เข้าสู่ปีที่ 5 ของ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา บนเก้าอี้ ผบ.ตร. ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตำรวจทำงานเป็นมืออาชีพ เข้าถึงประชาชน ผลงานจับกุมคดีสำคัญต่อเนื่อง เป็นความร่วมมือของตำรวจทุกคนที่ทุ่มเททำงานตามคำสั่งของ ผบ.ตร.

นโยบายของ “บิ๊กแป๊ะ” ยึดแนวเดิม 6 ด้าน 1.การพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติเพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.การรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในสังคม 3.การป้องกันปราบปรามและลดระดับอาชญากรรม 4.การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ 5.การเร่งรัดขับเคลื่อนกระบวนการปฏิรูปองค์กรตำรวจ 6.การเสริมสร้างความสามัคคี และการบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ

น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก ร.ร.นรต.ประจำปี 2559-2560 วันที่ 13 เม.ย.2562 ความว่า “หน้าที่ของตำรวจนั้น นอกจากจะต้องพิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองแล้ว ยังจะต้องช่วยเหลือ ประชาชนให้มีความมั่นคงมั่นใจและปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เพราะฉะนั้นตำรวจทุกคนน่าจะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกำลังความรู้ความสามารถ ด้วยความอดทนเสียสละ และด้วยความสุจริตยุติธรรม

ทั้งจะต้องพยายามประพฤติปฏิบัติตนให้ดี จนเป็นที่ศรัทธาเชื่อถือไว้วางใจของประชาชน ถ้าตำรวจทั้งหลายประพฤติตนปฏิบัติงานตามที่กล่าวนี้ให้จริงได้ตลอด ก็คงจะมั่นใจได้ว่าน่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่ทุกอย่าง สามารถเรียกได้ว่าเป็นตำรวจแท้ ผู้จะสามารถอำนวยความผาสุกสงบและความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ประชาชนและประเทศชาติได้”

ปีที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์นำตำรวจทุกหน่วยเป็น “จิตอาสา” ทั้งกายและใจ ทำความดีด้วยหัวใจตามแนวพระราชดำริ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่พัฒนาคูคลอง สวนสาธารณะ ที่อยู่อาศัย อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เน้นการบริการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนตกทุกข์ได้ยาก ทำโดยไม่หวังผลตอบแทน

...

ตำรวจยึดมั่นนโยบายของรัฐบาล และความต้องการพี่น้องประชาชน พล.ต.อ.จักรทิพย์มีประสบการณ์ผ่านงานตำรวจแทบทุกหน้าที่ รู้ดีว่าปัญหาของตำรวจมีจุดไหนต้องรีบแก้ไข และการวางคนที่เหมาะกับงาน โดยเฉพาะรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. มือไม้สำคัญ มีส่วนร่วมขับเคลื่อนนโยบาย ตร.ที่เน้นการทำงานเป็นทีม

เห็นรายชื่อแบ่งงาน รอง ผบ.ตร. ถือว่าใช้คนได้ถูกกับงาน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 36 ประสบการณ์สืบสวนคดีสำคัญมาคุมงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 36 นักสืบจับมาเฟียและผู้มีอิทธิพล รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 36 ที่ผ่านงานสืบสวนและคดีระเบิด วางตัวงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 37 มือปราบเครื่องสำอาง รับผิดชอบงานกฎหมายและคดี พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 38 น้องเล็กรับงานบริหาร มี พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.รุ่น 38 ช่วยงานบริหาร พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. รับผิดชอบงานจเรตำรวจ ดูแลระเบียบวินัยตำรวจ ตำรวจที่นอกแถว

ปีนี้ ผบ.ตร.จะเน้นหนักนโยบายข้อ 6 “บำรุงขวัญตำรวจ” ตามแนวคิดที่ว่า เมื่อตำรวจมีความเป็นอยู่ที่ดี จะทำงานดูแลประชาชนได้เต็มที่ เป็นสิ่งที่ “บิ๊กแป๊ะ” ชอบพูดอยู่เสมอว่า “ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นปุ๋ย ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง ไปอยู่ที่ไหนต้องพัฒนาดูแลลูกน้อง”

