มาเรียม พะยูนน้อยขวัญใจชาวไทยที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กำลังจะกลายเป็นปลาพะยูนพลิกโลก เมื่อคณะทำงานสัตว์ทะเลหายากภายใต้คณะกรรมการทะเลแห่งชาติ ได้เริ่มจัดทำ “แผนพะยูนแห่งชาติ” เพื่ออนุรักษ์ปลาพะยูนหนึ่งในสัตว์สงวนของไทยขึ้น ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน และเมื่อพบว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มาเรียมตาย คือเศษพลาสติกที่อุดตันขวางลำไส้ ก็เกิดกระแสตื่นตัวในการลดการใช้พลาสติกและลดขยะพลาสติก หน่วยงานภาครัฐอย่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังพิจารณาว่าจะสามารถเร่งรัดแผนการยกเลิกผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้งให้ได้ก่อนเป้าหมายเดิม คือปี 2565 ได้หรือไม่ แล้วหน่วยงานภาคเอกชนและประชาชนอย่างเราๆ จะทำอะไรได้บ้าง
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เรื่องของมาเรียมได้กลายเป็นวาระแห่งชาติ ผมว่าเป็นเรื่องดีที่คนออกมาพูดถึงผลกระทบที่เกิดจากพลาสติกกันมากขึ้น แต่ก่อนเราพูดถึงนกและเต่าตายเพราะกินพลาสติก วันนี้มีปลาพะยูนตายเพราะพลาสติก แล้วจะทำยังไงกันต่อไป
แต่ละปี มีขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเลกว่า 8 ล้านตันทั่วโลก และประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตขยะพลาสติกลงทะเลติดอันดับหนึ่งใน 5 ของโลก เราก็พยายามเปลี่ยนและสื่อสารเรื่องนี้ ปลูกจิตสำนึกเรื่องปัญหาเรื่องพลาสติกมาโดยตลอด ทำยังไง เราถึงจะช่วยกันลดการใช้ทรัพยากรและลดขยะต้นทางในธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ
พนักงานของเรา ช่วยกันดูแลเรื่องนี้ทั้งในการทำงานและชีวิตประจำวัน เช่น ลดการใช้กระดาษพิมพ์งาน ใช้กระดาษ 2 หน้า ทำระบบเอกสารให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ให้มากที่สุด ถ้าจะจัดกิจกรรม จัดงานต่างๆ ก็ลดพลาสติก ใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ ใช้ซ้ำพลาสติกที่ยังใช้ได้
เรามีการรณรงค์แยกขยะในทุกๆ พื้นที่ ที่สำนักงานของเราในตึกเอ็ม ทาวเวอร์ พนักงานจะไม่มีถังขยะส่วนตัว เพื่อให้แยกขยะทิ้งที่ส่วนกลาง เราส่งเสริมพนักงานให้ใช้แก้วส่วนตัวแทนการใช้แก้วที่ใช้แล้วทิ้ง มีนโยบาย zero foam ลดการใช้หลอด งดใช้ถุงพลาสติกในห้องอาหารพนักงาน ส่วนกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้ว ตอนนี้เราก็มีกิจกรรม “บางจากร่วมใจรีไซเคิลกล่องยูเอชทีเป็นหลังคาเขียว” เชิญชวนให้พนักงานในกลุ่มส่งกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีที่บริโภคแล้วไปร่วมรีไซเคิลกับโครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งภา(ฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
ในส่วนของสินค้าที่เราเสนอขาย ก็ให้ความสำคัญในเรื่องการลดขยะ ที่ร้านกาแฟอินทนิล เราเปลี่ยนจากแก้วพลาสติกธรรมดามาใช้แก้วพลาสติกจากผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่ย่อยสลายได้ ฝาก็เปลี่ยนมาเป็นแบบยกดื่ม ไม่ต้องใช้หลอด ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แก้วและฝานี้เราก็นำไปใช้ใส่น้ำส้มและน้ำอ้อยคั้นสดที่ร้านสะดวกซื้อสพาร์ด้วย
