พระราชทาน ปฏิทินหลวง

เล่มแรก-รัชกาลที่10 กทม.และต่างจังหวัด ตักบาตรปีใหม่คึกคัก

ในหลวงพระราชทาน “ปฏิทินหลวง” เล่มแรกในรัชสมัยแจกจ่ายประชาชนในวันปีใหม่ ด้านบรรยากาศการทำบุญใส่บาตรวันปีใหม่คึกคักประชาชนทั่วประเทศ พร้อมใจนำข้าวสารอาหารแห้งใส่บาตรพระสงฆ์และสามเณรในแต่ละจังหวัด เป็นสิริมงคลชีวิตวันเริ่มต้นปีและอิ่มเอมใจในบุญ บุรีรัมย์ทำพิธีรับแสงอรุณแรกและขอพรพระสุริยเทพ ที่ปราสาทเขาพนมรุ้ง รอง ผวจ.ประจวบฯ นำชาวเมืองสามอ่าวและนักท่องเที่ยวเขียนชื่อ ลงผ้าสีเหลืองยาว 369 เมตร เดินขึ้นเขาช่องกระจก 396 ขั้น นำผ้าห่มองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

บรรยากาศวันแรกของศักราชใหม่ปี 2563 ที่ท้องสนามหลวง ประชาชนจำนวนมากร่วมทำบุญใส่บาตรเพื่อเป็นสิริมงคลและรับสิ่งดีๆสู่ชีวิตเนื่องในวันปีใหม่ โดยเมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 1 ม.ค. กระทรวงวัฒนธรรม นำโดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นำประชาชนและหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 68 รูป เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ มีพุทธศาสนิกชนสวมชุดสีขาว นำข้าวสาร อาหารแห้ง มาร่วมใส่บาตรกันอย่างเนืองแน่น ขณะเดียวกันบริเวณมณฑปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมอัญเชิญจากวัดพระศรีรัตนศาสดารามมาให้ประชาชนสักการะในช่วงปีใหม่ ตลอดทั้งวันมีประชาชนเดินทางมา กราบไหว้ขอพรและอธิษฐานขอสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตตลอดทั้งปี 63 นอกจากนี้ยังมีการเวียนเทียบรอบมณฑปเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมสรุปยอดการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2562 ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 33,190 วัด ในส่วนที่เป็นวัดและสถานที่สำคัญทางศาสนาในต่างประเทศอีก 2,280 แห่ง จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ คาดว่ามีผู้เข้าร่วมในประเทศจำนวน 22,432,966 คน

ที่พระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งวันมีบุคคลสำคัญคณะบุคคล ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า เดินทางมาลงนามถวายพระพร โดยสำนักพระราชวังจัดสถานที่สำหรับการลงนามถวายพระพร เพื่อแสดงความจงรักภักดี ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรม วงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ปฏิทินหลวง” ให้ผู้ที่เดินทางมาลงนามถวายพระพรทุกคน สร้างความปลาบปลื้มปีติให้ผู้ที่ได้รับ เพราะถือเป็นการมอบปฏิทินหลวงเล่มแรกของรัชกาลปัจจุบัน จากเดิมมีการมอบในวันขึ้นปีใหม่ทุกปีในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 และสิ้นสุดไปหลังจากที่เสด็จสวรรคต

สำหรับปฏิทินหลวงพระราชทานปีนี้ สำนักพระราชวังจัดพิมพ์ทั้งสิ้น 6 หมื่นเล่ม กระจายไปตามส่วนราชการในพระองค์ต่างๆ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพร เป็นสมุดปกหนังสีเหลือง สีประจำวันพระราชสมภพ ประทับตราพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. พร้อมข้อความว่า “ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2563 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่” ด้านในประกอบด้วย 21 หัวข้อ ที่เต็มไปด้วยประโยชน์และความรู้ อาทิ พระปฐมบรมราชโองการ ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย กาลโยค ประกาศสงกรานต์ ตารางปฏิทินย่อ ตารางวันเดือนปี อุปราคา วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระบรม ราชินีนาถ วันสำคัญของประเทศที่มีความสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันพระบรมราชสมภพและวันพระราช สมภพพระบรมวงศ์ วันประสูติพระบรมวงศ์ พระอนุวงศ์ วันสำคัญทางศาสนาต่างๆ และวันสำคัญทางวัฒนธรรมประเพณีจีน ฯลฯ

