ย้อนกลับไปในปี 2560 บรรยากาศรายงานจากผู้ค้าส่งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลคึกคัก ช่วงมีเลขเด็ดเลขดัง ส่งผลราคาขายส่งตามตลาดหลักตกอยู่ที่ใบละ 84 บาท...

ทำให้ลอตเตอรี่ราคาขายปลีกต้องขยับไปอยู่ที่ 90–120 บาท

ส่วนสลากเลขชุด 5 ใบ ขายส่งตกใบละ 95-96 บาท...จากเดิมที่เคยขายกันชุดละ 400 บาทก็เพิ่มเป็น 475-480 บาทต่อชุด...ทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มเป็นชุดละ 600-750 บาทเลยทีเดียว และในสลาก เลขชุด 15 ใบ ขายส่งชุดละ 1,600 บาท ขณะที่ขายปลีกจะอยู่ที่ 1,800-2,400 บาท...จากปกติที่ขายกันที่ 1,200 บาท

ปี 2555 โวยหวยแพงขายส่งโหดเล่มละหมื่น เสียงหนึ่งจากผู้ค้าสลากรายย่อยในวันนั้นที่ไปซื้อสลากย่านแยกคอกวัวระบายทุกข์ว่าตั้งแต่ช่วงกลางปี 2554 มีการปรับราคาขายขึ้นมาก จากเดิมเล่มละ (100 ใบ) 8,200-8,500 บาท พอปลายปีขึ้นไปเป็นเล่มละ 9,200-9,700 บาท และช่วงต้นปี 2555 ก็ขึ้นเป็นเล่มละ 10,000 บาท

โดยเฉพาะงวดที่มีวันสำคัญ เทศกาลตรุษจีน วันขึ้นปีใหม่ ผลกระทบที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้...ผู้ค้ารายย่อยต้องขายปลีกจากกลางปี 2554 ในราคาคู่ละ 100-110 บาท ทำกำไรต่อเล่ม 1,500-1,800 บาท...เป็นขายปลีกคู่ละ 110-120 บาท ในขณะที่กำไรต่อเล่มก็ได้น้อยลงเทียบต้นทุนที่รู้ๆกันอยู่เต็มอก 1 เล่ม 100 ใบ เล่มละ 7,300 บาท

หากยังจำกันได้ แก้สลากแพงโดยใช้ “ยาแรง” เข้มข้น เมื่อมีผู้ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกองสลาก ก็ให้ใช้ลอตเตอรี่ใบนั้นตรวจสอบย้อนกลับว่าเป็นโควตาของใคร แล้วตัดสิทธิ์โควตาทั้งลอตกับผู้ที่ได้รับโควตานั้นทันที วิธีนี้คาดกันว่าจะแก้ปัญหาได้ชะงักนัก

โควตาที่ยึดคืนกลับมา ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีใครเอา...เริ่มจากนำไปจัดสรรให้กับผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรือให้บริษัทไปรษณีย์ไทยไปบริหารจัดการขาย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่มีอยู่ทั่วไทยก็คงไม่ลำบากคุมราคา 80 บาทได้ชัวร์ๆ หรือ...ถ้ายึดคืนมาได้มากๆก็แบ่งให้โชห่วยบ้านๆที่เจอมรสุมห้างร้านสะดวกซื้อเปิดแข่งแย่งลูกค้าเป็นรายได้เสริมก็ได้

...

วังวนสัญญาณแก้หวยแพง ความนิยมเล่นหวยใต้ดินก็เป็นเช่นนี้ หนีไม่พ้นพิมพ์สลากเพิ่ม...บังคับใช้กฎหมายใช้ยาแรง แล้วก็เพิ่มทางเลือกออกหวยออนไลน์บนดิน

ขุนขยับแก้ปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลแพง...ไม่ว่าวันวานหรือวันนี้ดูเหมือนว่าการที่จะเพิ่มจำนวนสลากมากขึ้นอีกไม่ว่า 5 ล้าน 10 ล้านฉบับ จนถึงวันนี้ พ.ศ.2562 จากที่เห็นเป็นข่าวมีเค้าว่าจะขยับไปถึง 100 ล้านฉบับเข้าไปแล้ว กระนั้นก็ยังอยู่ในวังวนเดิมๆ “ยิ่งเพิ่ม...ก็ยิ่งเอื้อขาใหญ่”

