เป็นคดีดังชั่วข้ามคืน “ไอซ์หีบเหล็ก” นายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยม ชอบใช้ความรุนแรง ก่อคดีฆ่าอำพรางศพ ถูกเปิดโปงด้วยไหวพริบของ พ.ต.ท.ปิยรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บชน. จับกุม นายเฉลิมชล งะบัว อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรับว่ามีส่วนช่วยเหลือนายอภิชัยหรือไอซ์ฝังศพ น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ์ อายุ 22 ปี หญิงคู่ขาไว้ในที่ดินรกร้างด้านหลังบ้าน

พ.ต.ท.ปิยรัช รายงานข้อมูลคดีให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส.บช.น. ก่อนนำข้อมูลรายงานให้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ให้ชุดสืบสวน บช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สืบสวน บช.น. ร่วมกับชุด ดส.บช.น.ที่มี พ.ต.อ.จิรกฤต พ.ต.ท.ปิยรัช นำชุดอรินทราช 26 ขอหมายค้นศาลเข้าตรวจค้นบ้านนายอภิชัยภายในซอยเพชรเกษม 47 ตำรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอยู่ในสภาพขัดลำ เนื่องจากนายไอซ์พยายามต่อสู้ แต่อาวุธปืนเกิดติดขัด

พบยาไอซ์ อุปกรณ์เสพ 1 ชุด และจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิดใช้สำรวจความเคลื่อนไหวรอบตัวบ้าน พบหีบเหล็ก 1 ใบใส่กุญแจล็อกแน่นหนา พบถุงดำบรรจุอวัยวะชิ้นส่วนคล้ายศพมนุษย์สภาพเปื่อยผุพังถูกฝังอยู่ใต้ดินตามคำให้การของนายเฉลิมพล ทราบว่าเป็นศพของ น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ์

ตำรวจสอบเค้นนายอภิชัยจำนนด้วยหลักฐานรับสารภาพว่า ก่อเหตุฆ่า น.ส.กุ๊กกิ๊ก ปลายเดือน ส.ค.2562 หลังพา น.ส.กุ๊กกิ๊กมานอนค้างที่บ้านพักเพื่อเสพยาไอซ์และมีเพศสัมพันธ์กัน ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายด้วยเหล็กแป๊บ ใส่กุญแจมือและให้ น.ส.กุ๊กกิ๊กคลานเข้าไปนอนในหีบเหล็กปิดฝาสนิท เหยื่อสาวร้องขอชีวิต แต่นายอภิชัย ไม่สนใจปล่อยให้ขาดอากาศหายใจ ก่อนเรียกนายเฉลิมชล ลูกจ้างที่มั่วสุมเสพยาเสพติดมาช่วยขุดหลุมฝังศพ

...

พฤติกรรมโหดเหี้ยมของผู้ต้องหาและข้อมูลพัวพันหญิงสาวหลายคน ชุด ดส.บช.น.นำกลุ่มผู้ที่เคยร่วมเสพยาเสพติดกับนายอภิชัยหรือไอซ์มาสอบสวนเพิ่มพบว่ามีฆ่าอำพรางอีก 1 ศพ ฝังอยู่ในดินและ 2 ศพถูกทิ้งบ่อปลาข้างบ้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ชมเชยการทำงานของตำรวจ

กก.ดส.ที่ใส่ใจขยายผลจากคดีผู้เสพยาเสพติดมาเป็นคดี “ฆาตกรรมอำพราง” มอบหมายให้ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงติดตามคดีพร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.กองพิสูจน์หลักฐาน อาสากู้ภัยได้ลงพื้นที่ค้นหาในบ่อปลาข้างบ้านนายไอซ์ พบกระจุกผมและโครงกระดูกมนุษย์ ชิ้นส่วนกระดูกกรามติดฟัน ซี่โครง กระดูกชิ้นอื่นๆกว่า 298 ชิ้น

ชุดกู้ภัยงมได้เสื้อผ้าผู้หญิงถูกห่อหุ้มด้วยผ้ากระสอบ มีโครงประตูเหล็กขนาดใหญ่ทับไว้ มีลูกดัมเบลเหล็ก 5 กิโลกรัม พันด้วยโซ่ใส่แม่กุญแจล็อกถ่วงไม่ให้ลอยขึ้นมาและเก้าอี้ม้าหินทับไว้เหนือประตูเหล็กอีกชั้น ตำรวจนำประตูเหล็กดัดหนัก 60-70 กิโลกรัม ไปเทียบกับวงกบประตูทางเข้าบ้านผู้ต้องหาเข้ากันได้พอดี พล.ต.ท.ปิยะที่เข้ามารับผิดชอบคดีเชื่อว่าน่าจะมีศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายที่เกี่ยวข้องคดี อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

สิ่งที่งมขึ้นมาจากบ่อน้ำ ทำให้เห็นความโหดเหี้ยมของผู้ต้องหาที่พยายามปกปิดอำพรางศพ

ประวัติอาชญากรรมนายไอซ์ปี 2555 นายไอซ์เคยถูกจับข้อหา “กักขังหน่วงเหนี่ยว” หญิงสาววัย 17 ปี ไว้ในแมนชั่นย่านภาษีเจริญ ในห้องมีทั้งยาบ้า ยาไอซ์ ปืน 9 มม. จำนวน 6 กระบอกและกระสุนปืน 332 นัด และนายไอซ์มีคดี “ครอบครองอาวุธปืนผิดมือ” สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี คดี “หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น” ท้องที่ สน.เพชรเกษม และปี 2551 มีคดี “ข่มขืนผู้อื่น” เหตุเกิดที่ สน.ธรรมศาลา