ด้านบรรยากาศทำบุญตักบาตรของประชาชนทั่วประเทศช่วงเช้าวันเดียวกัน ภาคใต้ ที่หน้าเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา นายอมร วงศ์วรรณ ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เป็นประธานพิธีทำบุญใส่บาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2563 แด่พระสงฆ์ 200 รูป เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัด อาทิ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สตูล พังงา ขณะที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ชาวบ้านก็ออกมาทำบุญใส่บาตร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ส่วนภาคอีสาน ที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมชาวบ้าน นักท่องเที่ยวร่วม 5,000 คน ทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ 222 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เช่นเดียวกับที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ประชาชนรวม 1,000 คน ใส่ชุดไทยและนุ่งผ้าซิ่น ตักบาตรถวายแด่พระสงฆ์ 199 รูป กิจกรรมทำบุญตักบาตร ชาวบ้านออกมาร่วมกันอย่างเนืองแน่นอีกหลายจังหวัด ประกอบด้วย ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บึงกาฬ กาฬสินธุ์ เลย อำนาจเจริญ และมหาสารคาม

ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รอง ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นประธานขบวนกองบุญ บวงสรวงมหาเทวาลัย ณ ลานหน้าปราสาทพนมรุ้ง ในพิธีรับแสงอรุณแรกแห่งปีใหม่และขอพรพระสุริยเทพ มี พล.ต.ศราวุธ มาศิริ ผบ.มทบ.26 น.ส.เพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นายภาณุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งและประชาชนร่วม 3,000 คน เดินขึ้นปราสาทพนมรุ้งเพื่อร่วมพิธีพร้อมสวดมนต์เสริมมงคลตลอดปีใหม่

ภาคเหนือ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระสงฆ์และสามเณร รวม 89 รูป ที่บริเวณถนนสิงหนาทบำรุง ภายในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ส่วนชาวไทยใหญ่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และนักท่องเที่ยว ร่วมทำบุญใส่บาตรที่บ้านกุงไม้สัก พระสงฆ์และสามเณรจากวัดภูสมะ เดินบิณฑบาตมาตามสะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ไผ่ทอดข้ามทุ่งนาความยาวกว่า 400 เมตร ท่ามกลางสายหมอกหนาและอากาศหนาวเย็น เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัด ประกอบด้วย สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พะเยา และนครสวรรค์ ชาวบ้านออกมาทำบุญตักบาตรเสริมมงคลชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ 63 กันอย่างคึกคักอิ่มเอมใจ

ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวบนภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย รับปีใหม่ 2563 มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นดอยรอชมทะเลหมอกและแสงอาทิตย์แรกของปีตั้งแต่เช้ามืด ไม่พลาดแวะถ่ายรูปกับเด็กชาวม้ง ที่แต่งชุดจัดเต็มมาร้องเพลงเต้นรำสร้างสีสันบนยอดดอย นายสนิท หอมนาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวขึ้นภูชี้ฟ้าช่วงปีใหม่วันที่ 1 ม.ค. ประมาณ 12,000 คน อุณหภูมิวัดได้ 11 องศาเซลเซียส ทำให้บรรยากาศมีความคึกคัก

ภาคกลาง ที่หน้าวิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผวจ. พระนครศรีอยุธยา นางนวลจันทร์ แย้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการและประชาชนร่วมทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ 299 รูป เป็นสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เช่นเดียวกับที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านหลั่งไหลไปทำบุญที่วัดสมานรัตนาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา สักการะองค์พระพิฆเนศ พร้อมทำพิธีแก้ปีชงในวันขึ้นปีใหม่

ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายภิรมย์ นิลทยา รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานพิธีขึ้นเขาห่มพระ พาท่องช่องกระจก เถลิงศกรับพร ประจำปี พ.ศ.2563 ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมเขียนชื่อลงผ้าสีเหลืองรวม 4 ม้วน ต่อกันได้ความยาว 369 เมตร ตั้งขบวนเดินขึ้นไปที่วัดเขาช่องกระจก มีบันได 396 ขั้น แล้วนำผ้าห่มองค์เจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผยผลสำรวจเรื่อง “สวดมนต์ข้ามปี” จาก 2,552 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 พบว่าสิ่งที่ขอเพื่อประเทศชาติในการสวดมนต์ข้ามปี ร้อยละ 79.5 ขอให้เศรษฐกิจดี ค้าขายดี หากินไม่ขัดสน ร้อยละ 74.6 ขอให้บ้านเมืองสงบสุข ร้อยละ 66.5 ขอให้ปลอดภัยจากอาชญากรรม ร้อยละ 64.3 ขอความรักความสามัคคีของคนในชาติ ส่วนสิ่งที่ขอเพื่อตัวเองในการสวดมนต์ข้ามปี ร้อยละ 82.1 ขอให้ร่ำรวย เฮงๆ งานดี เงินดี ร้อยละ 79.2 ขอสุขภาพแข็งแรง ร้อยละ 70.5 ขอเสริมบารมี ได้เลื่อนขั้น เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ร้อยละ 68.8 ขอครอบครัวมีความสุข ขณะที่การรณรงค์สวดมนต์ข้ามปีเข้าถึงคนในโลกโซเชียลมากประมาณ 39 ล้านคนเศษ