ลำปางยังอ่วมหนักดอยพระบาทเผาป่า ไม่เลิก ส่งผลฝุ่นปกคลุมท้องฟ้าเป็นสีทอง จังหวัดถึงทางตันยิ่งแก้ยิ่งหนัก ขอความร่วมมือห้ามเผาล้มเหลว ผอ.โรงเรียนให้นักเรียนสวมหน้ากากและงดทำกิจกรรม เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจกับสุขภาพเพราะอยู่ใกล้ดอยพระบาทเพียง 2 กม. ส่วนตำรวจ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นำเครื่องบินเล็กบินตรวจทางอากาศ ตะลึงพบหมอกควันหนาแน่นวิสัยทัศน์การมองเห็นแค่ 2-3 กม. ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานฝุ่น PM2.5 กรุงเทพฯ ปริมณฑลยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ “บิ๊กป้อม” รองนายกฯ ลงพื้นที่กรุงเก่า ติดตามการรับมือน้ำทะเลหนุนแม่น้ำเจ้าพระยา
หลายพื้นที่ยังประสบปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นพิษ โดยเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ลำปาง ยังมีการจุดไฟเผาป่าบนดอยพระบาทต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน โดยเที่ยงวันเดียวกันในตัวเมืองลำปาง ค่าฝุ่นละอองอยู่ที่ 95 มคก./ลบ.ม. ท้องฟ้าเป็นสีเหลืองทอง จนมองไม่เห็นดอยพระบาท นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง สั่งให้นายอำเภอทุกอำเภอกำชับ กำนัน ผญบ.ส่งรายชื่อลูกบ้านที่มีอาชีพหาของป่าเพื่อจะได้เรียกเข้ามาขอความร่วมมือกับการแก้ปัญหา ส่วนการจุดไฟเผาป่าริมถนนสั่งให้ตำรวจ และแขวงการทางลำปาง เข้ามามีส่วนดูแลด้วย หากพบมีการจุดไฟเผาให้คุมตัวดำเนินคดีเฉียบขาด
ว่าที่ ร.ต.ชีพสิทธิ์ ฮั่นเกียรติพงษ์ ผอ.โรงเรียนพินิจวิทยา อ.เมืองลำปาง เผยว่า หลังมีฝุ่นละอองเกินมาตรฐานได้ให้นักเรียนงดกิจกรรมกลางแจ้ง และอยู่ในห้องเรียนต้องสวมหน้ากากด้วย แม้จะมีอุปสรรคด้านการเรียนบ้าง ก็ต้องใส่เนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้กับดอยพระบาทเพียง 2 กม.เท่านั้น และเพื่อให้ผู้ปกครองนักเรียนสบายใจ และมั่นใจว่าทางโรงเรียนมีการดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด
...
ขณะที่ พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สั่งให้ พ.ต.ท.สมสิทธิ์ เตชะอุด สวป. ออกตรวจพื้นที่ทางอากาศโดยเครื่องบินเล็ก เพื่อกวดขันและป้องกันการลักลอบเผาในที่โลงแจ้งและไหล่เขาในเขต ต.ออนใต้ ต.ร้องวัวแดง และ ต.ห้วยทราย พบเช้าวันเดียวกันสภาพอากาศหมอกควันยังหนาแน่นวิสัยทัศน์การมองเห็น 2-3 กม. ไม่พบมีการลักลอบเผาในที่โล่งแจ้ง รวมทั้งไหล่เขา และเชิงเขาแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.บางบอน รวมทั้งจิตอาสาตำรวจ และประชาชน เยาวชนสัมพันธ์รุ่น 378 นำกลุ่มเยาวชนปลูกต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนเอกชัย ช่วงหน้า สน.บางบอน โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางบอน ครูและนักเรียน ร.ร.สารสาสน์วิเทศบางบอน ร่วมกันปลูกต้นเฟื่องฟ้า ไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆกว่า 200 ต้น หวังคลายพิษฝุ่นช่วยลดฝุ่น
ด้าน พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า ผกก.สน.ลำหิน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่สำนักเขตหนองจอก นำรถน้ำเข้าไปฉีดทำความสะอาดล้างคราบฝุ่นภายในโรงเรียนวัดสามง่าม เขตหนองจอก เตรียมพื้นที่เป็นสนามสอบ O-NET วันที่ 1 ก.พ. พร้อมนำหน้ากากกันฝุ่น 800 ชิ้น ไปมอบให้กับโรงเรียน หลังมีเด็กนักเรียนลาป่วยกันมากผิดปกติตั้งแต่ช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 และขณะเจ้าหน้าที่กำลังประกาศรณรงค์ให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยอยู่นั้น มีนางจรินทร์ทิพย์ ทองสมัย อายุ 63 ปี เดินทางมาขอรับตัวหลานชายวัย 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 จากโรงเรียนเพื่อไปพบแพทย์ด่วน เนื่องจากมีไข้ขึ้นสูงเชื่อว่าหลานป่วยเพราะฝุ่น PM 2.5 แน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีสุขภาพดีแข็งแรงไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน
นางยุพินพร สุนทรารักษ์ ครูประจำชั้น ป.6 โรงเรียนวัดสามง่าม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. มีนักเรียนป่วย ลาหยุดและให้ผู้ปกครองมารับตัวแบบเร่งด่วนมากกว่าช่วงอากาศเป็นปกติ ทางโรงเรียนให้ครูประจำชั้นสำรวจนักเรียนในปกครองทุกเช้า รายงานตรงถึง ผอ.โรงเรียนว่า แต่ละวันมีเด็กป่วยกี่คนและให้ติดตามอาการลูกศิษย์อย่างใกล้ชิด ทุกเช้าจะมีคนคอยวัดไข้และสแกนนักเรียนที่มาโรงเรียน หากเห็นว่าอาการไม่ดีจะแจ้งให้ผู้ปกครองมารับไปหาหมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กรายอื่นๆติดไข้ไปด้วย
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบค่าฝุ่นระหว่าง 30-54 มคก./ลบ.ม. ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ ค่าฝุ่นละอองยังเกินมาตรา ส่วนภาคเหนือ ตรวจพบค่าฝุ่น 20-100 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น
ถึงระดับกระทบสุขภาพมี 3 แห่ง คือ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง วัดค่าฝุ่นได้ 100 มคก./ลบ.ม. รวมทั้ง ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง วัดค่าฝุ่นได้ 95 มคก./ลบ.ม และ ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ วัดค่าฝุ่นได้ 92 มคก./ลบ.ม. นอกจากนี้ยังมีเกินมาตรฐานที่บริเวณ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา ต.บ้านดง ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน และ ต.ช้างเผือก ต.ศรีภูมิ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่
ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง สายวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามผลการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ที่ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงดูปัญหาแล้งพร้อมเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาน้ำเค็มรุกแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะหากน้ำในแม่น้ำมีค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค อุตสาหกรรม และการผลิตน้ำประปาอีก ตน จึงลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง และสั่งการให้กรมชลประทาน ร่วมกับการประปานครหลวง (กปน.) เพิ่มการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง สนับสนุนการผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และให้กระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงเกษตรฯ ติดตามสถานการณ์ พร้อมวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่สำคัญขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ภายใต้การขับเคลื่อนของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)
...