ผมทราบข่าวจากหน้าเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับมาหลายวันแล้วว่า “เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2019” หรือบุคคลที่รํ่ารวยที่สุดในตลาดหุ้นไทยปีนี้มีใครบ้าง

แต่ที่ยังไม่หยิบมาเขียนถึงก็เพราะตั้งใจจะรออ่านจากวารสาร “การเงินธนาคาร” ซึ่งเป็นผู้จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยที่ว่านี้ด้วยตัวของผมเองอีกครั้งหนึ่ง

เหตุเพราะเวลาที่มีการสรุปไปเป็นรายงานข่าวนั้นบางปีก็แค่ 5 อันดับแรก กับ 10 อันดับแรก หรืออย่างเก่งก็แค่ 20 อันดับแรก ทั้งๆ ที่วารสารการเงินธนาคารเขาจัดเอาไว้ถึง 500 อันดับ

ผมจึงมักจะรออ่านในวารสารฉบับนี้เสียก่อน เพื่อที่จะลุ้นว่ามีคนที่ผมรู้จักมักจี่คนไหนบ้างอยู่ใน 500 อันดับที่ว่านี้ แล้วค่อยเอามาเขียนขยายความอีกที

สำหรับปีนี้เพิ่งจะได้รับวารสารการเงินธนาคารเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขียนต้นฉบับวันนี้นี่เอง เป็นของฉบับเดือนธันวาคม พาดหัวหน้า 1 ไว้ตัวโตๆ เช่นเคยว่า “500 เศรษฐีหุ้นไทย 2019”

ผมรีบเปิดอ่านทันที และพบว่าปีนี้แชมป์อันดับ 1 หรือผู้ที่มีหุ้นอยู่ในมือและคูณราคาค่าหุ้น ณ วันที่วารสารการเงินธนาคารจัดอันดับคิดเป็นเงินสูงสุดถึง 120,959 ล้านบาทเศษ ได้แก่ คุณ สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า GULF นั่นเอง

เมื่อปีที่แล้ว (2561) คุณสารัชถ์ เป็นอันดับ 2 รองจาก นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ซึ่งครองแชมป์หุ้นมาแล้ว 6 ปีซ้อน แต่ปีนี้ (2562) มูลค่าหุ้นที่หมอเสริฐถือครองอยู่ที่ 66,110 ล้านบาท ลดลงไป 11,018 ล้านบาทเศษ จึงโดนคุณสารัชถ์แซงขึ้นไปเป็นแชมป์แทน และหมอเสริฐต้องลดมาเป็นรองแชมป์ครั้งแรกในรอบ 6 ปี ด้วยประการฉะนี้

...

อันดับ 3 ได้แก่ คุณ นิติ โอสถานุเคราะห์ ทายาทโอสถสภาถือครองหุ้นรวมมูลค่า 48,613 ล้านบาท อันดับ 4 คุณ คีรี กาญจนพาสน์ เจ้าพ่อรถไฟฟ้าบีทีเอส มูลค่า 43,613 ล้านบาท และอันดับ 5 คุณ สมโภชน์ อาหุนัย มูลค่า 42,084 ล้านบาท

ขอแสดงความยินดีกับแชมป์ใหม่ด้วยนะครับ ส่วนแชมป์เก่าคือหมอเสริฐที่ยอดเงินถือครองลดไปหมื่นกว่าล้านบาท ผมก็คิดว่าท่านคงไม่เสียใจอะไรมากนัก เพราะทั้งหมดเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น และตัวเลขก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ สำรวจปีหน้าราคาอาจจะกลับมาขึ้นใหม่ ทำให้หมอเสริฐกลับมาเป็นแชมป์อีกหนก็ได้ใครจะรู้?

ในส่วนของรายชื่ออื่นๆที่อยู่ในทำเนียบ 500 คนรวยของตลาดหุ้นปีนี้ความจริงก็มีบุคคลที่ผมรู้จักหรือเคยสัมภาษณ์พูดคุยด้วยอีกหลายๆท่าน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลในแวดวงธุรกิจที่ท่านผู้อ่านคงไม่รู้จักหยิบมาเขียนถึงท่าน อาจจะนึกไม่ออกว่าใครเป็นใคร

ผมขอข้ามไปดูรายชื่อ “คนดัง” ในทางบันเทิงที่ท่านผู้อ่านคุ้นเคยชื่อบ่อยๆ ซึ่งมาติดอันดับคนรวยในตลาดหุ้นกันดีกว่า...รายแรกเลยก็คือ คุณยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว” นั่นเอง

แอ๊ด อยู่อันดับ 53 เลยครับ ปีนี้มีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 5,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เขาถือครองอยู่ 3,805 ล้านบาท ถึง 1,938 ล้านบาท ดีใจด้วยนะแอ๊ดนะ

ถัดมาก็คือ “เสี่ยตา” ปัญญา นิรันดร์กุล แห่งเวิร์กพ้อยท์ ถือครองหุ้นมีมูลค่า 2,148 ล้านบาทเศษ เป็นอันดับที่ 165 ลดลงมาจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอันดับ 90 และถือครองหุ้นเป็นมูลค่าถึง 4,366 ล้านบาทเศษ แสดงว่าทำเงินหายไปถึง 2,217 ล้านเชียวนะเนี่ย เสี่ยตาของเราใน 1 ปี

ถัดมาอีกคนได้แก่ ประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติคู่หูคู่คิดของเสี่ยตานั่นแหละครับ อยู่อันดับ 172 ปีนี้หล่นจากอันดับ 93 ปีกลาย และถือหุ้นมีมูลค่า 2,056 ล้านบาทเศษ จากที่เคยถือไว้ 4,178 ล้านบาทเศษ หายวูบไป 2,000 กว่าล้านบาทเช่นกัน

ก็คงต้องขอแสดงความเสียดาย (ไม่ถึงกับเสียใจ) สำหรับทั้ง 2 ท่านไว้ด้วย ประสาคนรักกันชอบกัน และเอาใจช่วยทั้ง 2 มาเป็นเวลาเนิ่นนาน และทุกวันนี้ก็ยังเอาใจช่วยอยู่เสมอ

อย่างที่บอกไว้น่ะแหละ ราคาหุ้นเป็นตัวเลขขึ้นได้ลงได้ ไปปรับปรุงรายการให้ดีๆ เผลอๆปีหน้าอาจจะกลับมาสูงกว่าเดิม

แต่ไม่ว่าจะกลับหรือไม่กลับ จะสูงหรือไม่สูงก็ขอให้นึกถึงมูลค่าหุ้นตอนแรกเข้าตลาดกับเดี๋ยวนี้ยังไงก็ต่างกันเยอะที่ลดๆลงไปน่ะ แค่ขาดทุนกำไรเท่านั้นเอง

ถึงได้ใช้คำว่า “เสียดาย” และไม่ใช้คำว่า “เสียใจ” ยังไงล่ะ.

“ซูม”