คำว่า “ขาใหญ่” ทำความเข้าใจง่ายๆแบบชาวบ้านๆก็คือกลุ่มนายทุน กลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่ม...ที่มีเงินถุงเงินถังนั่นเอง

มุมมองผู้ขายลอตเตอรี่ โควตาแต่ละงวดจิ๊บๆ 5 เล่ม กล่าวย้ำให้ฟังว่า “ลอตเตอรี่” แพงตั้งแต่ต้นทาง สาเหตุหลักไม่ต้องคิดวิเคราะห์กันให้มาก หรือคิดกันไปไกลเกิน

ปัญหาสำคัญมีว่า จะทำอย่างไรก็แล้วแต่เขาสามารถรวมชุดเอาเลขเด็ดเลขดังมาขายได้อยู่แล้ว เพราะมีสมาชิกของเขา อย่าง 5 เสือหรือคนที่มีทุนเยอะๆทำกันมาตั้งแต่แรกๆในวันวานเขาก็จะมีลูกน้อง เครือข่ายที่ลงโควตาเอาไว้แน่นหนา ซึ่งปัจจุบันนี้ได้โควตา...คนละ 5 เล่มเท่ากันหมด

“ไม่รวมทั้งโควตาคนที่ไปกดรับจากตู้ ฉะนั้นคนที่เป็นยี่ปั๊วใหญ่ มีเงินเยอะก็จะให้คนที่มีโควตาเรียกว่ามีสิทธิอยู่แล้วไปเอาสลากมาขาย โควตาเหล่านี้ความจริงที่เกิดขึ้นบางคนก็แก่มาก บางคนก็ขายไม่ไหว หรือขายแล้วเหลือเยอะ...แต่เมื่อมีคนรับซื้อต่ออีกทอด เอาไปรวมชุดก็สู้ขายไปเอากำไรนิดๆหน่อยๆดีกว่า”

ถึงแม้ว่าจะไม่มีสลากจากโควตาคนเหล่านี้ กลุ่มทุนก็ยังมีสลากจากเครือข่ายที่มีอยู่ในมือ 1 เล่ม มีสลาก 100 ใบ...มี 5 เล่ม ก็ 500 ใบ สนนราคาใบละ 80 บาท ต้นทุนที่ผู้รับโควตาต้องจ่ายอยู่ที่ราวๆเล่มละ 7,040 บาท ตกใบละ 70.40 บาท แต่ก็เอามาขายปลีกย่อยใบละ 80 บาท...กำไรใบละเกือบ 10 บาท

สมมติว่าขายหมด 1 เล่ม 100 ใบ ใบละ 80 บาท ก็จะได้เงินส่วนต่าง 1,000 บาท ในความเป็นจริงก็ไม่คุ้มหรอกนะ ทั้งค่าใช้จ่ายนั่งรถเดินทางไปรับสลาก จะนั่งขายหรือเดินขายไม่คุ้มแน่ ถ้าจะเอาให้คุ้มจริงๆก็ต้องได้ส่วนต่างใบละ 20 บาท

อย่าลืมว่า...ลอตเตอรี่ในหนึ่งเล่มจะขายหมดทุกใบนั้นแสนยากนะ เลขไม่สวย เลขไม่ดัง อย่าง 000 ใครจะซื้อ ก็ต้องเก็บไว้เอง แต่ที่จะมากกว่านั้นคือถ้าตัวเลขหลักๆในเล่มได้ 0 สัก สามตัว...หรือสี่ตัว ข้างหน้าจะทำยังไง ขายยากแน่นอน...ส่วนโควตาที่กดมาจากตู้ ใครได้มาแล้วกองสลากก็จะส่งมาให้ทางไปรษณีย์ แต่ก็ไม่รู้จะได้เลขอะไร เอาเป็นว่าคนขายที่ได้โควตาก็ต้องเสี่ยงดวง จะได้เลขดีหรือไม่ดีมากน้อยแค่ไหนกันอย่างไร...

