มท.จัดระบบฐานข้อมูล-สธ.ดูพัฒนาการเด็ก
นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 มีมติสนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0-6 ขวบเดือนละ 600 บาท และขยายฐานรายได้จากเดิม 36,000 บาท เป็นไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 นั้น พม.โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้ดำเนินการปรับปรุงระเบียบกรมกิจการเด็กและเยาวชนว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินให้สอดรับกับมติ ครม. พร้อมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลโครงการให้รองรับกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิ์ไปแล้ว 600,000 คน คาดว่าการขยายฐานรายได้ครอบครัวจะทำให้มีเด็กได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น 1,500,000 คน ใช้งบประมาณ 10,400 ล้านบาท
ปลัด พม.กล่าวด้วยว่า พม.ได้ดำเนินโครงการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินอุดหนุน การตรวจสอบสถานะของผู้มีสิทธ์ิ และการติดตามความก้าวหน้ากลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ พม.จะเปิดให้ผู้มีสิทธิ์รายใหม่ได้ยื่นคำร้องขอรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. ถึง 31 ก.ค.2562 โดยผู้มีสิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ในส่วนภูมิภาคให้ยื่นคำร้องได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เด็กอาศัยอยู่
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โทร.0-2255-5850-7 ต่อ 121,122,123,147 และ 0 -2651-6534 หรือติดตามที่ Facebook โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด คาดว่าจะสามารถจัดสรรเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขก็มีการติดตามพัฒนาการของเด็กอย่างต่อเนื่อง
...
ด้าน พ.ญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลปี 2561 ที่ได้ประเมินพัฒนาการเด็กในโครงการซึ่งถือเป็นเด็กที่อยู่ในกลุ่มด้อยโอกาส พบว่าเด็กเหล่านี้มีระดับพัฒนาการที่ดีขึ้น แม้ภาพรวมอาจยังไม่เท่ากับเด็กทั่วไป แต่ก็เป็นเป้าหมายที่เราจะติดตามแม่และเด็กเพื่อพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นข้อดีที่โครงการได้วางเงื่อนไขให้แม่จะต้องพาลูกมาพบแพทย์ตามนัด เพื่อดูพัฒนาการและส่งเสริมพัฒนาการ โดยมีสมุดสีชมพูคอยบันทึกสุขภาพ.