กาแฟอินทนิลของเรา ผมกล้าพูดเลยว่าเป็นแบรนด์กาแฟที่รักษ์โลกอันดับหนึ่งของเมืองไทย ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา สามารถลดการใช้แก้วพลาสติกได้มากที่สุดของประเทศ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้แก้วย่อยสลายไบโอคัพรวมกว่า 60 ล้านใบ และถ้าคุณเอาแก้วส่วนตัวไปใส่เครื่องดื่มที่ร้านอินทนิล ก็จะมีส่วนลดให้ 5 บาทเป็นการขอบคุณ ซึ่งอินทนิลถือเป็นร้านกาแฟรายแรกที่ทำแคมเปญในลักษณะนี้ โดยตั้งแต่เริ่มแคมเปญนี้มา ลูกค้าอินทนิลสามารถช่วยกันลดแก้วพลาสติกไปได้กว่าปีละ 2 แสนใบแล้ว
ส่วนที่ร้านสพาร์ ทุกวันที่ 4 ของเดือน จะงดแจกถุงพลาสติกและมีถุงผ้าให้ยืม เมื่อเร็วๆ นี้ เราก็เพิ่งส่งมอบถุงผ้า 1,500 ใบที่ได้จากโครงการรับบริจาคถุงผ้าใส่ยากลับบ้านผ่านร้านสพาร์ให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปส่งต่อให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ เวลาผมเข้าร้านสพาร์ ลองสังเกตพฤติกรรมลูกค้า เห็นบางคน ถ้าซื้อของเล็กน้อย ก็ไม่รับถุงพลาสติก บางคนก็เอาถุงผ้ามาเอง เห็นบ่อยขึ้นๆ ด้วย ก็ดีใจนะ
สำหรับลูกค้าที่เติมน้ำมัน ผมก็ขอเชิญชวนให้นำขวดน้ำดื่ม PET ที่ได้รับแจกไปมาร่วมโครงการ “รักษ์ ปัน สุข” ที่เราจัดกับอินโดรามา เอาขวดน้ำดื่ม PET ที่ใช้แล้วไปรีไซเคิลเป็นเส้นใย ผลิตเป็นเสื้อที่เราจะนำมอบให้เป็นสาธารณประโยชน์ต่อไป ส่วนแกลลอนน้ำมันหล่อลื่น เราก็มีโครงการ “Greenovative Lube Packaging” รวบรวมแกลลอนน้ำมันที่ใช้แล้ว เอาไปรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษที่พัฒนาสูตรโดยเอสซีจี
บีซีพีจี บริษัทในกลุ่มที่ทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ก็ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน LiFE for bcpg ในโทรศัพท์มือถือ ให้พนักงานใช้ เพื่อช่วยกัน “รบกวนโลกให้น้อยลง” ด้วยการประหยัดพลังงานและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีการเก็บสถิติแบบเรียลไทม์ แบ่งทีมเก็บคะแนนแข่งกัน เริ่มเปิดใช้งานมาประมาณ 1 เดือนแล้ว เห็นว่าพนักงานทุกคนช่วยกันกิจกรรมเพื่อโลกกันอย่างสนุกสนาน ก็ภูมิใจที่ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ
นี่เป็นแค่บางส่วนที่เราทำเพื่อ “ลดขยะต้นทางกับบางจาก” ซึ่งบางเรื่องอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าเราช่วยกันเท่าที่ทำได้ ผมก็หวังว่าเราจะยังสามารถส่งต่อโลกที่ยังสวยงามให้กับลูกหลานของเรา มาเรียมจะต้องไม่ตายเปล่าอย่างที่หลายๆ คนพูดกัน
พันธกิจสำคัญของบางจากคือการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ผมพูดมาเสมอๆ ว่าแม้ต้องทำธุรกิจ แต่เราไม่ได้มุ่งหวังกำไรมากเกินไปกว่าการร่วมกันสร้างความตระหนักใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยได้ ซึ่งลูกค้าและผู้ใช้บริการของเราก็สามารถมีส่วนช่วย “ลดขยะต้นทางกับบางจาก” ได้ทั้งที่ปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟอินทนิลและร้านสพาร์ได้ และเราไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอนครับ” ชัยวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย