ครูบุญชู ม่วงไหมทอง อดีตข้าราชการครูที่ตัดสินใจเกษียณอายุล่วงหน้าก่อตั้ง มูลนิธิบ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษ เผยว่า จากเดิมเป็นครูสอนทั้งเด็กพิเศษ เด็กปกติ เด็กพิเศษส่วนใหญ่มีฐานะไม่ค่อยดี เรียนไม่ทันเพื่อน จบ ป.6 ไม่สามารถไปเรียนต่อที่ไหนได้ สุดท้ายก็ถูกปล่อยปละกลายเป็นภาระให้สังคม ปี 2552 เลยตัดสินใจลาออก นำทรัพย์สินส่วนตัวมาก่อตั้งมูลนิธิฯ บนพื้นที่ 2 ไร่ รับเลี้ยงดูแลเด็กพิเศษจากทั่วประเทศ ปัจจุบันมีเด็กพิเศษเกือบ 200 คน
“ครูมองเห็นความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวของเด็กเหล่านี้ หากเรามีวิธีการสอนด้วยความเข้าใจและมอบโอกาสที่พวกเขาสมควรได้รับพวกเขาสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ ครูเชื่อว่า ‘ศาสตร์พระราชา’ เป็นสิ่งที่ดึงศักยภาพของเขาออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะนี่คือแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ทำให้พวกเขามีพัฒนาการพึ่งพาตนเอง สามารถประกอบอาชีพหารายได้ หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือพี่น้องในครอบครัวได้”
ครูบุญชู เล่าต่อไปอีกว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง นำเด็กจากบ้านครูบุญชู 20 คน พร้อมพี่เลี้ยง 10 คน เข้าไปรับการอบรมที่ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก เพื่อเรียนรู้หลักการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ และเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ทำให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนรู้และนำสิ่งที่เรียนรู้มาปรับปรุงพื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน เป็นแปลงเพาะปลูกพืชผักสวนครัว กลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติ
...
“แม้เด็กเหล่านี้จะมีปัญหาเรื่องการฟัง พูด อ่าน เขียน แต่หลังจากกลับมาอบรม เด็กดูกระตือรือร้นขึ้น มีพัฒนาการที่ดีอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในยามได้ลงมือปฏิบัติจริง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยกล่อมเกลาอารมณ์และจิตใจ ส่งเสริมให้เกิดพัฒนาการจนพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องรอแต่เงินบริจาค กระทั่งปัจจุบันเกิดการถ่ายทอดความรู้สู่เพื่อนๆ มีการจัดระเบียบการดูแลแปลงพืชผัก ลดค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหาร ขณะเดียวกันก็มีรายได้เสริมและกิจกรรมจากการทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม การถักพรมเช็ดเท้า การทำงานฝีมือเปเปอร์มาเช่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะติดตัวกลายเป็นวิชาชีพให้เขาต่อไปได้ โดยไม่ต้องงอมืองอเท้าแบมือขอใคร”.