เน้นนโยบาย 1.พัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจให้มีความสุขในการปฏิบัติงาน ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เพียงพอโดยไม่ให้เป็นภาระของตำรวจ ต้องนำเงินส่วนตัวไปจัดซื้อจัดหามาใช้ในราชการกันเอง 2.ปรับปรุงสวัสดิการของตำรวจ เพื่อให้ตำรวจมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยู่ได้อย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี 3.ให้มีการจัดกิจกรรมละลายพฤติกรรมและเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะทั้งภายในและภายนอกองค์กร 4.จัดให้มีศูนย์ให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยเหลือตำรวจที่ถูกฟ้องร้องทั้งทางอาญา ทางแพ่ง ทางปกครองและทางวินัย อันเนื่องมาจากการปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่

สถานีตำรวจ จุดแตกหัก ด่านแรกในการดูแลพี่น้องประชาชน มุ่งเน้นเป้าหมายการปฏิบัติงานตามวิสัยทัศน์ของ ตร. “เป็นหลักประกันความยุติธรรม และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล” ยึดถือค่านิยมร่วมกัน “พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่รักของประชาชน”

ผบ.ตร. ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการดูแลด้านความมั่นคงภายในประเทศ เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม และดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การมีส่วนร่วมของประชาชน การกระจายอำนาจลงสู่ระดับพื้นที่

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “ข้าราชการตำรวจทุกนายมีภารกิจสูงสุด คือ พิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติ เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำหน้าที่จิตอาสา พระราชทานตามแนวพระราชดำริ “เราทําความดี ด้วยหัวใจ” และภารกิจที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง คือ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนภายใต้ร่มพระบารมี โดยมุ่งหวังให้เกิดความสงบสุขในสังคม อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศไทยให้เดินหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศต่อไป”

...

“การทำงานจะเพิ่มความเข้มขึ้น ตำรวจต้องเอาบทเรียนในอดีตที่ผิดพลาดมาปรับปรุง ปัญหาเกิดตรงไหนปรับตรงนั้น เน้นทำงานเป็นทีม รับฟังเสียงประชาชน สวัสดิการความเป็นอยู่ของตำรวจเป็นเรื่องสำคัญ ผู้บังคับบัญชาต้องลงไปดูแลขวัญกำลังใจตำรวจ ให้ตำรวจมีความพร้อมในการดูแลพี่น้องประชาชน การทำงานของตำรวจจะดีหรือไม่เสียงสะท้อนประชาชนเป็นคำตอบ นโยบายที่เร่งด่วนคือการปราบปรามข่าวปลอม บิดเบือนหรือ “fake news” ทำให้ผู้บริโภคข่าวสารหลงเชื่อ เข้าใจผิด ชี้นำสังคม ทำให้ขัดแย้ง เป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย เด็กเยาวชนเข้าสู่ข้อมูลได้ทางสื่อโซเชียลเป็นอันตรายมาก และอีกเรื่องภัยพิบัติต่างๆ น้ำท่วม ดินถล่มเป็นเรื่องเร่งด่วน พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ต้องช่วยเหลือชาวบ้านทันที”

เป็นนโยบาย 6 ด้านและวางตัว รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนงานตอบสนองนโยบายรัฐบาล และความต้องการของประชาชนของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่มีบทเรียนและประสบการณ์ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ย่อมรู้ดีว่าปัญหาของตำรวจอยู่ตรงไหน จะแก้ไขได้อย่างไร

เชื่อว่าความเป็นผู้นำของ ผบ.ตร. ไม่ทอดทิ้งลูกน้อง ฝีไม้ลายมือที่ไม่เป็นรองใคร เพื่อนร่วมงานที่เลือกมา จะช่วยขับเคลื่อนตำรวจเข้าสู่มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน

...

ปีที่ 5 บนเก้าอี้ ผบ.ตร.ที่ยังคงแข็งแรงมั่นคง.


ทีมข่าวอาชญากรรม