ปฏิเสธไม่ได้กับกระแสที่กำลังมาแรงทั่วทุกมุมโลก เทรนด์ลดโลกร้อน ลดใช้ถุงพลาสติก ไปจนถึงการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เหล่านี้ล้วนส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

ล่าสุดสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา รายงานผลจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของอเมริกันชน ที่ต้องการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้คนส่วนใหญ่ลดการใช้พลาสติกและโฟม หันมาใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้

ปีนี้รัฐต่างๆในสหรัฐฯเลยกำลังผลักดันให้มีกฎหมายการห้ามใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและโฟม ทั้งในส่วนของธุรกิจบริการอาหาร รวมไปถึงภัตตาคารและร้านอาหาร โดยมีรัฐแมรีแลนด์ ฮาวาย และวอชิงตัน กำลังเสนอร่างกฎหมายออกมาบังคับใช้

รัฐแมรีแลนด์น่าจะเป็นรัฐแรกของสหรัฐฯที่ห้ามธุรกิจบริการอาหารใช้บรรจุภัณฑ์ ถ้วยทำจากวัสดุพลาสติกและโฟม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอร่างกฎหมายของสภานิติบัญญัติของรัฐ

รัฐฮาวาย วุฒิสภาของรัฐผ่านร่างกฎหมายห้ามมิให้มีการจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ประเภทเครื่องดื่มขวด เครื่องใช้ไม้สอย กล่องบรรจุอาหาร ถุงพลาสติก หลอดดูด และยังมีกฎหมาย SB11 มิให้ภัตตาคาร ร้านอาหาร เสิร์ฟอาหารที่ใช้ภาชนะทำจากพลาสติกแก่ลูกค้า ขณะนี้กฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนรัฐ

วอชิงตัน วุฒิสภาของรัฐผ่านร่างกฎหมาย Senate Bill 5323

ห้ามใช้ถุงพลาสติกทั่วทั้งรัฐ ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรอยู่ในขั้นตอนการพิจารณากฎหมายอนุญาตให้ร้านค้าใช้ถุงกระดาษรีไซเคิลแก่ลูกค้า และถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ พร้อมกับกฎหมายบังคับให้ร้านคิดเงินค่าถุงใบละ 8 เซ็นต์จากลูกค้า

เมื่อกฎหมายได้เปิดโอกาสให้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบย่อยสลายได้ นับเป็นโอกาสของวัสดุธรรมชาติทดแทนของไทย เกษตรกร
ผู้ผลิต ผู้ส่งออกก็ต้องปรับตัวรับทรัพย์.

...