ยาสูบ ยาเส้น ชะตาไม่ได้ต่างกัน ถูกโขกภาษีในฐานะภาษีบาป ขึ้นเท่าไรสังคมส่วนใหญ่ก็ไร้แรงกระเพื่อม ส่วนการยาสูบฯเองก็เจียนตาย ขาดทุนย่อยยับจากสาเหตุเดียวกัน ขึ้นภาษีถี่ยิบอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ปัญหาเหล่านี้น่าจะเกิดเพราะ หลงประเด็น คิดว่าขึ้นภาษีแล้วคนจะสูบน้อยลงแบบทันตาเห็น แต่ผลกลับออกมาอย่างที่รู้ๆกันอยู่
หลงยุค ไม่ทันโลก คิดแต่จะเอาเม็ดเงินจากใบยาสูบ ยาเส้น ในขณะที่ทั่วโลกไปไกลถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ สังเคราะห์เอาสารสกัดจากใบยาสูบมาทำเป็นตัวยาสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไม่เผาไหม้ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆเพื่อลดอันตรายจากการสูบบุหรี่มวน
หลงทาง...คิดว่าอันตรายจากบุหรี่มาจากนิโคติน ทั้งที่ตัวการทำให้เกิดโรคต่างๆเป็นสารเคมีในบุหรี่ประมาณ 100 ชนิด จากกว่า 6,000 ชนิด ที่เกิดจากการเผาไหม้ในบุหรี่ จึงเป็นที่มาของการคิดค้นนวัตกรรมใหม่
ที่พิสูจน์ทางการแพทย์แล้ว มีพิษภัยน้อยกว่าบุหรี่ 90% เพราะเขาสกัดสารที่ก่ออันตรายทิ้งไป
ที่สุดสิ่งเหล่านี้เลยกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายไทย ทั้งที่เกือบ 50 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย ถือเป็นอีกทางเลือกของผู้ต้องการเลิกบุหรี่ ทำให้ใครนำเข้ามาสูบในราชอาณาจักรไทย โดนทั้งจำทั้งปรับ เลยเป็นที่มาของการเตือนนักท่องเที่ยวทั่วโลกเวลาเข้ามาไทย สุดท้ายกระทบต่อการท่องเที่ยว
หนทางแก้...ภาษีต้องขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป แบ่งเป็นระยะกลางกับระยะยาว ให้เกษตรกรผู้ปลูก อุตสาหกรรมยาสูบมีโอกาสค่อยๆ
ปรับตัว โดยยึดหลักให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์
ด้านสาธารณสุข ไม่กระทบคลัง และอุตสาหกรรมยาสูบทั้งระบบ
ปรับตัวให้เข้ากับโลก แก้กฎหมายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไม่เผาไหม้ หรืออื่นๆ ให้กลายเป็นทางเลือกในการเลิกบุหรี่ หันมาวิจัยตัวยาที่ใช้กับสิ่งเหล่านี้ เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของโลก หรืออาจออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือหาตัวยารสใหม่ๆแข่งกับต่างชาติ
...
ทำอย่างนี้ได้ เกษตรกรไม่ต้องเดือดร้อนถูกลดโควตาปลูกใบยาสูบ เพราะอย่างไรเสียของเหล่านี้ต้องใช้วัตถุดิบจากใบยาสูบอยู่ดี ที่สำคัญในวงการเขารู้กันทั้งโลก ใบยาไทยคุณภาพไม่เป็นรองใคร...วินวินทุกฝ่าย.
สะ–เล–เต