“แทงหวยตัวเองอีก”...ทีนี้ว่ากันถึงการรวมเล่ม ก็เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อค้ารายย่อยไปทำมาสร้างจุดดึงดูดคนซื้อได้ส่วนหนึ่ง แต่อีกมุมหนึ่งถามว่า...ทำไมถึงคุมราคาขายไม่ได้ ก็ต้องบอกว่ามีคนที่มีเครือข่ายใหญ่ เป็นเจ้ามือใหญ่ๆที่รับ...รวมสลากเอามาไว้ในมือ แล้วก็สามารถตั้งราคาได้ คุมราคาได้เอง

ที่บอกว่า...เอาง่ายๆถ้าใครที่มีศักยภาพรวมสลากได้สักหมื่นเล่มก็คุม (ราคา) ได้แล้ว เพราะสามารถเอามาแลกกันได้ ราคาขายปลีกก็จะแพงขึ้นมาอีกหน่อย

ถ้าจะออกหวยออนไลน์ หวยบนดิน...“สลาก 12 นักษัตร” ขึ้นมาใหม่ก็เจ๊งเลย จะมีคนที่คืนโควตาสลากกันเยอะมาก หวนกลับไปวังวนเดิมๆแน่นอน ตอนนี้ทุกคนที่ได้โควตาอย่าคิดว่าได้เยอะนะ ทำยังไง “ยี่ปั๊ว” ก็รวย

จริงๆแล้ว “หวย” ...ไม่ต้องแก้ ไปแก้เรื่องปากท้อง ขายอาหารแพงเสียดีกว่า

“แก้ปัญหาหวยแพง สู้หวยใต้ดิน...ด้วยเอาหวยออนไลน์มาแบ่งเค้กอีก การขายสลากยอดจะตก คืนโควตา...คนขายเร่ผู้พิการจะเดือดร้อน ปัญหาวันนี้เราไปจ้องจับผิดหวยเอามาเป็นประเด็น...

...

เป็นช่องตั้งคำถามทำไม? ขายแพง...

ความเป็นจริงมุมคนขายได้กำไรแค่คนละ 5 เล่ม ต่างจากกลุ่ม 5 เสือที่มีเงิน...มีเครือข่าย จะออกมาตรการยังไงก็เข้าทางคนมีเงินหมด...คนจนแค่หาเงินมาจ่ายโควตางวดละ 5 เล่มก็แย่แล้ว 3 หมื่นกว่าบาท”

รัฐบาลไม่ว่าจะออกนโยบายใดก็เข้าทางคนรวยหมด จะทำยังไง... ทั้งมีระบบรองรับทุกอย่าง จัดโควตา ฯลฯ หลายเรื่องแล้ว ทำไป...ยังไง ยิ่งตัดจับปรับ คนเล็กๆก็ยิ่งตายหมด ยิ่งทำร้ายคนจน

รัฐบาลไม่ว่าจะออกนโยบายใดดูเหมือนว่าจะเข้าทางคนรวยหมด ...สิ่งสำคัญคือ “หวยไม่ใช่ข้าว” ไม่ใช่ว่าเอาเดินมาขายบอกว่าใบละ 200 บาท...แล้วถ้าไม่ซื้อจะไม่ได้

ถ้าคนเล่นยังไงก็เล่น ซื้อใบละ 1,000 บาทก็ซื้อ เพราะเขาลุ้น ด้วยเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพก็สูง ก็เลยมีเรื่องให้ต้องลุ้นหวังลาภลอยกันมากน้อย

“หวยไม่ได้ปล้นเราเป็นเรื่องของคนที่ต้องการ ห่วงเรื่องปากท้องดีกว่า ไม่มีใครบังคับให้ซื้องวดนี้ 100 ใบ...อาจจะรำคาญที่เขามาตื้อให้คุณซื้อหน่อย แต่เขาไม่สามารถหยิบเงินในกระเป๋าคุณเองได้เลย ถ้าคุณไม่อยาก”

วังวน “ลอตเตอรี่แพง” จะจบลงตรงไหน เมื่อไหร่ และอย่างใด ชวนให้ติดตามเหลือเกิน...จะแก้กันแบบลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง หรือสร้างโปรเจกต์เพื่อเอาใจพวกพ้องนายทุนกลุ่มธุรกิจ กินอิ่มๆนิ่มๆ ชิลด์ๆสบายกระเป๋าทุกงวด?...ไม่นานปลาซิวปลาสร้อยอย่างเราๆท่านๆคงได้รู้กัน.