นายอภิชัยหรือไอซ์เกิดในตระกูลเศรษฐีเก่าย่านบางแค ครอบครัวเคยมีธุรกิจตลาดชื่อดังชื่อ “ตลาดองค์วิศิษฐ์” อยู่ย่านบางแค ปัจจุบันปิดตัวลง เนื่องจากปี 2526 นายเฉลิมชัย องค์วิศิษฐ์ ผู้เป็นบิดาของนายไอซ์ ถูกตำรวจจับกุมข้อหาฆ่าหั่นศพ ด.ญ.นวลปราง บุนนาค เด็กหญิงลูกจ้าง เหตุเพียงเพราะโกรธที่ ด.ญ.นวลปรางเคาะกระจกตู้ปลาที่เลี้ยงเอาไว้

เมื่อนายเฉลิมชัยพ้นโทษถูกยิงเสียชีวิต ส่วนภรรยาซึ่งเป็นมารดาของนายไอซ์ หนีไปอยู่ต่างประเทศ ทิ้งไว้เพียงบ้านพักและสมบัติประเภทบ้านเช่า ห้องเช่า เป็นธุรกิจเอาไว้ให้ใช้เก็บค่าเช่าเลี้ยงชีพ

ชาวบ้านในละแวกบ้าน คนอยู่ในซอย เกรงกลัวพฤติกรรมของนายไอซ์ที่ชอบใช้ความรุนแรง ชาวบ้านหลายคนถูกยิงข่มขู่ ยิ่งเมื่อเสพยาเสพติดเข้าไปจะควบคุมตนเองไม่ได้

แนวทางสืบสวนตำรวจเชื่อว่า น่าจะมีอดีตแฟนสาวนายไอซ์ในช่วงปี 2555 ชื่อ น.ส.จัน เป็นเด็กสาวไม่มีอาชีพ อาศัยกับแม่ใน อ.พระประแดง นายไอซ์ได้รู้จักชักชวนมาอยู่ด้วย เนื่องจากชื่นชอบที่ยอมรับพฤติกรรมของนายไอซ์ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเสพยาเสพติด พาหญิงสาวมาร่วมหลับนอน

...

ต่อมาได้เลิกรา น.ส.จัน เพราะนายไอซ์จับได้ว่าโกงเงิน ตำรวจเชื่อว่าตลอดเวลาที่ น.ส.จัน อยู่กินกับนายไอซ์ น่าจะรู้เห็นเหตุฆาตกรรมโหดทุกครั้ง อาจจะเคยช่วยอำพรางศพ ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว น.ส.จัน พยานปากสำคัญมาสอบถาม

ตำรวจชุดสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และแจ้งประชาสัมพันธ์เพื่อหาเบาะแสของหญิงสาวที่หายตัวไปจากบ้าน พัวพันรู้จักนายอภิชัยหรือไอซ์ อาจเป็น “เหยื่อ” ถูกฆาตกรรม เข้ามาตรวจพิสูจน์ยืนยันชิ้นส่วนกระดูก เพื่อให้ได้พยานหลักฐานแน่นหนาเอาผิดผู้ต้องหา

พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “คดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ความสำคัญเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางที่โหดเหี้ยม มอบหมายให้มาควบคุมดูแล เบื้องต้นได้เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุของนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือไอซ์ เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ได้พบกระดูกที่มีลักษณะคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ประมาณ 298 ชิ้น ซึ่งตอนนี้เชื่อว่ามีผู้สูญหายไม่ต่ำกว่า 3 ราย ที่อาจเป็นเหยื่อถูกฆาตกรรมจากฝีมือของนายอภิชัยหรือไอซ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำหรือเทคโนโลยีอื่นๆ มาช่วยค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ในทางคดีต้องรอการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของ รพ.ศิริราชและกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความรัดกุมในการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทั้งข้อหาเรื่องของการซ่อนเร้นอำพรางศพ และข้อหาฆ่าผู้อื่น”

...

“แต่จากพยานหลักฐานที่ตรวจพบเชื่อว่าเอาผิดผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ หากประชาชนหรือพยานที่เคยใกล้ชิดนายอภิชัย มีข้อมูลเบาะแสต่างๆเกี่ยวกับการกระทำของนายอภิชัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี รวมทั้งพ่อแม่ หรือผู้ปกครองท่านใดที่มีบุตรหลานผู้หญิงหายตัวไป หรือมีการแจ้งคนหายไว้ก็ขอให้ติดต่อประสานงานกับทาง สน.เพชรเกษม หรือสายด่วน 191 ได้ทันทีคดีนี้ขอเวลาตำรวจทำงาน อยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมหลักฐานขยายผล ทำความจริงให้ปรากฏ”

ต้องชมเชยการทำงานของชุด กก.ดส.บช.น. ที่ขยายผลจากคดียาเสพติดนำไปสู่คดีฆาตกรรมอำพราง เป็นผลงานในยุค พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ที่เน้นย้ำตำรวจ บช.น.ใส่ใจทุกคดี ทุกปัญหาของสังคม ช่วยหยุดฆาตกร หยุดความรุนแรง โหดเหี้ยม ไม่ให้มีใครต้องมาสูญเสียอีก.

ทีมข่าวอาชญากรรม