ศาลปกครองสูงสุด ยกคำร้อง กรณีให้เพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ คดีโฮปเวลล์ และให้ กระทรวงคมนาคม โดย รฟท. จ่ายคืนเงินค่าก่อสร้าง แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180 วัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 เม.ย. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. จ่ายคืนเงินค่าก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากการบอกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรม
ศาลปกครองมีคำพิพากษา กลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้ยกคำร้องของผู้ร้องทั้ง 2 และให้บังคับตาม คำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าลักษณะการโต้แย้งเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ นั้น ระบุว่า เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าลักษณะการโต้แย้งเพื่อให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ นั้น ระบุว่าเป็นเรื่องของผู้ร้องทั้งสองนั้น เป็นการโต้แย้งดุลพินิจ การพิจารณาข้อเท็จจริงการปรับใช้กฎหมาย และข้อสัญญาของคณะอนุญาโตตุลาการ จากการวินิจฉัยว่าคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้วหรือไม่ และแต่ละฝ่ายมีการรับผิดต่อกันหรือไม่อย่างไรซึ่งเป็นเรื่องระหว่างคู่สัญญาเท่านั้น ไม่ได้มีลักษณะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความไม่สงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม จึงไม่ปรากฏเหตุที่กฎหมายให้อำนาจศาลจะเพิกถอนคำชี้ขาดนี้ได้
และศาลปกครองให้บังคับตามคำสั่งของอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.51 คือ จะต้องคืนเงินค่าก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับจากวันที่คดีถึงที่สุด รวมถึงให้คืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วยเงินที่บริษัทได้ชำระเป็นค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินของ รฟท. ถึงก่อนวันบอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 2,850 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38 ล้านบาท และเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท
...
โดยในวันนี้มีเพียง ทนายความของฝั่งของบริษัทโฮปเวลล์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาเท่านั้น และหลังการฟังคำพิพากษา เดินทางกลับทันที ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ส่วนฝั่งของกระทรวงคมนาคม และ รฟท. ไม่มีตัวแทนเดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษา.