คดีจับกุม นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ ผู้ต้องหาปล้นฆ่าร้านทองที่ จ.ลพบุรีได้ ไม่ใช่เพียงแค่การปิดฉากคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ แต่ยังหมายถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่องความคิดเห็นต่อผลงานตำรวจ
กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศต่อกรณีตำรวจจับคนร้ายปล้นชิงทองที่ลพบุรี
ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 1,062 คน การดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ ระหว่างวันที่ 23-24 ม.ค.พบว่าร้อยละ 92.5 ทราบข่าวตำรวจจับคนร้ายปล้นร้านทองลพบุรี
ร้อยละ 96.9 คนที่ทราบข่าวมีความสุข พอใจ ที่ตำรวจรวบตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ภาพลักษณ์ตำรวจดูดีขึ้น
ส่วนใหญ่ระบุว่า คำคมตำรวจที่เป็นจริงคือ ร้อยละ 82.6 ระบุว่า ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ และร้อยละ 81.3 ระบุ หลับเถิดปวงประชา ตำรวจกล้าจะคุ้มภัย
แต่ที่น่าสนใจคือ ผลการเปรียบเทียบความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ระหว่างก่อนและหลังการเข้าจับกุมตัวคนร้ายคดีปล้นยิงชิงทอง จ.ลพบุรี พบว่า
ความเชื่อมั่นของประชาชนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 91.0 ก่อนจับคนร้าย ขยับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 97.4 ช่วงหลังตำรวจเข้าจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ทุกความรู้สึกชาวบ้านที่มีต่อตำรวจดูดีขึ้น
ประชาชนเชื่อมั่น เชื่อใจในการทำงานของตำรวจ
ที่สำคัญยังเชื่อว่า ในทุกคดีที่เกิดขึ้น ตำรวจคลี่คลายได้ ทำความจริงของคดีปรากฏได้
...
แม้ช่วงการจับกุมจะมีขบวนการ “เฟกนิวส์” นักสืบโซเชียลออกมาโจมตีการทำงานของตำรวจ
แต่การชี้แจงให้ข่าว การตอบคำถามของทีมงาน ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. และชุดทำงาน ที่ยืนยันการทำคดีด้วยพยานหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้ชาวบ้านกลับมาเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจ
เหมือนกับที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มือสืบสวน สอบสวน บอกว่า “ตำรวจทำตามพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างอะไรก็ได้ ตำรวจมีหน้าที่พิสูจน์ความจริงตามหลักฐาน”
คงเป็นคำตอบในตัวว่า ตำรวจจับคนร้ายตัวจริง จับฆาตกรโหดเหี้ยม “ไม่ใช่จับแพะ”
ผบ.ตร.นำทีมปิดคดีนี้ ทำให้ตำรวจเป็นพระเอกในสายตาประชาชน
ทำให้คนที่ทำตัวเป็น “นักสืบโซเชียล” ไม่มีราคา.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th