(ภาพ : ยะลา2)
ด้วยดาหลาเป็นไม้ดอกพื้นเมืองที่มีการใช้ประโยชน์กันอย่างแพร่หลายในรูปของไม้ตัดดอกประดับ เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่พันธุ์ดาหลาที่ปลูกในปัจจุบันมีช่อดอกและก้านดอกใหญ่ น้ำหนักมาก เมื่อดอกบานกลีบดอกแผ่ใหญ่ การบรรจุหีบห่อทำได้ยาก ช่อดอกช้ำง่าย เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก
เพื่อเพิ่มความหลากหลายของพันธุ์ดาหลา ทั้งรูปทรง สีสัน และขนาดดอกที่เหมาะสมสำหรับส่งออก ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา กรมวิชาการเกษตร ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์ดาหลาเพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะทรงถ้วย น้ำหนักช่อดอกน้อย กลีบประดับสีสันสวยงาม ช่อดอกมีขนาดแตกต่างจากพันธุ์ที่มีอยู่เดิม ให้ผลผลิตดอกไม่ต่ำกว่ากอละ 100 ดอกต่อปี มาตั้งแต่ปี 2549 และมาประสบความสำเร็จได้ดาหลาพันธุ์ใหม่ 4 พันธุ์ ที่ผ่านการรับรองเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตร เมื่อ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
พันธุ์ยะลา 1 ช่อดอกสีแดงเข้ม กลีบประดับหนาเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ช่อดอกขนาดปานกลาง ให้ผลผลิตกอละ 386 ดอกต่อปี มีอายุปักแจกัน 5 วัน
...
พันธุ์ยะลา 2 ช่อดอกสีแดงอมส้ม ขอบกลีบมีสีเขียวอ่อน เด่นสะดุดตาเรียงซ้อนหลายชั้น ช่อดอกขนาดเล็ก ให้ผลผลิตกอละ 300 ดอกต่อปี มีอายุปักแจกันนาน 6 วัน
พันธุ์ยะลา 3 ช่อดอกสีแดงสด ขอบกลีบประดับสีขาว ช่อดอกขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตกอละ 227 ดอกต่อปี มีอายุปักแจกัน 5 วัน
พันธุ์ยะลา 4 ช่อดอกสีชมพูอมแดง กลีบประดับหนา ขอบกลีบมีสีขาว ช่อดอกขนาดปานกลาง ให้ผลผลิตกอละ 280 ดอกต่อปี มีอายุปักแจกันนาน 6 วัน
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร บอกว่า ดาหลาลูกผสมทั้ง 4 พันธุ์ให้ผลผลิตเกือบตลอดปี ส่วนด้านคุณภาพ พันธุ์ยะลา 1 ยะลา 2 ช่อดอกมีลักษณะโดดเด่นสะดุดตา ช่อดอกขนาดเล็กเป็นทรงถ้วย
ส่วน พันธุ์ยะลา 3 ยะลา 4 ช่อดอกขนาดกลางเป็นทรงถ้วย เหมาะสำหรับการนำมาใช้ประดับตกแต่ง กลีบประดับสีสดใสเรียงซ้อนเป็นระเบียบ ความยาวก้านช่อดอกสั้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางก้านช่อดอก ขนาดช่อดอก และน้ำหนักช่อดอกไม่ใหญ่มาก ทำให้ง่ายต่อการบรรจุหีบห่อและขนส่ง
เกษตรกรสนใจนำไปปลูกติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา 0-7320-6121 หรือ 09-3615-0707.