที่พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และคณะสงฆ์พระป่าสายธรรมยุต เป็นผู้ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2512 ก่อนที่ประชาชนจะเดินทางมาอย่างแน่นขนัดในช่วงค่ำ เพื่อเข้าร่วมพิธีสวดบูชาพระราหูตลอดคืนวันที่ 15 ต่อวันที่ 16 มิ.ย.
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนที่มาร่วมงานต่างพากันสวมชุดขาว นั่งสวดมนต์กันอย่างสงบและพร้อมเพรียง นอกจากนี้ ประชาชนจำนวนมากได้บูชาพระกริ่งแสงจันทร์และพระราหู ไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ พระมหานิรุตต์ ฐิตสํวโร วัดพระศรีมหาธาตุและเลขานุการเจ้าคณะภาค 8 ธรรมยุต กล่าวว่า วัดจัดพิธีสวดบูชาพระราหูเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันสวดมนต์ นั่งสมาธิและอธิษฐานจิต เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต ที่สำคัญในช่วงที่เกิดจันทรุปราคา ตรงกับวันพุธตอนกลางคืน ซึ่งวันพุธกลางคืนถือเป็นวันพระราหูพอดี โดยวัดได้จัดพระพิธีธรรมเพื่อสวดมนต์ตลอดคืน
ด้าน อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า การเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้เป็นชนิดมืดดวงเป็นธรรมชาติ เกิดในราศีธนูทวิภาวะชั้น 3 ตามโหราศาสตร์ทำนายว่า จะส่งผลให้เกิดเรื่องยุ่งยากสลับซับซ้อนเรื่องสืบสวนที่เกิดจากการชุมนุม กลุ่มการเมือง ผู้ใช้แรงงาน และเกิดอาชญากรรมมากขึ้น รวมถึงเกิดโรคระบาดจากคน สัตว์ และพืชที่รุนแรง อีกด้านจะเกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางศาสนา การศึกษา กฎหมาย และทางการแพทย์ โดยราศีธนูเป็นธาตุไฟ จะก่อให้เกิดจิตใจกลุ่มผู้ชายเกิดการปะทะกันขึ้น กองทัพจะมีการออกมาเคลื่อนไหว หลังจากที่เกิดจันทรุปราคาไปแล้ว จะเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ด้านการท่องเที่ยว ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก ส่วนกฤษ์ที่เกิดอยู่ในมูลละนักษัตริย์ที่ 19 เป็นราศีผู้มักน้อย แต่จะทำให้คนเกิดการชิงดีชิงเด่นเห็นแก่ตัวเองมากขึ้น เชื่อมโยงถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เกิดความยุ่งยากของข้อตกลง และอนุสัญญาต่างๆ.
...
ชมคลิป