เมื่อวันที่ 26 พ.ย.62 รัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติร่วมถกปัญหาอาชญากรรมไร้พรมแดน เน้นย้ำหาแนวทางแก้ไข ป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ด้านไทยในฐานะเจ้าภาพมุ่งเป้าตามกรอบเจรจา แก้ไขปัญหาอาชญากรรมชายแดน ในขณะเดียวกันการค้าขายต้องมีความสะดวก
พลตำรวจโท วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 13 เปิดเผยว่า ในปีนี้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพในการจัดประชุมอาเซียน และในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไข และเตรียมการร่วมมือกันในด้านอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ กับสมาชิกอาเซียน สำหรับประเด็นหลักของการหาแนวทางความร่วมมือ สืบเนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น การเดินทางก็มีมากขึ้น ปัญหาด้านอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ทำให้เรามีการจัดประชุมขึ้นในครั้งนี้ เพื่อที่ทุกประเทศจะได้มีความเข้าใจตรงกัน ในการที่จะปรับตัว แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และในส่วนของเจ้าหน้าที่เองก็สามารถรับมือกับปัญหาด้านอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ในทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางเทคโนโลยี ไซเบอร์ ปัญหายาเสพติด ความร่วมมือการจัดการด้านปัญหาชายแดนให้มีประสิทธิภาพ ให้คน บุคลากร สินค้าต่างๆ ผ่านพรมแดนได้อย่างสะดวก ในขณะเดียวกันก็ต่อต้าน และยับยั้งไม่ให้อาชญากรรมข้ามชาติสามารถข้ามแดนได้
“สำหรับประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ เราได้มีการนำเสนอปัญหาชายแดนที่ประเทศไทยมีการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง เราจัดการกับปัญหาชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด และในปีนี้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนได้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ซึ่งหวังว่าเราจะร่วมมือกันเพื่อจัดการกับปัญหาชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ”
พลตำรวจโท วิสนุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้นอกจากสมาชิกในอาเซียนแล้ว เรายังขยายวงออกไปยัง 3 ประเทศคู่เจรจา คือ ประเทศจีน ประเทศเกาหลี และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเข้ามาร่วมเสริมกำลังในการสร้างประสิทธิภาพการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะปัญหาด้านอาชญากรรมไม่มีพรมแดน การเข้ามาร่วมมือกันนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งวันนี้ก็เป็นการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และในท้ายที่สุดของการประชุม เราก็จะมีการลงนามความร่วมมือร่วมกัน
สำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรี ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 13 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2562 จะมีรัฐมนตรีแห่งประเทศสมาชิกอาเซียนจากบรูไน ดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาเลเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งรับผิดชอบในการจัดการกับประเด็นด้านอาชญากรรมข้ามชาติ เข้าร่วมในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 13 โดยการประชุมจะแบ่งเป็น 3 วัน วันแรกคือวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เป็นการประชุมเตรียมการระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมี พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานในการประชุม โดยมีหัวข้อสำคัญสำหรับการประชุมที่จะต้องพิจารณาและรับทราบด้วยกัน คือ
1.รับทราบรายงานผลการประชุมของประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 12 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
2.ที่ประชุมจะมีการรับรองแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านการต่อต้านการเพิ่มขึ้นของพวกนิยมความรุนแรงและแนวคิดหัวรุนแรง พ.ศ.2562-2568
3.ในส่วนประเทศไทยจะเตรียมผลักดันเรื่องการบริหารจัดการชายแดน (Border Management) ที่พยายามผลักดันในเวทีนี้มาเป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมจากการที่ท่านนายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวไว้ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 35 ที่ผ่านมา จะได้นำมาผลักดันในเวทีนี้
4.การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยในครั้งนี้ เป็นที่น่ายินดี จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ 1 กับสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมสร้างความพยายามในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ และความท้าทายเรื่องการข้ามพรมแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 หัวข้อหลักสำคัญ ภายใต้กรอบของการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ เราหวังว่าการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการอาเซียน-เกาหลีว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติจะประสบความสำเร็จ และเรายินดีต่อการประชุมที่สนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน-เกาหลี และเฉลิมฉลองการครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์ของคู่เจรจา
5.สำหรับวันที่ 2 คือวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีครบองค์คณะ กับรัฐมนตรีแห่งประเทศสมาชิกอาเซียน โดยหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ คือ ท่านพลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อนำผลการประชุมในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 มาพิจารณาและให้ความเห็นชอบ 6.สำหรับวันที่ 3 คือวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีครบองค์คณะ กับรัฐมนตรีแห่งประเทศคู่เจรจา ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