นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในการประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ประชุมได้หยิบยกเรื่องด่วนพิจารณา คือ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ.2562 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอให้ชะลอการบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 โดยให้ฟื้น พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 กลับมาใช้ตามเดิมไปก่อน ทั้งนี้ ตนได้ชี้แจงต่อที่ประชุมโดยกล่าวยอมรับถึงความพร้อมด้านจิตใจและทัศนคติมี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีปัญหาและอุปสรรคในเรื่องของความพร้อมด้านบุคลากรและขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ
รมว.พม.กล่าวด้วยว่า ครอบครัวไทยตามสถิติมี 21.5 ล้านครัวเรือน มีกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มสตรีทั้งประเทศ 33 ล้านคน แต่มีกลุ่มสตรีเปราะบาง 13.9 ล้านคน และมีเยาวชน 19 ล้านคน ขณะเดียวกัน ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่มี 325 คน พนักงานราชการมี 274 คน และลูกจ้างประจำมี 126 คน รวม 725 คนที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ ขณะที่ทั้งกระทรวง พม. มีนิติกรที่มีประสบการณ์และความรู้ด้านกฎหมายเพียง 30 คน จึงขอให้ทุกคนเข้าใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ส่วนตนในฐานะที่เป็นนักการเมืองขอแสดงความรับผิดชอบ ยืนยันว่าสิ่งที่ได้ตัดสินใจเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เพราะอยากเห็นกฎหมายฉบับนี้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการคุ้มครองและแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวได้จริงตามเจตนารมณ์ผู้ร่าง ขณะที่งบประมาณของ พม.ที่จะได้รับในปีงบประมาณ 2563 มีเพียง 2.2 หมื่นล้านบาทที่ต้องดูแลทั้งเด็กแรกเกิด คนพิการ ผู้สูงอายุ สตรี เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ทั้งนี้ ที่ประชุมวุฒิสภามีมติอนุมัติ พ.ร.ก.ขยายกำหนดเวลาในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ.2562 ออกไปก่อน ด้วยคะแนน 187 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง.
...