วิกฤติพนักงานสอบสวนคร่าชีวิตนายตำรวจไปอีก 2 รายซ้อน

ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ใจฉกรรจ์ รอง สวป.สภ.เมืองสิงห์บุรี ยิงตัวตายในรถกระบะระหว่างไปอบรมงานสอบสวนเพื่อเตรียมขยับย้ายสายที่สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

วันรุ่งขึ้น ร.ต.อ.สุพจน์ สุขเกษม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ระเบิดอกตัวเองคาเครื่องแบบอยู่หน้าโรงพัก

กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซ้อนสะท้อนชีวิตพนักงานสอบสวน ที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีต ผบช.ภ. 1 ตำนานมือสอบสวนระดับอาจารย์ของวงการสีกากีต้องออกมาระบายความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความรู้สึก อับอาย อดสู หดหู่ สลดใจ สังเวชใจ

“กี่ศพต่อกี่ศพแล้วล่ะ แล้วผู้บังคับบัญชา ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำอะไรกันอยู่ ไม่สะดุ้งสะเทือนตกอก
ตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นบ้างเลยหรือ ไม่คิดที่จะดูแลแก้ปัญหากันบ้างเลยหรือ ปล่อยให้มันฆ่าตัวตายกันไปเรื่อยๆก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่เห็นมีอะไรกระนั้นหรือ”

พล.ต.ท.อำนวยกังวลว่าจะรอให้พนักงานสอบสวนฆ่าตัวตาย กันจนกว่าจะหมดหรืออย่างไร

เหตุแห่งปัญหา เจ้าตัวชี้ชัดว่า เกิดจากผลพวงของการแต่งตั้งในยุคก่อนหน้านี้ที่ไม่อยากจะเรียกว่าเป็น ยุคมืดของตำรวจ แต่มันมืดจริงๆ จะเอาตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ แต่มีคนอื่นครองตำแหน่งอยู่ ก็แต่งตั้งดึงมันออกไปเป็นพนักงานสอบสวนเสียเพื่อให้พ้นทาง
ให้ตำแหน่งว่าง แล้วเอาคนของตัวเองลงไป

...

ไม่สอบถามถึงความสมัครใจ

ไม่ดูความพร้อม ความรู้ความสามารถ ความถนัดเฉพาะทางทั้งสิ้น

“ลากเขามาถูลู่ถูกัง ทั้งที่เขายังไม่พร้อม ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยังสอบสวนไม่ได้ สอบสวนไม่เป็น บางคนพิมพ์ดีดยังไม่เป็น คอมพิวเตอร์ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ (กลัวไฟฟ้าช็อต) อายุก็มากแล้ว ไม่กล้าถามพนักงานสอบสวนรุ่นเด็ก”

ทำก็ไม่ได้ อายก็อาย เครียดก็เครียด ตายดีกว่า ต้องเสียชีวิตก่อนกำหนด ก่อนเวลา ก่อนวัยอันควร

วิญญาณเหล่านั้นคงวนเวียนติดตามทวงถามความถูกต้องเป็นธรรมจากผู้ที่กระทำต่อเขา.

"สหบาท"