องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดให้ทุกวันที่ 1 มิ.ย.ของทุกปี เป็น “วันดื่มนมโลก” (World Milk Day) เพื่อให้ความสำคัญ สนับสนุน และกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการบริโภคนม ด้วยการให้ความรู้และคุณประโยชน์ของนมให้แก่ประชาชน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรมอนามัย, สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.), สมาคมนิสิตเก่าสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์, สมาคมนิสิตเก่าอุตสาหกรรมเกษตร ม.เกษตรศาสตร์, สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย และนายกสมาคม โฆษณาแห่งประเทศไทย ได้ลงนามความร่วมมือในการผนึกกำลังรณรงค์คนไทยให้มีสุขภาพแข็งแรง โดยดื่มนมเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว

“สสส.จะช่วยส่งเสริมการรณรงค์ให้คนไทยดื่มนมมากขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้คนไทยยังดื่มนมน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งที่นมมีคุณประโยชน์อย่างมาก มีแคลเซียมและวิตามิน จึงควรให้ได้ดื่มนมทุกวัยดื่มได้ทุกวัน เช่น วัยแรกเกิด 0-6 เดือนให้ดื่มนมแม่อย่างเดียว เมื่อโตขึ้นจากนี้ก็กินอาหารตามวัยแล้วเสริมด้วยนมวัววันละ 1-2 แก้ว ส่วนคนอายุมากขึ้นก็ต้องดื่มเพื่อเสริมความแข็งแรงของกระดูก โดยอาจเลือกดื่มนมพร่องมันเนย อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการดื่มนมเปรี้ยวเพราะมีน้ำตาลสูง อาจทำให้อ้วนได้” ดร.นพ.ไพโรจน์กล่าว 

ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า โดยเฉพาะการส่งเสริมการบริโภคนมเพื่อทดแทนการดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน อาทิ เครื่องดื่มชา และน้ำอัดลม โดยที่ผ่านมาได้มีกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ เช่น กิจกรรมดื่มนมชมบอลที่มีกลุ่มนักศึกษาในสถาบันการศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก หรือกิจกรรมปาร์ตี้โนแอลในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ เป็นต้น สสส.ก็จะเน้นส่งเสริมรณรงค์ในส่วนนี้ และส่งเสริมให้วัยเรียนดื่มนมมากขึ้น เข้าใจประโยชน์ของการดื่มนมมากขึ้น เพราะแม้จะมีนมโรงเรียน ก็ยังมีปัญหาเด็กไม่ยอมดื่มนม ซึ่งต้องแก้ปัญหาในจุดนี้ด้วย

 

อาจารย์วิเชียร ผลวัฒนสุข ประธานเครือข่ายนมดีทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน กล่าวว่า ประเทศไทยมีการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเพื่อบริโภคของคนไทยมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกระจายทั่วประเทศ 25 จังหวัด และสามารถผลิตนมโคได้วันละกว่า 3,300 ตัน ช่วยลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากต่างประเทศและเป็นการลดดุลการค้าของประเทศได้เป็นอย่างดี การรวมตัวของเครือข่าย “นมดีทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน” มาจากการรวมตัวของภารรัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และนักวิชาการ เพื่อร่วมคิดและทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการดื่มนมมากขึ้นตามเป้าหมาย ให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงโคนม การผลิตนม และโภชนาการของนมที่ถูกต้องตามหลักวิชาการให้ผู้บริโภคต่อไป ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งเป้าให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นจาก 18 ลิตร/คน/ปี เป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2563 จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรณรงค์การดื่มนมของคนไทยอย่างต่อเนื่อง

“เครือข่ายองค์กรงดเหล้ามาเกี่ยวข้องอะไรกับการดื่มนม” ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ได้อธิบายว่า จากข้อมูลตัวเลขแบบคร่าว ๆ พบว่า มูลค่านมในไทยปี 2559 มียอดขายห้าหมื่นกว่าล้าน ในขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มียอดขายปีละไม่ต่ำกว่า 3 แสนกว่าล้านบาท หากเปลี่ยนค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นค่านมเพียงครึ่ง จะช่วยเพิ่มการดื่มนมเป็นสามเท่าตัว นอกจากนี้การรณรงค์ร่วมกับ สสส. ในช่วงแรกเคยมีสโลแกน “โตมาด้วยน้ำนม อย่าเสียคนด้วยน้ำเมา” และมีการทำกิจกรรมหลายอย่าง เช่น “ดื่มนมชมบอล” รวมไปถึงการสนับสนุน “ร้านนมสร้างสุข” ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้เข้ามาทำธุรกิจนมที่หลากหลายและเข้าถึงได้ในกลุ่มวัยรุ่น

“สสส.มีสปอตรณรงค์ ‘ให้เหล้าเท่ากับแช่ง’ หลายคนมักถามมาว่า ‘ถ้าไม่ให้เหล้าแล้วควรให้อะไร?’ การสร้างผลิตภัณฑ์นมขึ้นมาทดแทน และทำให้ดูดีมีราคาจึงเหมาะสมและคู่ควรกับการเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสต่าง ๆ เพราะนมเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก” ภก.สงกรานต์ กล่าวทิ้งท้าย 

ทางด้านนางสาวจิรประภา บุญปาน นักกำหนดอาหารวิชาชีพ โรงเรียนบางกอกพัฒนา ได้กล่าวว่า สารอาหารที่แนะนำสำหรับคนไทยในเด็กวัย 4-9 ขวบคือ แคลเซียมจำนวน 800 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่อายุ 9-71 คือ 1000 มิลลิกรัม/วัน เพราะนมประกอบไปด้วยสารอาหารทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างกระดูก เมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่น เช่น ปลาตัวเล็กตัวน้อย เต้าหู้ เนย ถั่ว หรือผักใบเขียว อย่างไรก็ตามการรับประทานผักใบเขียว 4 ทัพพี จึงจะได้รับปริมาณแคลเซียมเท่ากับการดื่มนม 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ดังนั้นการดื่มนมจึงเป็นวิธีที่ดีในการรับแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย การดื่มนมจึงดีกับคนทุกวัย และสามารถดื่มได้ทุกวัน 

ทั้งนี้ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ตั้งเป้าการดื่มนมของคนในภูมิภาคอาเซียนไว้ที่ 35 ลิตร/คน/ปี เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการบริโภคนม การผนึกกำลังเครือข่าย “นมดีทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน” เพื่อดำเนินการตามเป้าหมายเพิ่มการบริโภคนมของคนไทยเป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2563 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะรณรงค์เพื่อให้คนไทยหันมาบริโภคนมมากขึ้น